มติ ครม.เห็นชอบ 2.8 พันล.จัดเลือกตั้งวุฒิฯ ตั้งมูลนิธิรางวัล เจ้าฟ้ามหาจักรี ฉลองครองราชย์ 60 ปี ยืดลดดีเซลตามนัดอีกเดือน รับรองร่างแถลงผลประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงนิวเคลียร์ ตั้ง “พรพรรณ” นั่ง ผอ.สสวท.รับทราบ รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย 55 ต่ออายุ “พงศพัศ” นั่งเลขา ป.ป.ส.ต่อ แจง นายกฯห่วงMH370 สั่ง ทร-ทอ.ร่วมค้นหา กำชับ ผบ.ตร.อุดช่องโหว่ พาสปอร์ตถูกขโมย สั่งหน่วยเกี่ยวข้องเตรียมรับมือแก้ภัยแล้งล่วงหน้า
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ ร.ร.นายร้อยตำรวจ สามพราน จ.นครปฐม ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบกรอบวงเงิน 2,800 ล้านบาท ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 มี.ค.ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งชุดเดิมไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หาก กกต.เห็นว่างบประมานยังขาดเหลือหรือไม่เพียงพอ สามารถแจ้งความประสงค์ขออนุมัติเพิ่มไปยัง ครม.ได้
ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.เห็นว่าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นั้น กกต.ได้อนุมัติงบประมาณในการเลือกตั้ง 3,600 ล้านบาท ซึ่งทางสำนักงบประมาณ ระบุว่ายังคงมีงบประมาณเหลืออยู่ ครม.จึงมีความเห็นว่าให้ กกต.พิจราณาใช้เงินก้อนดังกล่าวให้หมด โดยสำนักงบประมาณได้รายงานด้วยว่า การเลือกตั้ง ส.ว.ที่จะมีขึ้น ทาง กกต.ได้คำนวณค่าใช้จ่ายการเลือกตั้ง คิดเป็นหน่วยเลือกตั้งละ 28,282 บาทต่อหนึ่งหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งที่ต้องดำเนินการประมาณ 9,900 หน่วย
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวต่อว่า ครม.มีมติเห็นชอบการจัดตั้งมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี หรือ Princess MahaChakri Award Foundation ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ ทั้งนี้ การประชุมสมัชชาการศึกษานานาชาติแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5-7 ตุลาคม 2549 เนื่องในโอกาสวันครูโลกเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และได้พิจารณาเห็นควรจัดให้มีการมอบรางวัล “Princess MahaChakri Award” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระปรีชาด้านการศึกษาของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเพื่อเป็นการยกย่องครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีคุณูปการต่อวงการศึกษาในระดับนานาชาติ รวมทั้งส่งเสริมคุณค่าของวิชาชีพครูในฐานะวิชาชีพชั้นสูง ในโอกาสเดียวกัน
โดย สำนักราชเลขาธิการ กองงานในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แจ้งมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่า ได้นำความกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาทแล้ว ทรงพระราชทานให้ใช้ชื่อว่า “Princess MahaChakri Award” เป็นรางวัลนานาชาติ จัดตั้งกองทุนของรางวัล โดยให้คุรุสภาเป็นหน่วยงานของกองทุนและมีคณะกรรมการจาก ศธ.องค์การยูเนสโก องค์การค้าของคุรุสภา สมาคมทางการศึกษา รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นผู้ดูแล และดำเนินการสรรหาผู้เหมาะสม เพื่อรับราชทานรางวัลในวันครูโลก ซึ่งควรจะเริ่มตั้งแต่วันครูโลก ปี 2007 เป็นต้นไป หรือจนกว่ากองทุนจะพร้อม
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญต่อเหตุการณ์อุบัติเหตุเครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบินMH370 เนื่องจากมาเลเซียเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียน โดยนายกฯแจ้งให้ ครม.ทราบว่าได้โทรศัพท์แสดงความเสียใจต่อผู้นำมาเลเซีย พร้อมทั้งเสนอตัวให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการค้นหาผู้สูญหาย และซากเครื่องบิน โดยสนับสนุนกำลังพลทหารทั้งกองทัพเรือและกองทัพอากาศ100กว่านาย และส่งเฮลิคอปเตอร์ออกช่วยค้นหา นอกจากนี้ นายกฯยังให้ควงามสำคัญเกี่ยวกับเรื่องพาสปอร์ต ของนักท่องเที่ยวชาวออสเตรีย และชาวอิตาลีที่ระบุว่าถูกขโมยไป โดยสั่งการ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ตรวจสอบข้อเท็จจริงและแจ้งกลับมาให้ทราบ เพื่ออุดช่องโหว่ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาคมโลกให้ความสนใจ ซึ่งนายกฯกำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)เตรียมมาตรการในการแก้ไข เพื่อให้เป็นไปตามหลักกฏหมายสากล และกฎหมายของประเทศ
