ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เริ่มก่อนสิ้นเดือน พ.ย.นี้ สำหรับ โครงการ “คืนพื้นผิวจราจรให้ประชาชน” ที่หาดป่าตอง เอาที่จอดรถเช่า แท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก ที่ครองเป็นเจ้าถนนริมหาดป่าตองมานานแสนนานออก ให้มีพื้นที่ว่างสำหรับนักท่องเที่ยว และประชาชนจอดรถมากขึ้น
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (18 พ.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรกะทู้ จ.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมโครงการ “คืนพื้นผิวจราจรให้แก่ประชาชน” หรือโครงการ “Restore The Serface to public traffic โดยมี พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภูเก็ต พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ รอง ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ต.เอกรัตน์ พลายด้วง สารวัตรป้องกันปราบปราม ทำหน้าที่หัวหน้างานจราจร สภ.กะทู้ นายสายัณห์ ชนะชัยวงศ์ นายอำเภอกะทู้ นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง นายกฤษฏา ตันสกุล กก.ตร.สภ.กะทู้ ภาครัฐ เอกชน ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ กล่าวว่า โครงการ “คืนพื้นผิวจราจรให้แก่ประชาชน” นั้น เกิดจากการที่นักท่องเที่ยว ประชาชน ได้มีการร้องเข้ามาเรื่องปัญหาที่จอดรถที่บริเวณหาดป่าตอง ที่ไม่มีให้นักท่องเที่ยว และประชาชนได้จอด เพราะตลอดแนวถนนทั้งถนนทวีวงศ์ หรือถนนเลียบหาดป่าตอง ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี และถนนผังเมืองสายก. ผู้ประกอบการรถเช่า รถแท็กซี่ป้ายดำ รถตุ๊กตุ๊ก และรถเข็นขายของ ได้ยึดพื้นที่เกือบทั้งหมดทั้งเป็นที่จอดรถเพื่อทำธุรกิจของตนเอง จนไม่เหลือพื้นที่ให้นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปได้จอดรถอีกเลย จากปัญหาดังกล่าว และประกอบกับทางรัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีทางการท่องเที่ยว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้ถูกมอบหมายให้ดำเนินการในการสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย และดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวหลักๆ ของประเทศ เพื่อมู่งสู่เป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยว 2.2 ล้านล้านบาท ในปี 2558 นี้
ทางจังหวัดภูเก็ต และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการคืนผิวจราจรให้แก่ประชาชนขึ้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต เพื่อให้ผู้ประกอบการรถเช่า รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก และรถเข็นขายของ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดระเบียบคืนพื้นผิวจราจรให้ประชาชน รวมทั้งเป็นการแก้ปัญหาการจราจรติดขัด โดยแบ่งระยะเวลาการดำเนินการออกเป็น 3 ระยะ ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.2556-10 พ.ย.2557 โดยเริ่มต้นที่ถนนทวีวงศ์ ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปร และถนนผังเมืองสาย ก.
พ.ต.อ.จิรภัทร กล่าวอีกว่า การคืนพื้นผิวจราจรให้แก่ประชาชนนั้น เริ่มแรกจะดำเนินการที่บริเวณถนนทวีวงศ์ หรือถนนเลียบหาดป่าตองก่อนเป็นอันดับแรก โดยจะเริ่มต้นดำเนินการขอคืนพื้นที่จอดรถถนนทวีวงศ์ ตั้งแต่แยกซีเพิร์ลไปจนถึงต้นซอยบางลา เป็นระยะทาง 948.5 เมตร แบ่งการดำเนินการออกเป็น 7 โซน คือ โซน 1 เริ่มต้นที่แยกซีเพิร์ล-ถนนซอยร่วมใจ โซน 2 แยกซอยร่วมใจ-ซอยเก็บทรัพย์ โซน 3 ซอยเก็บทรัพย์-ซอยเพิ่มพงษ์พัฒนา 3 โซน 4 ซอยเพิ่มพงษ์พัฒนา 3-ซอยเพิ่มพงษ์พัฒนา 2 โซน 5 ซอยเพิ่มพงษ์พัฒนา 2-ซอยไปรษณีย์ทวีวงศ์ โซน 6 ซอยไปรษณีย์ทวีวงศ์-ซอยป่าตองเทาเวอร์ และโซนที่ 7 ซอยป่าตองเทาเวอร์-ต้นซอยบางลา โดยทั้ง 7 โซนนั้นจะมีทั้งรถเช่า รถตุ๊กตุ๊ก รถแท็กซี่ และรถเข็นขายของจอดเกือบเต็มพื้นที่ทั้งหมด
การคืนพื้นที่ผิวจราจรนั้น จะดำเนินการโดยการให้รถดังกล่าวจอดในพื้นที่ให้น้อยที่สุด ทั้งฝั่งถนนที่เป็นร้านค้า และชายหาด โดยในส่วนของถนนด้านร้านค้านั้น ในระยะทาง 948.5 เมตรนั้น จะขอคืนพื้นที่ผิวจราจรให้ประชาชน 656 เมตร คิดเป็น 69.20% ของพื้นที่ทั้งหมด เหลือพื้นที่สำหรับรถเช่า รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก และรถเข็นขายของ 292 เมตร หรือประมาณ 30.48% ของพื้นที่ทั้งหมด ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มอาชีพดังกล่าวสามารถที่จะประกอบอาชีพได้เหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวมากนัก เพราะตลอดแนวที่ขอคืนพื้นที่จากกลุ่มรถต่างๆ นั้นจะไม่ให้มีการจอดรถชนิดใดอีก จะมีการตีเส้นจราจรแสดงไว้อย่างชัดเจน
ส่วนพื้นที่ด้านฝั่งชายหาดนั้น ก็จะดำเนินการในลักษณะเดียวกับฝั่งร้านค้า ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการสำรวจรถเช่าทั้งหมดที่จอดอยู่ในบริเวณที่จอดรถที่ทางเทศบาลเมืองป่าตองได้ดำเนินการแบ่งพื้นที่ไว้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้เสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้ เพราะในส่วนของผู้ประกอบการเองก็พร้อม และให้ความร่วมมือต่อการดำเนินการในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือน พ.ย.นี้ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวของภูเก็ตในช่วงไฮซีซันนี้ โดยพื้นที่ที่ขอคืนจากกลุ่มรถดังกล่าวบริเวณฝั่งชายหาดนั้นจะให้เป็นที่จอดรถของนักท่องเที่ยว และประชาชนมากที่สุด โดยได้มีการหารือกับทางเทศบาลเมืองป่าตอง ในการจัดเก็บค่าจอดรถ เพื่อป้องกันไม่ให้รถแท็กซี่ป้ายดำ หรือรถประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถของนักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปจอดแช่เป็นเวลานานๆ