ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ชาวลำเชิงไกรโคราช จมใต้น้ำนานกว่า 2 สัปดาห์ 200 ครัวเรือนเดือดร้อน เครียดหนักเริ่มป่วย นาข้าวเสียหายยับกว่า 3,000 ไร่ ด้านกองบิน 1 ส่งรถ เรือ และกำลังพลพร้อมหน่วยแพทย์เข้าช่วยเหลือ ขณะเขื่อนลำพระเพลิง ล้นสปิลเวย์ท่วมนาข้าวแล้วกว่า 1,500 ไร่ และขยายวงกว้างต่อเนื่อง ทางด้านชลประทานที่ 8 ประกาศเตือนเฝ้าระวังพื้นที่ 4 ลุ่มน้ำโคราชท่วมอ่วม
วันนี้ (9 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ส่งผลให้น้ำในลำเชิงไกร เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นบ้านลำเชิงไกร หมู่ 9 ต.ลำเชิงไกร อ.เมือง จ.นครราชสีมา มานานกว่า 2 สัปดาห์ ประชาชนกว่า 200 ครัวเรือน รวมกว่า 800 คน ได้รับความเดือดร้อนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก การเดินทางเข้าออกเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะต้องใช้เรือสัญจรเท่านั้น ส่วนโรงเรียนบ้านลำเชิงไกร ประกาศหยุดการเรียนการสอนมานานกว่า 2 สัปดาห์ และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมแล้ว 1 ราย เป็นหญิงอายุ 80 ปี ลื่นล้มจมน้ำเสียชีวิต ขณะที่ประชาชนบางส่วนเริ่มเจ็บป่วยด้วยโรคน้ำกัดเท้า และโรคเครียด นอกจากนี้ นาข้าวกว่า 3,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมขังเสียหายทั้งหมด
ล่าสุด น.อ.ณรงค์ อินทชาติ ผู้บังคับการกองบิน 1 กองพลบินที่ 2 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ จ.นครราชสีมา ได้นำเรือท้องแบน รถบรรทุกขนาดใหญ่ พร้อมกำลังพล และทีมแพทย์ จากโรงพยาบาลกองบิน 1 ลงพื้นที่ไปให้ความช่วยเหลือ และมอบยังชีพแก่ประชาชนบ้านลำเชิงไกร ที่ประสบภัยน้ำท่วมดังกล่าวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
น.อ.ณรงค์ กล่าวว่า กองบิน 1 นครราชสีมา ได้ส่งกำลังพลพร้อมเรือท้องแบน 2 ลำ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ 2 คัน เข้ามาอำนวยความสะดวกประชาชนในการเข้าออกหมู่บ้าน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยก่อนหน้านี้ ได้ส่งไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยใน จ.ชัยภูมิ ตามที่ได้รับการร้องขอ หากประชาชน หรือหน่วยงานใดร้องขอเข้ามากองบิน 1 พร้อมที่จะส่งกำลังพลแบะอุปกรณ์ลงพื้นที่ช่วยเหลือทันที ขณะนี้มีหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา กำลังประสบภัยน้ำท่วมอย่างหนักโดยเฉพาะที่ อ.พิมาย และ อ.ชุมพวง นอกจากนี้ หลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายทาง กองบิน 1 ได้เตรียมชุดฟื้นฟูในการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนไว้ด้วย ซึ่งจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนในแต่ละพื้นที่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ล่าสุด มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเป็น 130 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จากขนาดความจุ 109.63 ล้าน คิดเป็น 118% ทำให้น้ำที่เกินขนาดความจุได้ล้นสปิลเวย์ ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนประชาชน ที่อยู่ใต้เขื่อน จำนวน 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.ตะขบ ต.สุขเกษม ต.ตูม และ ต.งิ้ว อ.ปักธงชัย
นายประเทือง วันดี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ระบุว่า มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบเป็นนาข้าวประมาณ 1,500 ไร่ และ บ้านเรือนประชาชนบางส่วน คาดว่าหากไม่มีฝนตกซ้ำลงมาอีกปริมาณน้ำภายในเขื่อนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2-3 วันนี้
นายประเทือง กล่าวอีกว่า มวลน้ำที่ล้นออกจากอ่างเก็บน้ำนำพระเพลิงก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งได้ไหลไปถึง ต.นกออก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา แล้ว แต่มวลน้ำก้อนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ที่ ต.สุขเกษม และ ต.ตูม อ.ปักธงชัย ซึ่งเป็นจุดแยกของลำน้ำลำพระเพลิงเข้าสู่ลำน้ำลำสำลาย ทำให้นาข้าวที่อยู่ติดกลำน้ำถูกน้ำท่วม และคาดว่ามวลน้ำที่ล้นออกจากอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงจะเดินทางถึง ต.ท่าลาดขาว และ ต.กระโทก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมาในวันนี้ (9 ต.ค.) จึงขอเตือนประชาชนที่อยู่ติดกับลำน้ำให้เร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง
ทางด้านศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ออกประกาศพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วม ล่าสุด ระบุว่าเนื่องจากขณะนี้ มีปริมาณน้ำที่เกิดจากฝนตกอย่างต่อเนื่อง และปริมาณน้ำที่ท่วมขังในเขตพื้นที่ต่างๆ ดังนี้
1.พื้นที่ลุ่มน้ำลำตะคอง ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และเทศบาลตำบลหัวทะเล ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากฝนที่ตกด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ขอให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ ขอให้ยกสิ่งของไว้ในที่สูง คาดว่าสถานการณ์น้ำจะยังคงสูงต่อไปประมาณ 5-7 วัน สำหรับอ่างฯ ลำตะคอง ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 100 ล้าน ลบ.ม.
2.พื้นที่ลุ่มน้ำมูล ตั้งแต่ อ.โนนสูง อ.พิมาย อ.ชุมพวง อ.เมืองยาง อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมาและในเขต จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ และ จ.ศรีสะเกษ เริ่มมีน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากปริมาณน้ำที่เกิดจากฝนที่ตกทางตอนบนของพื้นที่ และปริมาณน้ำของอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงที่เกินความจุของอ่างฯ ล้นออกมาประมาณ 80 ลบ.ม./วินาที และปริมาณน้ำจากในลำตะคองที่ไหลลงลำมูล อีก 90 ลบ.ม./วินาที
3.พื้นที่ลุ่มน้ำลำพระเพลิง ด้านท้ายอ่างฯ ลำพระเพลิงที่ล้นออกทางระบายน้ำล้น ทำให้ระดับน้ำในลำพระเพลิงไหลแรง และมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำยกสิ่งของไว้ที่สูงด้วย ถ้าไม่มีฝนตกมาเพิ่มคาดว่าในราว 5-7 วัน สถานการณ์จะคลี่คลาย
4.พื้นที่ลุ่มน้ำลำเชียงไกร ในเขต อ.โนนไทย อ.โนนสูง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เนื่องจากยังมีฝนตกในพื้นที่ ประกอบกับปริมาณน้ำที่ไหลล้นออกจากอ่างฯ ลำเชียงไกร ทำให้มีปริมาณน้ำหลากเกินความจุของลำน้ำ ทำให้มีน้ำล้นตลิ่ง แนวโน้มสถานการณ์จะทรงตัว และระดับน้ำจะลดลงในระดับควบคุมได้ในราว 7-10 วัน