นราธิวาส - ผู้เลี้ยงปลากระชังนราฯ กว่า 200 ราย เดือดปลาตายเป็นเบือหลังขอความช่วยภาครัฐแต่ไม่เหลียวแล จนชาวบ้านต้องรวมตัวกันมาขุดกองเนินทรายที่ปิดทางกั้นน้ำออกกันเอง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
วันนี้ (24 ม.ค.) สำหรับความเดือดร้อนของชาวบ้านกลุ่มนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านประมงชายหาดนราทัศน์ ซึ่งตั้งอยู่เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ซึ่งมีกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชัง จำนวนกว่า 250 ครัวเรือนอาศัยอยู่ โดยมูลเหตุมาจากกระแสลมแรงพัดพาเอาทรายในทะเลมาทับถมเป็นเนินกั้นการไหลเวียนของกระแสน้ำ ทำให้ปลาชนิดต่างๆ ของชาวบ้านเลี้ยงไว้ในกระชัง เช่น ปลาเก๋า ปลากะพงขาว และปลากะพงแดง ทยอยตายเป็นจำนวนมาก จากการขาดออกซิเจนหลังกระแสน้ำไม่หมุนเวียน แถมยังส่งผลทำให้น้ำในลำคลองเกิดการเน่าเหม็น ขยายผลทำให้กลุ่มชาวบ้านที่สามารถจับปลาชนิดต่างๆ ไปขายตามท้องตลาดได้ประมาณกิโลกรัมละ 120-180 บาท เริ่มสิ้นเนื้อประดาตัว
ซึ่งเรื่องดังกล่าวกลุ่มชาวบ้านได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อขอสนับสนุนให้การช่วยเหลือ แต่เรื่องดังกล่าวกลับเงียบหายไป ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันนำพลั่ว และจอบมาทำการขุดกองเนินทรายที่ปิดกั้นน้ำไหลเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน เพื่อให้ปลาในกระชังของชาวบ้านที่เลี้ยงไว้เจ้าละ 10 กระชัง รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,500 กระชัง กระชังละ 500 ตัว รวม 1,250,000 ตัว ที่รอคอยวันตายประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ สามารถรอดชีวิตเพื่อเจ้าของสามารถเลี้ยง และจับไปขายตามท้องตลาดเพื่อนำเงินที่ได้เล็กน้อยนี้ไปใช้หนี้สินที่กู้ยืมมาลงทุน
โดยนายอุดม สันติกาญจน์ อายุ 59 ปี ประธานกลุ่มเพาะเลี้ยงปลากระชังนราทัศน์ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นในทุกๆ ปี กว่าที่ทางราชการมาช่วยก็ทำให้ปลาต้องตายไปกระชังละ 2,000-3,000 ตัวแล้ว ซึ่งเรารอไม่ไหวจึงได้ร่วมแรงร่วมใจกันขุดเนินทรายเพื่อให้น้ำได้หมุนเวียน ไม่เช่นนั้นปลาในกระชังจะตายหมด จึงอยากให้ทางราชการมาทำการขุดลอก และทำแนวกั้นน้ำทะเลให้ถาวร เพื่อความอยู่รอดของกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชัง เพราะนี่คืออาชีพของชาวบ้านที่จุนเจือครอบครัว
