“ปลอด”บินตรวจน้ำท่วมบุรีรัมย์ ด่าพวกขวางผลาญงบฯ 3.5 แสนล. บ้านิสัยไม่ดี

บุรีรัมย์ -“ปลอดประสพ” บินสำรวจเขื่อนลำนางรองน้ำล้นสปิลเวย์และตรวจน้ำท่วม จ.บุรีรัมย์ เพื่อวางแผนแก้ปัญหาระยะยาว เตรียมใช้งบฯ 3.5 แสนล้าน บริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ชี้สาเหตุน้ำท่วมเกิดจากการก่อสร้างที่อยู่อาศัยกีดขวางทางน้ำ พร้อมจวกพวกขวางผลาญงบฯ 3.5 แสนล้านนิสัยไม่ดีคัดค้านบ้าไปเรื่อยเปื่อย ใจป้ำควักเงินสด 1พัน ซื้อปลาชาวบ้านปล่อยลงน้ำคืน

วันนี้( 13 ต.ค.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) และคณะ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจสภาพน้ำเหนือเขื่อนลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ หลังหลังมวลน้ำป่า และน้ำฝนจำนวน กว่า 38 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ไหลงลงเขื่อนลำนางรองจนล้นออกทางสปิลเวย์ จำนวนกว่า 33 ล้าน ลบ.ม. ยังเหลือน้ำที่จะล้นออกจากสปิลเวย์ อีกกว่า 5 ล้าน ลบ.ม. ทำให้เกิดปัญหาน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ถนน และพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นบริเวณกว้าง

จากนั้น นายปลอดประสพ และคณะ ได้เดินทางมาที่ห้องประชุม บริเวณชั้น 2 ที่ว่าการอำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์การเกิดอุทกภัยและวางแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยมี นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม และ รายงานสถานการณ์การเกิดอุทกภัยภาพรวมในพื้นที่จังหวัด

ทั้งนี้ จ.บุรีรัมย์ได้เกิดอุกทกภัยมาตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน รวม 27 วัน ผลมาจากร่องมรสุมและพายุไต้ฝุ่น หวู่ติ๊บ ทำให้น้ำในอ่างเก็บน้ำหลายแห่งล้นปริมาณเก็บกักสูงสุด เช่น อ่างเก็บน้ำลำนางรอง อ่างเก็บน้ำลำปลายมาศ ส่งผลให้เกิดน้ำหลากท่วมขังบ้านเรือนราษฎร และไร่นาราษฎรที่อาศัยอยู่ตามลุ่มน้ำสำคัญของ จ.บุรีรัมย์ เช่น ลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำลำนางรอง ลุ่มน้ำลำปลายมาศ และ ลุ่มน้ำปะเทีย เป็นต้น

สรุปพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 22 อำเภอ 114 ตำบล 1,018 หมู่บ้าน 10 ชุมชน เสียชีวิต 2 ราย เป็นเด็กชาย อายุ 11 ปี ที่ อ.โนนสุวรรณ และ ชาย อายุ 73 ปี ที่ อ.ละหานทราย บ้านเรือน เสียหาย 2 หลัง น้ำท่วมขังบ้านเรือนราษฎร 1,145 หลัง ต้องอพยพจากหมู่บ้าน 2 หมู่บ้าน 300 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตร พืชไร่ 48,595 ไร่ พื้นที่นาข้าว 189,808 ไร่ บ่อเลี้ยงปลา กุ้ง 4,567 บ่อ และเส้นทางคมนาคม 268 สาย

นอกจากนี้ มีพื้นที่อื่นยังประสบอุทกภัยอยู่ในลุ่มน้ำลำนางรอง ลุ่มน้ำลำปลายมาศ และลุ่มน้ำลำปะเทีย เป็นส่วนใหญ่พร้อมกับจะทยอยการท่วมขังไปยังทิศเหนือของจังหวัดในลุ่มน้ำมูลที่วนกลับมาจาก จ.นครราชสีมาเข้าที่อำเภอคูเมือง จ.บุรีรัมย์ จึงยังต้องเฝ้าระวังอีกเป็นระยะเวลา 15 วัน

