ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ตรวจเยี่ยมโรงพักกะรน ย้ำดูแลนักท่องเที่ยว แก้ปัญหาแท็กซี่ ขณะที่ผู้ประกอบการนำแนวเสนอแก้ปัญหาผู้ประกอบการแท็กซี่ของหาดกะตะน้อย ใช้กฎกติกาที่กำหนดร่วมกันในการดูแล เผยทำกว่า 1 ปี ไร้ปัญหาเรื่องมาเฟีย เสนอเป็นโมเดลนำใช้พื้นที่อื่น ขณะที่ผู้ว่าฯ พอใจผลการดูแลนักท่องเที่ยว พบคดีเกิดน้อย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (13 ธ.ค.) นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการทำงานของสถานีตำรวจ ตามนโยบายตรวจเยี่ยมโรงพัก 3 ก. ประกอบด้วย สถานีตำรวจภูธรกมลา กะทู้ และ กะรน ซึ่งวันนี้เป็นการตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ สภ.กะรน โดยมี พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.วีรวัฒน์ จันทร์วิจิตร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะรน พร้อมด้วยนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ยังมีผู้แทนจากภาคประชาชน และเทศบาลตำบลกะรน ซึ่งประกอบด้วย นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกะรน นายอิทธิพร สังข์แก้ว รองนายกเทศมนตรี นายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธาน กต.ตร.สภ.กะรน และคณะกรรมการ กต.ตร.สภ.กะรน เข้าร่วม
พ.ต.อ.วีรวัฒน์ จันทร์วิจิตร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะรน กล่าวว่า สำหรับ สภ.กะรน มีพื้นที่ความรับผิดชอบ 20 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 1 ตำบล มีโรงแรม ห้องพัก บ้านเช่า เกสต์เฮาส์ จำนวน 93 แห่ง ร้านทอง จำนวน 4 แห่ง ธนาคาร 9 แห่ง ร้านสะดวกซื้อ จำนวน 23 แห่ง จำนวนประชากรประมาณ 8,000 กว่าคน สำหรับในช่วงปีงบประมาณ 2556 พบว่า มีคดีที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวเป็นผู้เสียหายจำนวน 20 คดี ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับทรัพย์ จำนวน 18 คดี เป็นคดีเกี่ยวชีวิตและเพศ จำนวน 2 คดี ส่วนคดีที่นักท่องเที่ยวตกเป็นผู้ต้องหา จำนวน 54 ราย อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่กะรนนั้นพบว่ามีนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิตมากที่สุดเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นภายในจังหวัด ซึ่งทั้งจังหวัดในปีงบประมาณ 2556 พบว่า มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจมน้ำประมาณ 33 คน ซึ่งในพื้นที่กะรนมียอดการเสียชีวิตอันดับ 1 รองลงคือ พื้นที่ป่าตอง
ส่วนเรื่องของการดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ โดยเฉพาะโครงการกะตะ-กะรน เซฟตี้โซน โดยการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลเข้ม ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเข้ามา โดยการฟื้นโครงการอาสาสมัครตาสับปะรด หรืออาสาสมัครวิทยุเครื่องแดง เข้ามาร่วมในการเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยการจัดให้มีการอบรมใหม่ ขณะที่ในส่วนของการดุแลกลุ่มอาชีพต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนของแท็กซี่ และตุ๊กตุ๊กนั้น ได้ดำเนินการทำประวัติหัวหน้าวิน คนขับ ทำแผนพักคิวรถว่ามีจุดไหนบ้าน รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจเยี่ยมให้คำแนะนำในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องการดูแลรักษาความสะอาด การดูแลนักท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจ ซึ่งที่ผ่านมา ก็ยังมีแท็กซี่บางคิวที่ยังมีปัญหา ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีคดีเด็กที่คิวรถแท็กซี่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง เข้าไปยื้อยุดนักท่องเที่ยวที่ออกไปเรียกรถแท็กซี่นอกคิวเพื่อใช้บริการให้กลับมาใช้บริการของคิวตัวเอง แต่นักท่องเที่ยวไม่ยอมจึงใช้ไม้ตีที่แขนนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ได้ขอศาลออกหมายจับไปแล้ว
