ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ปลอดประสพ” โผล่ตรวจน้ำท่วม อ.พิมายโคราช และเขื่อนลำพระเพลิง พร้อมมอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย ผู้ว่าฯ โคราช เผยประกาศพื้นที่ภัยพิบัติครอบคลุมยกจังหวัดทั้ง 32 อำเภอ พื้นที่เกษตรจมน้ำแล้วเกือบ 2 แสนไร่ เสียชีวิต 3 ราย ขณะ 3 เขื่อนใหญ่ และ 14 อ่างฯขนาดกลางยังวิกฤตน้ำล้นทะลัก ระบุ 5 อำเภออ่วมหนักน้ำท่วมสูง
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (13 ต.ค.) ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอพิมาย จ.นครราชสีมา นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) พร้อมคณะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม อ.พิมาย พื้นที่รับน้ำจากทุกอำเภอของ จ.นครราชสีมาก่อนไหลลงสู่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งแม่น้ำมูลได้ไหลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ การเกษตรเสียหายจำนวนมาก โดยมี นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ข้าราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวอำเภอพิมาย ให้การต้อนรับและรายงานข้อมูล
จากนั้น นายปลอดประสพ ได้มอบถุงยังชีพ ให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัย จำนวน 700 ถุง ก่อนเดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำในลำน้ำจักราช และ เขื่อนพิมาย อ.พิมาย
นายปลอดประสพ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ไม่ถือว่ารุนแรงมากนัก เนื่องจากพื้นที่ อ.พิมาย เป็นพื้นที่ต่ำรับน้ำจากทุกทิศทางของจ.นครราชสีมาจึงทำให้น้ำจำนวนมากเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งทางจังหวัดฯ ได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
ทั้งนี้ จากรายงานทราบว่า อ.พิมาย มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมรวม 7 ตำบล 104 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน กว่า 2,000 ครัวเรือน พืชผลทางการเกษตรเสียหายกว่า 60,000 ไร่ บ่อปลา 120 บ่อ ถนนพังเสียหาย 80 เส้น โดยน้ำได้เอ่อท่วมตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา และขยายวงกว้างออกไปตามเส้นทางน้ำไหลซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่ม ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมอีกไม่กี่วันสถานการณ์น่าจะคลี่คลาย
หลังจากนั้น นายปลอดประสพ และคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ต่อไปยัง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย เพื่อตรวจดูสถานการณ์น้ำในเขื่อนที่ยังล้นสปิลเวย์อยู่จำนวนมาก ก่อนเดินทางกลับ
ด้าน นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.นครราชสีมา ว่า ล่าสุด จ.นครราชสีมา ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัยทั้ง 32 อำเภอ 212 ตำบล ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 72,326 ครัวเรือน 98,902 คน ที่อยู่อาศัยเสียหาย 1,234 หลัง สิ่งสาธารณประโยชน์ 306 แห่ง วัด 2 แห่ง พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมจำนวน 189,998 ไร่ และ มีผู้เสียชีวิต 3 คน ขณะนี้หลายหน่วยงานได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือแล้ว
ปัจจุบันมีหลายพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติ จำนวน 22 อำเภอ ได้แก่ อ.บัวใหญ่ ปากช่อง สีคิ้ว ห้วยแถลง ขามสะแกแสง ครบุรี วังน้ำเขียว ด่านขุนทด เทพารักษ์ พระทองคำ สีดา บัวลาย จักราช หนองบุญมาก สูงเนิน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา (บริเวณถนนมิตรภาพ ซอย 4 หลังห้างฯ เดอะมอล์ ) เฉลิมพระเกียรติ ขามทะเลสอ เสิงสาง บ้านเหลื่อม และ อ.แก้งสนามนาง
ส่วนพื้นที่ที่ระดับน้ำทรงตัว ยังคงท่วมพื้นที่การเกษตร จำนวน 6 อำเภอ ได้แก่ อ.โนนแดง คง ประทาย ลำทะเมนชัย โนนไทย และ อ.โชคชัย (พื้นที่เฝ้าระวัง น้ำจากปักธงชัย)
สำหรับพื้นที่ที่ระดับน้ำท่วมสูง มีแนวโน้มลดลง จำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.โนนสูง ชุมพวง เมืองยาง ปักธงชัย และ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จำนวน 1 อำเภอ ได้แก่ อ.พิมาย
ขณะที่ สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของ จ.นครราชสีมา จำนวน 5 โครงการ มีปริมาณน้ำรวม 876.35 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 93.42% ของความจุที่ระดับเก็บกักรวม 938.12 ล้าน ลบ.ม. ประกอบด้วย 1.เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 227 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 72 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 314 ล้าน ลบ.ม.
2. เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำ 115 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 105 ของความจุ ที่ระดับกักเก็บ 110 ล้าน ลบ.ม. 3. เขื่อนลำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 128.87 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 91 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 141 ล้าน ลบ.ม. 4.เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 306.36 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 111.40 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 275 ล้าน ลบ.ม. และ5.เขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสางมีปริมาณน้ำ 98.85 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 100.87 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 98 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางจำนวน 22 โครงการ มีปริมาณน้ำรวม 218.41 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 96.33 % ของความจุที่ระดับเก็บกัก 226.74 ล้าน ลบ.ม. โดยอ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีปริมาณน้ำเกินความจุและล้นอ่าง ท่วมพื้นที่โดยรอบ จำนวน 14 แห่ง โดยเฉพาะลำเชียงไกรตอนล่าง ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย เกินความจุอยู่ปริมาณมาก