โดยทางจังหวัดฯ ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาวของการระบายน้ำเขื่อนลำนางรอง คือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลุ่มน้ำลำนางรองช่วงต้น , ศึกษาลุ่มน้ำลำนางรอง และลุ่มน้ำสาขา ยาวรวม 150 กม. เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำ งบประมาณ 20 ล้านบาท , โครงการแก้มลิงบริเวณเหนือและท้ายเขื่อนลำนางรอง/ โครงการเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ ของกรมชลประทาน , ปรับปรุงระบบระบายน้ำลุ่มน้ำลำนางรอง พร้อมอาคารประกอบช่วงอำเภอละหานทราย-อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ งบประมาณ 250 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 270 ล้านบาท เพื่อให้รองนายกรัฐมนตรีนำเสนอรัฐบาลพิจารณาต่อไป

จากนั้น นายปลอดประสพ ได้เดินทางไปที่หอประชุมอำเภอนางรอง พบปะกับพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย พร้อมกับมอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 500 ชุด ให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

หลังจากนั้น นายปลอดประสพ และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจระดับปริมาณน้ำที่ไหลผ่านลำนางรอง บริเวณสะพานใกล้วัดขุนก้อง ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง เพื่อหาแนวทางขยายเส้นทางน้ำไหลได้สะดวกขึ้น ซึ่งขณะที่นายปลอดประสพ ตรวจดูปริมาณน้ำอยู่นั้นได้มีชาวบ้านกำลังจับปลาและได้ปลาจำนวนหลายสิบตัว นายปลอดประสพ จึงเรียกชาวบ้านที่จับปลาได้มาพบพร้อมกับขอซื้อปลาทั้งหมดในราคา 1,000 บาท ก่อนปล่อยปลาดังกล่าวลงน้ำคืนทั้งหมด และให้ชาวบ้านที่ขายปลา กลับบ้านไปทันที

นายปลอดประสพ กล่าวว่า เขื่อนลำนางรองเป็นลำน้ำที่แคบ เล็กมาก ซึ่งน้ำจะยังคงไหลมาเรื่อยๆ ต่อไปอีกไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ แต่มีปริมาณไม่มาก ซึ่งตนเห็นด้วยกับที่ทางจังหวัดบุรีรัมย์เสนอให้มีการยกระดับเขื่อนลำนางรอง เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้นอีก 50 - 60 ล้านลูกบาศก์เมตร
ซึ่งจะสามารถแก้ได้ทั้งปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม โดยอาจใช้งบประมาณบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท มาเป็นงบในการดำเนินการ

จากข้อมูลรายงานพบว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้ เกิดจากประชาชนสร้างที่อาศัยปิดกั้นทางน้ำ ซึ่งได้หารือกับทางจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป อย่าแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบรีบร้อนจนมาทำร้ายตัวเอง ไม่คำนึงถึงผลกระทบระยะยาว แม้ว่าในพื้นที่จะเกิดน้ำท่วมขึ้นนานๆ
ครั้งก็ตาม เราต้องใช้ประโยชน์จากน้ำท่วมให้มากที่สุด จึงอยากให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทำแผนจัดการน้ำท่วมที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไปแก้ไขในอนาคต

“งบประมาณการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยน้ำครั้งนี้ 3.5 แสนล้านบาท มันมีเงินเหลือ แต่ขณะนี้ผมยังไม่กล้าพูด เพราะยังไม่ได้เซ็นสัญญา เนื่องจากตอนนี้มันมีพวกมหัศจรรย์นิสัยไม่ดีขัดขวางการทำงานเรื่องนี้อยู่ ซึ่งผมไม่รู้ว่าสวมหัวใจอะไร เราจะทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่ก็มาคัดค้านไปฟ้องนี่ฟ้องโน้นให้เป็นเรื่องราว พวกท่านซึ่งได้ประโยชน์ ก็ไม่พูดสักคำ ด่าผมคนเดียว เมื่อด่าผมมาผมก็ด่าไปด้วย ไม่มีปัญหาอะไร พวกท่านต้องลุกขึ้นต่อสู้ตามความเชื่อ ตามผลประโยชน์ของท่าน ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่กี่คนมารบรากับไอ้พวกนี้ก็บ้าไปเรื่อยเปื่อย แต่ยืนยันมีสตางค์เหลือแน่นอน” นายปลอดประสพ กล่าวในตอนหนึ่งในที่ประชุมหลังฟังรายงานสรุปสถานการณ์น้ำท่วม