ขณะที่ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจากการดูสถิติตัวเลขคดีอาชญากรรมพบว่า ในส่วนของกะรนนั้นมีเกิดขึ้นไม่มากนัก แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องของอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตซึ่งมีจำนวนสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ ซึ่งนอกจากจะดูแลเรื่องของความปลอดภัยแล้ว สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทางตำรวจเข้าไปดูแลคือ เรื่องของแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก เรื่องของอุบัติเหตุจมน้ำ และเรื่องของเจ็ตสกี ซึ่งเรื่องของแท็กซี่นั้นการเอารัดเอาเปรียบเป็นเรื่องของบุคคลที่มีสัดส่วนเพียงส่วนน้อยเท่านั้น แต่คนเหล่านี้ทำให้เกิดปัญหา และทำลายการท่องเที่ยวของภูเก็ตทั้งระบบ ซึ่งจะต้องเข้าไปดูแลด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะเรียกผู้ประกอบการรถแท็กซี่มาอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพในการให้บริการให้มากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่นักท่องเที่ยว ขณะที่ในส่วนของเจ็ตสกีนั้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปสำรวจจำนวนให้ชัดเจน ซึ่งในส่วนของกะรนมีเจ็ตสกีอยู่จำนวน 36 ลำ ส่วนเรื่องของการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตนั้นก็ต้องมีการพุดคุยกันเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีการทำป้ายเตือนในหลายๆ ภาษา แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิตอยู่
ขณะที่ นายสมบัติ อติเศรษฐ ประธาน กต.ตร.สภ.กะรน และผู้ประกอบการโรงแรมที่หาดกะตะน้อย กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการกะรน และกลุ่มอาชีพต่างๆ ในพื้นที่กะรน ได้ร่วมประชุมหารือเพื่อกำหนดกติกาชุมชนในการดูแลพื้นที่ ซึ่งการประชุมครั้งนั้นที่ประชุมมีมติในการแก้ไขปัญหาร่วมกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการจราจร ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการ โดยรวมเอาเรื่องของแท็กซี่ และตุ๊กตุ๊กเข้าไปด้วย นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของการดูแลนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างความพึงพอใจ และปัญหานักท่องเที่ยวจมน้ำ สำหรับปัญหาเรื่องการจราจรนั้นได้มีมติของการประชุมออกมาให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด ในการดูแล และจ้างหน่วยงานมาสำรวจพื้นที่ทั้งจุดจอดรถ จุดอันตราย จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย เมื่อได้ข้อมูลแล้วให้นำเสนอเข้าคณะทำงานเพื่อวางแผนแก้ปัญหา และกำหนดเป็นกฎกติกาของชุมชนในการแก้ไขปัญหา
ขณะที่การแก้ไขปัญหาแท็กซี่มิเตอร์ และตุ๊กตุ๊ก ในส่วนของหาดกะตะน้อย นั้นได้แก้ไขปัญหามาประมาณ 1 ปีแล้ว และทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องของมาเฟีย ซึ่งคิดว่าจุดนี้น่าจะเป็นโมเดลที่พื้นที่อื่นสามารถนำไปปรับใช้ได้ โดยทางแรงแรมกะตะธานี ได้ร่วมกับผู้ประกอบการในการกำหนดกติกาในการอยู่ร่วมกันซึ่งทำมาแล้วประมาณ 1 ปี ก็ได้ผล ซึ่งที่บริเวณหาดกะตะน้อย มีรถอยู่จำนวน 60 คัน ซึ่งทุกคนพร้อมที่จะเป็นแท็กซี่ที่ดีของชุมชน ให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างมคุณภาพ โดยมีการกำหนดแนวทางในการทำงานร่วมกัน มีคู่มือการปฏิบัติงานให้แก่ทุกคน มีการกำหนดกติการ่วมกัน ทั้งเรื่องของความพึงพอใจของลูกค้าซึ่งก็คือ นักท่องเที่ยว คนขับจะต้องสวมชุดฟอร์ม รถต้องสะอาด ถ้าคนขับดื่มเหล้ามาจะต้องหยุดทำงาน ถ้าร่างกายไม่พร้อมก็ต้องหยุดทำงาน ซึ่งข้อตกลงต่างๆ ทุกคนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องค่าโดยสารก็เป็นไปตามข้อกำหนดของทางจังหวัด
