กกต.ยะลา เตรียมพร้อมรับเลือกตั้งหลังนายกฯ ยุบสภา

ยะลา - กกต.ยะลา เผยพร้อมเลือกตั้ง ส.ส.หลังรัฐบาลประกาศยุบสภา เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ พร้อมเน้น 2 ภาษาในการสื่อสารสำหรับคนในพื้นที่

วันนี้ (11 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสุรีย์ ธรรมกุล ผอ.การเลือกตั้งประจำ จ.ยะลา ได้เปิดเผยว่า หลังจากได้มีพระราชกฤษฎีกาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเป็นการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ ที่ 2 ก.พ.2557 นั้น ในส่วนการเตรียมความพร้อมของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ.ยะลา นั้น จ.ยะลา ค่อนข้างจะมีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี ซึ่ง จ.ยะลา มีประชากร จำนวน 500,814 คน เป็นประชากรชาย จำนวน 248,437 คน หญิง จำนวน 252,377 คน มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 581 หน่วย ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 334,207 คน ครัวเรือน 144,464 ครัวเรือน

โดยสามารถมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ 3 คน แบ่งเป็น 3 เขตการเลือกตั้ง คือ เขตการเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วย อ.เมือง ยกเว้น ต.บุดี ต.เปาะเส้ง ต.บันนังสาเร็ง เขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย อ.เมือง เฉพาะ ต.บุดี ต.เปาะเส้ง และ ต.บันนังสาเร็ง อ.รามัน อ.ยะหา อ.กาบัง และเขตเลือกตั้งที่ 3 ประกอบด้วย อ.ยะหา เฉพาะ ต.ปะแต อ.กรงปินัง อ.บันนังสตา อ.ธารโต อ.เบตง

นางสุรีย์ ยังเปิดเผยอีกว่า สำหรับการประชาสัมพันธ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้นั้นมีการวางแผนทำแผ่นพับ ใบปลิว และมีลูกเสือบริการผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ที่หน้าหน่วยเลือกตั้ง การประชาสัมพันธ์ก็จะใช้สื่อ 2 ภาษา ซึ่งจะมีความเหมาะสมสอดคล้องกับประชาชนในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งมีทั้งภาษามลายู ภาษาถิ่นใต้ และภาษาภาคกลาง ซึ่งจะใช้ทั้งภาษาภาคกลาง และภาษามลายูในการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง เพื่อสื่อความเข้าใจไปสู่พี่น้องประชาชนให้เข้าใจถูกต้องตรงกัน คิดว่าการใช้ 2 ภาษาจะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ จ.ยะลา เข้าใจการเลือกตั้งได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การเลือกตั้งจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ จ.ยะลา ไม่ว่าจะเป็น จ.ยะลา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เทศบาล ตำบล อำเภอต่างๆ เป็นพิเศษ เพื่อช่วยให้การเลือกตั้งสำเร็จไปได้ด้วยดี สำหรับในส่วนการประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่ในประเทศมาเลเซียนั้น ก็จะประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อวิทยุ สถานีวิทยุแห่งประเทศไทยยะลา และ อสมท ยะลา เนื่องจากประชาชนตามแนวชายแดนมาเลเซียจะรับฟังได้อย่างทั่วถึง

นางสุรีย์ ยังเผยต่อว่า จากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ผ่านมา เมื่อปี 2554 มีผู้มาใช้สิทธิ ร้อยละ 77 ครั้งนี้ ก็ได้ตั้งเป้าจะไว้ที่ร้อยละ 77 ส่วนบัตรเสียจะไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิ