ผู้การฯ ภูเก็ตลั่นเอาคืนพื้นที่จอดรถหาดป่าตองให้ประชาชนใช้งานมากขึ้น

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้การฯ ภูเก็ต เอาจริงแก้ปัญหาที่จอดรถหาดป่าตอง เชิญผู้อยู่เบื้องหลังคิวรถแท็กซี่ป้ายดำ รถเช่า หารือขอคืนพื้นที่จอดรถสาธารณะ ลั่นอีก 2 สัปดาห์มีการจัดโซนพื้นที่ให้นักท่องเที่ยว และประชาชนมีที่จอดรถริมหาดมากขึ้น

วันนี้ (1 พ.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว (ศปอท.) จังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 5/2556 โดยมีนายจำเริญ ทิพญพงษ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ่มเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สสคอ.3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธีรยุทธ์ ประเสริฐผล ผอ.สนง.ขนส่งจังหวัดภูเก็ต จัดหางานจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

เพื่อติดตามความคืบหน้าการทำงานของศูนย์ปฏิบัติร่วมเพื่อป้องกัน และปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ของหน่วยงานต่างๆ

นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การทำงานของหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อร่วมกันดำเนินการของศูนย์ ศปอท.นั้น แบ่งการทำงานออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.การทำงานของหน่วยงานในพื้นที่ต้องหนุนการทำงานของส่วนกลาง โดยขณะนี้ในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้มีการจัดตั้งทีมงานเคลื่อนที่ออกดูแลนักท่องเที่ยว และรับทราบปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวทั้งหมด 2.การสร้างความเข้าใจกับกลุ่มต่างๆ เช่น แท็กซี่ป้ายดำ เจ็ตสกี ไกด์ ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในภูเก็ต เป็นต้น และ 3. การสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กร

โดยนักท่องเที่ยว หรือผู้ประกอบการหากมีปัญหาเกิดขึ้นไม่ว่าจะจากแท็กซี่ป้ายดำ เจ็ตสกี หรืออื่นๆ สามารถที่จะโทร.มาแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้ทุกๆ เรื่อง โดยแต่ละเรื่องนั้นจะต้องมีความชัดเจนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ปัญหาลุล่วงไปได้อย่างรวดเร็ว

โดย พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผู้บัญชการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตนั้น ได้ตั้งทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นมาออกตรวจตราดูแลนักท่องเที่ยวตามชายหาดและจุดต่างๆ ที่มีนักท่องเที่ยวอยู่จำนวนมาก พร้อมทั้งมีการแจกใบปลิวประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบว่า หากเกิดปัญหานักท่องเที่ยวสามารถแจ้งได้ที่ไหนอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ได้ดำเนินการมากว่า 20 วันแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของกลุ่มมาเฟีย หรือผู้มีอิทธิพลนั้น จากข้อมูลของทางตำรวจไม่มีกลุ่มที่เป็นมาเฟียกลุ่มใหญ่ในภูเก็ต แต่เป็นเพียงกลุ่มที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากเกินไปเท่านั้นเอง ซึ่งต้องยอมรับว่า จะให้ปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพลได้ทันทีทันใดนั้นคงดำเนินการไม่ได้ทันที เพราะมีมานานแล้ว ทางตำรวจจะใช้วิธีการพูดคุยหารือระหว่างกันมากกว่าที่จะใช้กฎหมายบังคับทันที

เช่น กรณีของที่จอดรถที่หาดป่าตองนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดำเนินการแล้ว โดยการเชิญผู้ที่อยู่เบื้องหลังผู้รถแท็กซี่ป้ายดำ ผู้ประกอบการรถเช่าที่ใช้พื้นที่ถนนบริเวณถนนทวีวงศ์ (ถนนเลียบหาดป่าตอง) และถนนอื่นๆ ในป่าตอง เป็นที่จอดรถเช่าทำมาหากิน มาทำความเข้าใจถึงการคืนพื้นที่บางส่วนให้เป็นที่จอดรถสาธารณะเพิ่มขึ้น โดยเรื่องนี้คาดว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการจัดโซนที่จอดรถสาธารณะที่เห็นเป็นรูปธรรมได้ในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้

ด้านนายจำเริญ ทิพญพงษ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า กรณีของเอกชนที่มีปัญหากับแท็กซี่ป้ายดำไม่อนุญาตให้รถจากที่อื่นเข้าไปรับแขกในโรงแรมได้ หรือปัญหาอื่นๆ ก็สามารถที่จะแจ้งเรื่องโดยตรงมายังตน หรือผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้เป็นเรื่องๆ ไป เพื่อที่ทางจังหวัดภูเก็ตจะได้แก้ปัญหาให้ลุล่วงไปเป็นเรื่องๆ เช่น กรณีที่แท็กซี่ป้ายดำที่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งที่ราไวย์ ไม่ยอมให้นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการรถรับจ้างจากที่อื่นออกจากโรงแรมได้ นักท่องเที่ยวต้องอยู่ภายในรถนานเกือบ 2 ชั่วโมง ขณะนี้คดีได้ส่งมาถึงอัยการแล้ว และตนก็ได้คุยกับทางอัยการ ที่ต้องการให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างที่แท็กซี่ป้ายดำทำกับนักท่องเที่ยวจะต้องได้รับการลงโทษ เป็นต้น

ในขณะที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ได้รับการร้องเรียนจากโรงแรมอันดามันเอสเตท ที่หาดกะตะน้อย กรณีที่แท็กซี่ป้ายดำหน้าโรงแรมก่อกวนนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช้บริการรถแท็กซี่ป้ายดำหน้าโรงแรม ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน ไปดำเนินการแล้วเช่นกัน

ขณะที่ นายธีรยุทธ์ ประเสริฐผล ผอ.สนง.ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภายหลังจากที่ดีเอสไอลงมากวดดันจับกุมรถแท็กซี่ป้ายดำที่บริเวณสนามบินภูเก็ต และจุดอื่นๆ ในภูเก็ต ปรากฏว่า ขณะนี้แท็กซี่ป้ายดำมาจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว 1,303 คัน และคาวตลอดเดือน พ.ย.นี้ ตัวเลขน่าจะเพิ่มกว่า 50% ของรถแท็กซี่ป้ายดำที่มีอยู่ประมาณ 2,882 คัน รวมทั้งในสัปดาห์หน้าทางขนส่งได้เชิญหัวหน้าคิวรถรับจ้างในพื้นที่ถลางทั้งหมด มาประชุมเพื่อกำหนดมาตรการต่างๆ เช่น จุดตั้งคิว การแต่งกาย ราคาค่าโดยสาร เป็นต้น