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.มีมติให้ขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลออกไปอีก 1 เดือน ไปเป็นสิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย.57 โดยหลังจากนี้ต้องเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อีกครั้ง ทั้งนี้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้รายงานต่อที่ประชุม ครม.ถึงสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงว่าขณะนี้กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิติดลบ 7,405 ล้านบาท หรือคิดเป็น 125 ล้านบาท/วัน พร้อมกันนี้ได้ประเมินสถานะกองทุนฯ ในช่วง 6 เดือนหลังจากนี้ว่า มีโอกาสติดลบเต็มเพดาน 3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากวิกฤตยูเครนและรัสเซีย
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวอีกว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้ 1.เห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ The Draft Hague Nuclear Security Summit Communique ซึ่งจะเป็นผลลัพธ์หลักของการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ณ กรุงเฮก ระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคม 2557 2.อนุมัติให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นผู้แทนพิเศษ ร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ดังกล่าวข้างต้น และ 3.หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขเอกสารดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก
โดยทั้งนี้มีสาระสำคัญเพื่อของร่างแถลงการณ์ฯ เป็นเพียงการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำที่เข้าร่วมการประชุม ที่ประชุมจะใช้วิธีรับรอง (adopt) โดยไม่มีการลงนาม นอกจากนี้ ร่างแถลงการณ์ฯ มิได้ใช้ถ้อยคำที่มีเจตนารมณ์ให้เกิดนิติสัมพันธ์ภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้น ร่างแถลงการณ์กรุงเฮก จึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวต่อว่าประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอให้แต่งตั้ง นางพรพรรณ ไวทยางกูร เป็นผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามนัยมาตรา 21 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2541
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวอีกว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2555 ของคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุเป็นที่สำคัญต่อความมั่นคงและการพัฒนาของประเทศ สำหรับประเด็นที่เร่งด่วนและมีช่องทางเอื้อให้ดำเนินการได้ทันทีในระยะสั้น ตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 ไปดำเนินการให้เกิดผลโดยเร็วที่สุด แม้ว่าจะมีระบบเบี้ยยังชีพมาเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานแล้ว แต่มิได้หมายความว่าจะเพียงพอและเป็นหลักประกันที่มั่นคง รวมทั้งระบบที่รัฐให้แต่ฝ่ายเดียวนั้น คงยากที่จะรองรับปริมาณประชากรผู้สูงอายุที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อันอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านการเงินการคลังของประเทศในอนาคต การสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในวัยสูงอายุนั้น ควรเน้นให้ประชากรมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ การออมจึงเป็นรูปแบบหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการพยายามผลักดันให้มีกองทุนการออมแห่งชาติขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนออมเมื่อยามสูงอายุโดยรัฐช่วยสมทบ เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมสูงวัย รัฐควรเร่งดำเนินการเรื่องกองทุนการออมแห่งชาติให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งเร่งพัฒนาระบบหลักประกันทางเศรษฐกิจในรูปแบบอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้จากการเปลี่ยนแปลงทางประชากร และข้อมูลสถิติที่สำคัญเกี่ยวกับผู้สูงอายุ มีผลการคาดประมาณประชากรของประเทศไทย พ.ศ. 2553-2583 สัดส่วนของประชากรวัยเด็กและวัยแรงงานมีแนวโน้มลดลง ในขณะที่สัดส่วนของประชากรสูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากร้อยละ 13.2 ใน พ.ศ. 2553 เป็นร้อยละ 32.1 ใน พ.ศ. 2583 ในปี พ.