xs
xsm
sm
md
lg

ชาวคลองเขื่อนโวยพื้นที่ทำกินถูกน้ำท่วมทุกปี หลังกลายเป็นจุดรับน้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พื้นที่ยังถูกน้ำท่วมขัง มาโดยตลอด
ฉะเชิงเทรา- ชาวบ้านคลองเขื่อน แปดริ้ว โวยหลังพื้นที่กลายเป็นจุดรับน้ำทิ้งจาก กทม. และภาคกลาง ส่งผลให้พื้นที่ทำกินถูกน้ำท่วมทุกปีปลูกอะไรไม่ได้อีกต่อไป วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “หาอาชีพ อะไรทำกิน”

วันนี้ (24 ต.ค.) นางสมจิตร์ สุขแช่ม อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.1 ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า หลังจากพื้นที่ในตำบลคลองเขื่อน ต.บางตลาด ต.บางโรง รวมถึงพื้นที่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำบางปะกง ที่ ต.บางกระเจ็ด และ ต.หัวไทร อ.บางคล้า ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มเลียบติดชายแม่น้ำตลอดแนวชายฝั่งลำน้ำบางปะกง นอกแนวเขตคันคลองชลประทาน ได้ถูกปล่อยระบายน้ำทิ้งมาจากรอบด้าน ทั้งจากในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และลุ่มน้ำภาคกลางตอนบน ผ่านโครงการชลประทานพระองค์ไชยานุชิต จากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รวมทั้งน้ำที่ไหลลงมาจาก จ.ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก

ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้พืชสวนไร่นาที่ดินทำกิน รวมทั้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัยจมน้ำทั้งหมดมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากมีการเร่งผันน้ำมาลงสู่แม่น้ำบางปะกง จึงอยากฝากถามกลับไปยังผู้มีอำนาจ ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการระบายน้ำ และ กบอ. ด้วยว่า จะให้ชาวบ้านทั้ง 2 อำเภอ ที่อยู่ในที่ลุ่มของสองฝั่งบางปะกง ไปทำกินด้วยอาชีพอะไร หลังจากถูกปล่อยน้ำทิ้งเข้ามาใส่ให้ท่วมพื้นที่เกษตรเสียหาย ทั้งสวนมะม่วง นาข้าว และบ่อเลี้ยงกุ้ง บ่อเลี้ยงปลา ในเกือบทุกๆ ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 ที่เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่ในภาคกลางเป็นต้นมา

ขณะนี้ชาวคลองเขื่อน ถูกทางกรมชลประทานปล่อยระบายน้ำทิ้งมาใส่โดยตลอด ที่ระดับน้ำท่วมบ้านสูงถึง 1.6 เมตร ทั้งที่ไม่เคยถูกน้ำท่วมสูงอย่างนี้มาก่อน และแช่ขังอยู่นานนับเดือน จนพืชสวนเกษตรยืนต้นตาย ทั้งมะม่วง มะพร้าวน้ำหอม รวมถึงอุปกรณ์ในการเลี้ยงกุ้งเสียหาย เครื่องตีน้ำบ่อกุ้งถูกน้ำท่วมพังชำรุดหมด และเมื่อชาวบ้านกลับมาเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ ลงทุนทำกินกันใหม่ หลังจากน้ำลดแล้ว ในการซ่อมแซมอุปกรณ์ทำกิน บ่อเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา และลงพันธุ์มะม่วงเพื่อปลูกไม้ยืนต้นทำสวนใหม่อีกครั้ง แต่การลงทุนเดินหน้าไปได้ไม่นาน โดยเพิ่งผ่านมาได้เพียง 2 ปี ในปี 2556 นี้ พื้นที่สวนเกษตรของชาวบ้านก็กลับมาถูกน้ำท่วมอีก จากการระบายลงมารอบด้าน ทั้งที่มะม่วงกำลังจะเริ่มยืนต้นได้ผลผลิตรอบใหม่ในอีก 1 ปีข้างหน้าแล้ว

เมื่อเป็นอย่างนี้จะให้ชาวบ้านไปทำกินด้วยอาชีพอะไรเลี้ยงครอบครัว ทางผู้ที่เกี่ยวข้องกับการระบายน้ำมีอาชีพใหม่มารองรับหรือไม่

