สุราษฎร์ธานี - โขลงช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง จ.สุราษฎร์ธานี ยังบุกเข้าทำลายพืชผลอาสิน และบ้านเรือนชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ทำลายเพิ่มอีก 2 หลัง สวนกล้วยหอมอีกจำนวนมาก ในขณะที่ชาวบ้านหวาดกลัวหนักไม่กล้ากรีดยางในเวลากลางคืน ต้องหันมากรีดกลางวันแทน ด้าน หน.อุทยานฯ เร่งประชุมทำความเข้าใจกับชาวบ้านไม่ให้ทำร้ายช้าง
สำหรับความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบฝูงช้างป่าที่เข้ามาทำลายพืชผลอาสิน และบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ ต.ปากหมาก อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านในพื้นที่บ้านสีทับ ม. 7 ต.ปากหมาก อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ฯ ต่างเฝ้าระวังฝูงช้างป่าลงทำลายพืชผลอาสินของนายคลาด และนางพรทิพย์ อยู่สุข แต่ไม่พบว่าฝูงช้างดังกล่าวลงมาในพื้นที่แต่อย่างใด
นางพรทิพย์ กล่าวว่า หลายคืนที่ผ่านมา โขลงช้างป่าได้ลงมาถึงข้างบ้านทำลายตัวบ้านส่วนหนึ่งและเดินอยู่รอบๆ ตัวบ้าน สร้างความหวาดกลัวให้แก่คนในบ้านเป็นอย่างมาก กลางคืนไม่กล้าออกไปกรีดยางหวั่นเป็นอันตรายถึงชีวิต ต้องหันไปกรีดยางในตอนกลางวันแทน ถึงแม้น้ำยางจะไม่ค่อยออกเหมือนตอนกลางคืนก็ตาม
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้สำรวจพบว่า โขลงช้างดังกล่าวได้ย้ายออกจากจุดเดิมเดินไปหากินยังพื้นที่ใกล้เคียง พบมีการทำลาย และกินต้นกล้วยหอม และต้นมะพร้าวน้ำหอม ของชาวสวนเสียหายไปจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังทำลายบ้านพักของชาวบ้านเสียหายทั้งหลังไปอีก 2 หลัง โชคดีชาวบ้านหนีทันจึงไม่เป็นอันตรายได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
นายสัมพันธ์ ศรีระบาย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่า โขลงช้างดังกล่าวมีจำนวน 12 ตัว เร่งประชุมทำความเข้าใจแก่ชาวบ้านมิให้ทำร้ายช้าง พยายามหลบหนีหลีกเลี่ยง เนื่องจากภายในโขลงช้างมีช้างแม่ลูกอ่อนอยู่ด้วย พร้อมระบุว่า ในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยพบว่าโขลงช้างดังกล่าวลงมายังพื้นที่ของชาวบ้าน
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สำรวจพบว่าโขลงช้างดังกล่าวอาศัยอยู่พื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหาร และน้ำ ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่โขลงช้างบุกลงมายังพื้นที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ แต่ในเบื้องต้นคาดว่าลงมากินกล้วยของชาวสวนแล้วเกิดติดใจจึงไม่ยอมกลับเข้าป่า แต่ถึงอย่างไรแล้วได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าผลักดันให้กลับเข้าป่าไปให้ได้ แต่ในเบื้องต้นขอให้ชาวบ้านอดทนไปก่อน อย่าไปทำอันตรายช้าง
ในขณะที่นายจักพงษ์ สุขมี นายก อบต.ปากหมาก กล่าวว่า ในเบื้องต้น อบต.จะเร่งดำเนินการตรวจสอบความเสียหายเพื่อชดเชยช่วยเหลือแก่เกษตรกรชาวสวนที่ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วนต่อไป
สำหรับความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบฝูงช้างป่าที่เข้ามาทำลายพืชผลอาสิน และบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ ต.ปากหมาก อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านในพื้นที่บ้านสีทับ ม. 7 ต.ปากหมาก อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ฯ ต่างเฝ้าระวังฝูงช้างป่าลงทำลายพืชผลอาสินของนายคลาด และนางพรทิพย์ อยู่สุข แต่ไม่พบว่าฝูงช้างดังกล่าวลงมาในพื้นที่แต่อย่างใด
นางพรทิพย์ กล่าวว่า หลายคืนที่ผ่านมา โขลงช้างป่าได้ลงมาถึงข้างบ้านทำลายตัวบ้านส่วนหนึ่งและเดินอยู่รอบๆ ตัวบ้าน สร้างความหวาดกลัวให้แก่คนในบ้านเป็นอย่างมาก กลางคืนไม่กล้าออกไปกรีดยางหวั่นเป็นอันตรายถึงชีวิต ต้องหันไปกรีดยางในตอนกลางวันแทน ถึงแม้น้ำยางจะไม่ค่อยออกเหมือนตอนกลางคืนก็ตาม
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้สำรวจพบว่า โขลงช้างดังกล่าวได้ย้ายออกจากจุดเดิมเดินไปหากินยังพื้นที่ใกล้เคียง พบมีการทำลาย และกินต้นกล้วยหอม และต้นมะพร้าวน้ำหอม ของชาวสวนเสียหายไปจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังทำลายบ้านพักของชาวบ้านเสียหายทั้งหลังไปอีก 2 หลัง โชคดีชาวบ้านหนีทันจึงไม่เป็นอันตรายได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
นายสัมพันธ์ ศรีระบาย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่า โขลงช้างดังกล่าวมีจำนวน 12 ตัว เร่งประชุมทำความเข้าใจแก่ชาวบ้านมิให้ทำร้ายช้าง พยายามหลบหนีหลีกเลี่ยง เนื่องจากภายในโขลงช้างมีช้างแม่ลูกอ่อนอยู่ด้วย พร้อมระบุว่า ในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยพบว่าโขลงช้างดังกล่าวลงมายังพื้นที่ของชาวบ้าน
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สำรวจพบว่าโขลงช้างดังกล่าวอาศัยอยู่พื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหาร และน้ำ ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่โขลงช้างบุกลงมายังพื้นที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ แต่ในเบื้องต้นคาดว่าลงมากินกล้วยของชาวสวนแล้วเกิดติดใจจึงไม่ยอมกลับเข้าป่า แต่ถึงอย่างไรแล้วได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าผลักดันให้กลับเข้าป่าไปให้ได้ แต่ในเบื้องต้นขอให้ชาวบ้านอดทนไปก่อน อย่าไปทำอันตรายช้าง
ในขณะที่นายจักพงษ์ สุขมี นายก อบต.ปากหมาก กล่าวว่า ในเบื้องต้น อบต.จะเร่งดำเนินการตรวจสอบความเสียหายเพื่อชดเชยช่วยเหลือแก่เกษตรกรชาวสวนที่ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วนต่อไป