ศ. 2560 จะเป็นปีที่สัดส่วนของประชากรวัยสูงอายุ สัดส่วนของผู้สูงอายุวัยปลายจะเพิ่มจากประมาณร้อยละ 12.7 ของประชากรสูงอายุทั้งหมดเป็นเกือบ 1 ใน 5 ของประชากรสูงอายุ ปัญหาสุขภาพประชากรสูงอายุจากข้อมูลพบว่า ในปี พ.ศ. 2554 ผู้สูงอายุมีปัญหาด้านการมองเห็นร้อยละ 47.4 เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2550 เล็กน้อย โดยปัญหาดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามอายุ มีปัญหาด้านการได้ยิน ประมาณร้อยละ 15 นอกจากนี้ยังพบปัญหาในด้านศักยภาพในการควบคุม การเคลื่อนไหว การพลัดตกหกล้ม การควบคุมระบบการขับถ่าย รวมทั้งข้อมูลการสำรวจประชากรสูงอายุในปี พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2554 แสดงให้เห็นว่าสัดส่วนของผู้สูงอายุทั้งชายและหญิงที่เป็นโสดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หมายความว่าประชากรกลุ่มนี้จะไม่มีโอกาสได้รับการเกื้อหนุนจากคู่สมรสหรือบุตรในยามบั้นปลายของชีวิต แนวโน้มการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุตามลำพังเพิ่มขึ้น ผู้สูงอายุไทยประมาณ 1 ใน 3 ของทั้งหมดยังคงทำงานเชิงเศรษฐกิจ แหล่งรายได้หลักของผู้สูงอายุ 3 อันดับแรก คือ บุตร การทำงาน และเบี้ยยังชีพ
ด้านการประเมินแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545 - 2564) ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2550 - 2554) ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์หลักในการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ สะท้อนว่าการดำเนินงานในภาพรวมของประเทศยังผ่านในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ประเทศไทยยังต้องเร่งดำเนินงานตามแผนผู้สูงอายุต่อไป เพื่อให้สามารถรองรับอัตราการเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมสูงวัย โดยผลจากการวิจัยเชิงคุณภาพชี้ให้เห็นว่าปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน คือการขาดความต่อเนื่องของนโยบายและการทำงานด้านผู้สูงอายุขึ้นกับผู้นำประเทศเป็นสำคัญ การขาดการแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและขาดงบประมาณสนับสนุน ชมรมผู้สูงอายุยังขาดความเข้มแข็ง และ อปท.ยังมีข้อจำกัดด้านกำลังคน ความรู้ด้านผู้สูงอายุ และระเบียบข้อบังคับในการใช้จ่ายงบประมาณเพื่องานด้านผู้สูงอายุ เพื่อให้งานด้านผู้สูงอายุก้าวหน้าต่อไป
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการและมอบแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งหลังจากที่นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ผ่านมาว่า การแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับประชาชนควรจะแก้ปัญหาล่วงหน้าไม่ควรรอให้เกิดปัญหาภัยแล้งก่อนแล้วถึงมาดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็จะไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มอบข้อสั่งการให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันวางแผนการบริหารจัดการน้ำทั้งในเขตพื้นที่ชลประทานและนอกพื้นที่เขตชลประทาน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด โดยขอให้ความสำคัญในเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคให้พอเพียงเป็นลำดับแรกก่อนนำน้ำไปใช้ในเรื่องของการเกษตรต่อไป อีกทั้งสั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับเกษตรกรเกี่ยวกับการปลูกพืชเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยเร่งสำรวจติดตามรายงานเกี่ยวกับผลผลิตพืชผลทางการเกษตรเนื่องจากหากเกิดปัญหาน้ำแล้งก็อาจจะส่งผลกระทบต่อปริมาณสินค้าการเกษตรทั้งระบบและในอนาคตอาจทำให้สินค้าการเกษตรขาดตลาดได้
นอกจากนี้ ได้มอบนโยบายเรื่องการประกาศเขตพื้นที่ภัยแล้งว่า ขอให้ยึดแนวทางการให้ความสำคัญกับพื้นที่และขอให้การประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งนั้นให้ประกาศเจาะจงลงไปเฉพาะพื้นที่ที่มีปัญหา เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภพ คุ้มค่าและประหยัดงบประมาณ
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวอีกว่า ครม.เห็นชอบให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ เลขาธิการป้องกันและปราบรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ดำรงเลขา ป.ป.ส.ที่จะหมดวาระ ในวันที่ 26 เม.ย. 57 เพิ่มอีก 1 วาระ โดยเริ่มมีผลวันที่ 30 เม.ย. 57