นางสมจิตร์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนปัญหาอื่นๆ ที่ติดตามมาหลังจากน้ำลดลงแล้ว ชาวบ้านก็ยังทำนาได้ล่าช้ากว่าพื้นที่อื่น เพราะน้ำลดลงช้ากว่า โดยเฉพาะพื้นที่ข้างเคียงที่อยู่ในเขตคันคลองชลประทาน ที่น้ำจะยุบแห้งได้เร็วกว่า เขาก็ทำได้ก่อน เมื่อทำนาได้ล่าช้ากว่าข้าวก็สุกไม่ทันกับภาวะน้ำเค็มหนุนขึ้นมาอีก นาข้าวที่ทำจึงเสียหายซ้ำอีก และเมื่อจะทำนาด้วยข้าวอายุสั้น (ไม่ถึง 100 วัน) เขาก็ไม่ให้เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล

ขณะที่การทำนาปีในช่วงต้นฤดูฝนนั้นก็ต้องรอให้น้ำเค็มที่หนุนสูงลดลงไปก่อน ซึ่งล่าช้ากว่าฤดูกาลออกมาบ้าง และเมื่อทำนาเสร็จ พอข้าวกำลังจะตั้งท้องออกรวง ก็มาถูกน้ำที่ทางผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องพากันปล่อยระบายระดมสูบเข้ามาใส่ในพื้นที่อีก จนน้ำท่วมสูงในนาข้าวได้รับความเสียหาย และเมื่อเป็นอย่างนี้แทบทุกปี โดยจะให้ชาวบ้านไปทำอาชีพทำกินอะไร

ด้านนายประเจียด สินลามอญ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/1 ม.1 ต.คลองเขื่อน กล่าวว่า ในปีนี้น้ำท่วมสูงมากกว่าเมื่อปี 2554 อีกด้วย โดยเมื่อครั้งปี 54 นั้น ระดับน้ำที่ถูกปล่อยออกมาท่วมพื้นที่คลองเขื่อนสูงที่ระดับ 1.6 เมตร แต่ในปีนี้มีระดับน้ำที่ท่วมสูงมากถึงกว่า 2 เมตรเศษ สูงกว่าเมื่อ 2 ปีก่อนถึงกว่า 40-60 ซม.แล้ว ซึ่งเป็นอย่างนี้แล้ว ชาวบ้านจะทำกินกันได้อย่างไร เมื่อปลูกอะไรก็ถูกน้ำท่วมตายหมด จากเดิมที่พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ปลูกพืชแบบไร่นาสวนผสม ทำสวนมะม่วงสลับกับนาข้าว และบ่อเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา พอมาตอนหลังเมื่อปลูกอะไรก็ถูกน้ำท่วมตายหมด แล้วชาวบ้านจะทำกินกันอย่างไร

จึงอยากฝากถามไปถึงยัง “นายปลอดประสพ สุรัสวดี” และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่า จะให้ชาวบ้านทำกินกันอย่างไร มีอาชีพมารองรับคนในพื้นที่คลองเขื่อนหรือไม่ หลังจากเข้ามายัดเยียดให้พื้นที่เป็นทางระบายน้ำ หรือหากทางรัฐบาลมีอาชีพใหม่มารองรับก็ขอให้เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือส่งเสริมอาชีพใหม่ให้แก่ชาวบ้านด้วย ซึ่งหากไม่มีก็อยากฝากกลับไปถึงยังรัฐบาล และผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการน้ำด้วย

“ขอให้หาทางระบายน้ำลงสู่ทะเลใหม่ หรือให้ระบายไปทางอื่นด้วย ไม่ใช่ปล่อยลงมายังทางนี้ ที่นี่เพียงอย่างเดียว เพื่อมารอเวลาให้ไหลผ่านลงแม่น้ำบางปะกง และเมื่อน้ำไหลลงทะเลไม่ทันก็มาเอ่อล้นท่วมสูงอยู่ที่นี่ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นสภาพน้ำท่วมอย่างที่เห็นนี้” นายประเจียด กล่าว
ทุกพื้นที่ถูกน้ำท่วมขังเป็นระยะนาน สร้างความเดือดร้อนอย่างมาก
ส่งผลให้พื้นที่ทำกินถูกน้ำท่วมทุกปีปลูกอะไรไม่ได้อีกต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น