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (13 ธ.ค.) นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการทำงานของสถานีตำรวจ ตามนโยบายตรวจเยี่ยมโรงพัก 3 ก. ประกอบด้วย สถานีตำรวจภูธรกมลา กะทู้ และ กะรน ซึ่งวันนี้เป็นการตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ สภ.กะรน โดยมี พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.วีรวัฒน์ จันทร์วิจิตร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะรน พร้อมด้วยนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ยังมีผู้แทนจากภาคประชาชน และเทศบาลตำบลกะรน ซึ่งประกอบด้วย นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกะรน นายอิทธิพร สังข์แก้ว รองนายกเทศมนตรี นายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธาน กต.ตร.สภ.กะรน และคณะกรรมการ กต.ตร.สภ.กะรน เข้าร่วม
พ.ต.อ.วีรวัฒน์ จันทร์วิจิตร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะรน กล่าวว่า สำหรับ สภ.กะรน มีพื้นที่ความรับผิดชอบ 20 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 1 ตำบล มีโรงแรม ห้องพัก บ้านเช่า เกสต์เฮาส์ จำนวน 93 แห่ง ร้านทอง จำนวน 4 แห่ง ธนาคาร 9 แห่ง ร้านสะดวกซื้อ จำนวน 23 แห่ง จำนวนประชากรประมาณ 8,000 กว่าคน สำหรับในช่วงปีงบประมาณ 2556 พบว่า มีคดีที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวเป็นผู้เสียหายจำนวน 20 คดี ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับทรัพย์ จำนวน 18 คดี เป็นคดีเกี่ยวชีวิตและเพศ จำนวน 2 คดี ส่วนคดีที่นักท่องเที่ยวตกเป็นผู้ต้องหา จำนวน 54 ราย อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่กะรนนั้นพบว่ามีนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิตมากที่สุดเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นภายในจังหวัด ซึ่งทั้งจังหวัดในปีงบประมาณ 2556 พบว่า มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจมน้ำประมาณ 33 คน ซึ่งในพื้นที่กะรนมียอดการเสียชีวิตอันดับ 1 รองลงคือ พื้นที่ป่าตอง
ส่วนเรื่องของการดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ โดยเฉพาะโครงการกะตะ-กะรน เซฟตี้โซน โดยการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลเข้ม ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเข้ามา โดยการฟื้นโครงการอาสาสมัครตาสับปะรด หรืออาสาสมัครวิทยุเครื่องแดง เข้ามาร่วมในการเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยการจัดให้มีการอบรมใหม่ ขณะที่ในส่วนของการดุแลกลุ่มอาชีพต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนของแท็กซี่ และตุ๊กตุ๊กนั้น ได้ดำเนินการทำประวัติหัวหน้าวิน คนขับ ทำแผนพักคิวรถว่ามีจุดไหนบ้าน รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจเยี่ยมให้คำแนะนำในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องการดูแลรักษาความสะอาด การดูแลนักท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจ ซึ่งที่ผ่านมา ก็ยังมีแท็กซี่บางคิวที่ยังมีปัญหา ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีคดีเด็กที่คิวรถแท็กซี่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง เข้าไปยื้อยุดนักท่องเที่ยวที่ออกไปเรียกรถแท็กซี่นอกคิวเพื่อใช้บริการให้กลับมาใช้บริการของคิวตัวเอง แต่นักท่องเที่ยวไม่ยอมจึงใช้ไม้ตีที่แขนนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ได้ขอศาลออกหมายจับไปแล้ว
