“อลงกรณ์” นำทีม ส.ส.ปชป.แถลงน้ำท่วม ชี้ รัฐฯประเมินสถานการณ์ 30 วันอันตรายจากนี้ต่ำไป ย้อนเหตุหนักกว่าปี 54 แจงการพร่องน้ำทำน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น จนหลายที่เป็นแหล่งรับน้ำ เผยพรรคช่วย ปชช.เต็มที่ ประสาน กทม.ทำน้ำภาคกลางลด จี้ปรับปรุงระบบเตือนภัย อย่าประเมินต่ำ เร่งแผนรับ 30 วันอันตราย เลิกนำการเมืองแก้แบบปี 54 และเร่งเยียวยา บี้นายกฯ รู้หน้าที่ ตามติดละลายงบฯ น้ำท่วมทิ้ง ส.ส.ปทุมฯ รับพื้นที่กระทบ จี้ใช้งบฯ ให้เกิดประโยชน์
วันนี้ (7 ต.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคกลาง แถลงร่วมกับผู้สมัครส.ส.และส.ส.ในพื้นที่ภาคกลางถึงสถานการณ์น้ำท่วมปี 56 โดยเฉพาะช่วง 30 วันอันตรายจากนี้ไปว่า รัฐบาลประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วม 27 จังหวัดทั่วประเทศเกิดความเสียหายอย่างมาก ในส่วนภาคกลาง ตะวันออก รุนแรงกว่าปี 2554 มีหลายจังหวัดที่มีการจัดประชุมประเมินสถานการณ์หลังจากหัวหน้าพรรค ตน สาขาพรรค และผู้สมัครไปเยี่ยมเยียนดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า การเร่งพร่องน้ำทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น ทำให้หลายพื้นที่กลายเป็นแหล่งรับน้ำเช่น อยุธยา และในขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมมีทั้งที่ฉะเชิงเทรา กบินทร์บุรี ปราจีนบุรี ชลบุรี ปทุมธานี เป็นต้น ซึ่งทางพรรคได้ระดมบุคลากรเข้าไปช่วยเหลือประชาชน ให้ ส.ส. อดีต ส.ส. สมาชิกพรรคระดมความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ รายงานสถานการณ์มายังพรรคอย่างใกล้ชิด และให้ศูนย์อาสาคนไทยช่วยภัยน้ำท่วมลงพื้นที่ทุกสัปดาห์ และประสานกับ กทม.ในการพร่องน้ำเพื่อรองรับน้ำจากตอนบน เพื่อช่วยให้ปริมาณน้ำลดลง และช่วยภาคกลางจังหวัดปริมณฑลด้วย
นายอลงกรณ์กล่าวว่า การประเมินสถานการณ์เป็นที่น่าวิตกกังวลเพราะสามสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป เรียกร้อง 4 เรื่อง (1. ปรับปรุงระบบเตือนภัยให้ดีขึ้น เพราะยังปล่อยให้ท้องถิ่นช่วยเหลือประชาชนประสบชะตากรรมโดยลำพัง การที่นายกฯ ลงพื้นที่ปราจีนบุรีแล้วบอกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายภายใน 7 วัน เป็นการประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป ทั้งที่ผู้นำฝ่ายค้านพบว่าน้ำท่วมที่ปราจีนบุรีรุนแรงกว่าปี 2554 (2. และอยากให้รัฐบาลเร่งรัดแผนสามสิบวันอันตรายเข้าสู่ช่วงน้ำทะเลหนุน และมีพายุใต้ฝุ่นก่อตัวอยู่ (3. ขอให้รัฐบาลแยกการบริหารจัดการน้ำออกจากการเมือง เพราะความผิดพลาดล้มเหลวของการป้องกันมหาอุทกภัยเพราะในปี 54 ใช้การเมืองมาบริหารจึงล้มเหลวไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นต้องให้มืออาชีพทำอย่าให้การเมืองแทรกซ้อนโดยเฉพาะการระบายน้ำไปยังฝั่งตะวันตกและตะวันออก มายังกรุงเทพมหานคร เป็นเรื่องสำคัญ
(4. เร่งรัดเยียวยาเกษตรกรใน 27 จังหวัดที่ได้รับความเสียหายอยู่ในช่วงฟื้นฟูแต่ไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน และต้องเร่งฟื้นฟูบ้านเรือน ถนนหนทางด้วย เพราะยังเป็นไปโดยล่าช้า จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีไปต่างประเทศเท่าที่จำเป็น เพราะต้องเป็นผู้นำบริหารจัดการแก้ปัญหาให้กับประชาชนที่รอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่ จึงอยากให้ตระหนักต่อหน้าที่ความรับผิดชอบดังกล่าวด้วย เพราะมีสัญญาณที่จะรุนแรงกว่าปี 54 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง พรรคจะติดตามสถานการณ์ตั้งกระทู้ ญัตติ อย่างต่อเนื่อง ว่าเงินที่ใช้ไปเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำกับการทุจริตหรือไม่ เพราะไม่สามารถบรรเทาภาวะน้ำท่วมได้จากการใช้เงินไปแล้ว 1.4 แสนล้านบาท แสดงให้เห็นว่าน้ำท่วมตอผุด เช่นกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯออกมาพูดว่าจะช่วยประชาชนดีดบ้านนั้นหนีน้ำท่วมนั้นทำไมผ่านมาปีกว่ามีงบประมาณแต่ไม่คิดที่จะทำ กลับมาคิดในวันนี้
ส่วน จ.ปทุมธานีนั้น นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง ส.ส.ปทุมธานี กล่าวว่า ได้รับผลกระทบตั้งแต่ช่วงปลายฤดูฝนตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือน พ.ย.เพราะน้ำเหนือมาประกอบกับน้ำทะเลหนุน ฝากรัฐบาลที่ใช้งบประมาณลงพื้นที่ไปแล้ว 1.2 แสนล้าน และบางส่วนของ 3.5 แสนล้าน แต่ยังป้องกันน้ำท่วมไม่ได้ อยากให้บริหารงบประมาณให้เกิดประโยชน์มากที่สุด