xs
xsm
sm
md
lg

OIC ชมไทยใช้สันติวิธีแก้ปัญหาไฟใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แถลงสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กลุ่มองค์การความร่วมมืออิสลาม ครั้งที่ 40 มติในที่ประชุมกล่าวชื่นชมการแก้ปัญหาโดยใช้สันติวิธีในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

วันนี้ (25 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.15 น. ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่มประเทศองค์การความร่วมมืออิสลาม ได้จัดประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ครั้งที่ 40 (OIC CFM 40) ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม ที่ประเทศสาธารณรัฐกินี ทวีปแอฟริกา มติที่ประชุมได้กล่าวชื่นชมพัฒนาการในการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาโดยใช้สันติวิธี และการพูดคุยสันติภาพ

โดยในระหว่างการประชุม ไม่มีการกล่าวโจมตีประเทศไทย สรุปสาระสำคัญในข้อมติทั่วไปได้ดังนี้ ชื่นชมความพยายามของเลขาธิการ OIC ในการประสานกับรัฐบาลไทย และผู้แทนชาวมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อการปรับปรุงเงื่อนไขให้ชาวมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีโอกาสในการจัดการกิจการของตนเองในเรื่องการประกอบกิจตามศาสนา ภาษา และวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ บริหารจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ โดยเคารพต่อรัฐธรรมนูญ และอธิปไตยของไทย

ซึ่งสอดคล้องกับแถลงข่าวร่วม ไทย-OIC เมื่อปี 2550 ยินดีต่อการลงนามในเอกสาร Gerneral Consensus ระหว่างรัฐบาลไทย กับ BRN รวมทั้งเรียกร้องให้การหารือสันติภาพนี้ครอบคลุมถึงกลุ่ม และองค์กรอื่นๆ ที่เป็นผู้แทนของชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการวางแผนที่ชัดเจนสำหรับการหารือในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชาวมุสลิม นอกจากนั้น ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการอย่างดีที่สุด และขยายการหารือให้ครอบคลุมถึงชาวมุสลิมทั้งหมด และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ เพื่อบรรลุผลสำเร็จที่เป็นธรรม และถาวร สำหรับปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามแนวทางแถลงข่าวร่วม ไทย-OIC เมื่อปี 2550

พ.อ.ปราโมทย์ ยังได้กล่าวอีกว่า จากข้อมติทั่วไปในการประชุมดังกล่าวจะเห็นได้ว่าได้มีการแก้ไขจากข้อมติทั่วไปในการประชุม ครั้งที่ 39 ซึ่งหลายฝ่ายมีความเป็นกังวลว่า อาจจะถูกนำมาถกแถลงกันอย่างกว้างขวางในการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้ เป็นเพราะว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาตามแนวทางสันติวิธี สนับสนุนกระบวนการพูดคุยสันติภาพ รวมทั้งการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเคารพในหลักกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนการไม่ย่ำยีต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นแก้ปัญหาที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ทำให้สถานการณ์ในภาพรวมมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ภาพลักษณ์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยต่อสายตาของกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมืออิสลามออกมาในเชิงบวกมากขึ้น

กลุ่มประเทศองค์การความร่วมมืออิสลาม ได้ประกาศจุดยืนในการเดินทางมาเยือนประเทศไทยทั้ง 3 ครั้ง ที่ผ่านมาว่า ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มิได้เกิดจากประเด็นศาสนาตามที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงนำมากล่าวอ้าง พร้อมทั้งได้กล่าวประณามการก่อเหตุรุนแรงว่า เป็นการกระทำที่ขัดกับบทบัญญัติของศาสนาอิสลามเพราะ “การฆ่าผู้บริสุทธิ์ 1 คน เท่ากับเป็นการฆ่ามวลมนุษย์ทั้งโลก”
   

กำลังโหลดความคิดเห็น