ขณะที่ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจากการดูสถิติตัวเลขคดีอาชญากรรมพบว่า ในส่วนของกะรนนั้นมีเกิดขึ้นไม่มากนัก แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องของอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตซึ่งมีจำนวนสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ ซึ่งนอกจากจะดูแลเรื่องของความปลอดภัยแล้ว สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทางตำรวจเข้าไปดูแลคือ เรื่องของแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก เรื่องของอุบัติเหตุจมน้ำ และเรื่องของเจ็ตสกี ซึ่งเรื่องของแท็กซี่นั้นการเอารัดเอาเปรียบเป็นเรื่องของบุคคลที่มีสัดส่วนเพียงส่วนน้อยเท่านั้น แต่คนเหล่านี้ทำให้เกิดปัญหา และทำลายการท่องเที่ยวของภูเก็ตทั้งระบบ ซึ่งจะต้องเข้าไปดูแลด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะเรียกผู้ประกอบการรถแท็กซี่มาอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพในการให้บริการให้มากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่นักท่องเที่ยว ขณะที่ในส่วนของเจ็ตสกีนั้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปสำรวจจำนวนให้ชัดเจน ซึ่งในส่วนของกะรนมีเจ็ตสกีอยู่จำนวน 36 ลำ ส่วนเรื่องของการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตนั้นก็ต้องมีการพุดคุยกันเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีการทำป้ายเตือนในหลายๆ ภาษา แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิตอยู่
ขณะที่ นายสมบัติ อติเศรษฐ ประธาน กต.ตร.สภ.กะรน และผู้ประกอบการโรงแรมที่หาดกะตะน้อย กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการกะรน และกลุ่มอาชีพต่างๆ ในพื้นที่กะรน ได้ร่วมประชุมหารือเพื่อกำหนดกติกาชุมชนในการดูแลพื้นที่ ซึ่งการประชุมครั้งนั้นที่ประชุมมีมติในการแก้ไขปัญหาร่วมกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการจราจร ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการ โดยรวมเอาเรื่องของแท็กซี่ และตุ๊กตุ๊กเข้าไปด้วย นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของการดูแลนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างความพึงพอใจ และปัญหานักท่องเที่ยวจมน้ำ สำหรับปัญหาเรื่องการจราจรนั้นได้มีมติของการประชุมออกมาให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด ในการดูแล และจ้างหน่วยงานมาสำรวจพื้นที่ทั้งจุดจอดรถ จุดอันตราย จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย เมื่อได้ข้อมูลแล้วให้นำเสนอเข้าคณะทำงานเพื่อวางแผนแก้ปัญหา และกำหนดเป็นกฎกติกาของชุมชนในการแก้ไขปัญหา
ขณะที่การแก้ไขปัญหาแท็กซี่มิเตอร์ และตุ๊กตุ๊ก ในส่วนของหาดกะตะน้อย นั้นได้แก้ไขปัญหามาประมาณ 1 ปีแล้ว และทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องของมาเฟีย ซึ่งคิดว่าจุดนี้น่าจะเป็นโมเดลที่พื้นที่อื่นสามารถนำไปปรับใช้ได้ โดยทางแรงแรมกะตะธานี ได้ร่วมกับผู้ประกอบการในการกำหนดกติกาในการอยู่ร่วมกันซึ่งทำมาแล้วประมาณ 1 ปี ก็ได้ผล ซึ่งที่บริเวณหาดกะตะน้อย มีรถอยู่จำนวน 60 คัน ซึ่งทุกคนพร้อมที่จะเป็นแท็กซี่ที่ดีของชุมชน ให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างมคุณภาพ โดยมีการกำหนดแนวทางในการทำงานร่วมกัน มีคู่มือการปฏิบัติงานให้แก่ทุกคน มีการกำหนดกติการ่วมกัน ทั้งเรื่องของความพึงพอใจของลูกค้าซึ่งก็คือ นักท่องเที่ยว คนขับจะต้องสวมชุดฟอร์ม รถต้องสะอาด ถ้าคนขับดื่มเหล้ามาจะต้องหยุดทำงาน ถ้าร่างกายไม่พร้อมก็ต้องหยุดทำงาน ซึ่งข้อตกลงต่างๆ ทุกคนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องค่าโดยสารก็เป็นไปตามข้อกำหนดของทางจังหวัด