อำเภอเมืองภูเก็ต สั่งปิดร้านเขียวตองลักลอบเปิดให้วัยรุ่นสูบบารากู่

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อำเภอเมืองภูเก็ต จับบารากู่ จำนวน 7 ชุด ที่ร้านเขียวตอง จับกุมดำเนินตามกฎหมายต่อไป พร้อมสั่งปิดร้านทันทีหลังพบถูกจับกุมมาแล้ว 4 ครั้ง

วันนี้ (20 พ.ย.) นายสุธี ศิริอนันต์ ปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 22.45 น. วันที่ 19 พ.ย.56 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเมืองภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำโดย ปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต พร้อมด้วย นายหมู่เอกไพฑูรย์ เอี๋ยตระกูล นายหมู่ตรีธีรศักดิ์ ต่างสี สมาชิกโทวีระชาติ ศรีอนันต์ สมาชิกตรีทะนงศักดิ์ คงพัฒ สมาชิกตรีโสฬส ชิดเชี่ยว สมาชิกตรีรณชัย ชินศรี ร่วมกันจับกุม น.ส.สุรีย์พร เพชรสวัสดิ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 ม.5 ต.ไทรขึง อ.พระแสง จ.สุราษฎรธานี พร้อมด้วยของกลาง ยาสูบชนิดยาเส้นปรุง (บารากู่) น้ำหนัก 700 กรัม และอุปกรณ์การเสพ (บารากู่) จำนวน 7 ชุด ซึ่งได้วางอยู่ข้างโต๊ะบริการลูกค้าภายในร้านเขียวตอง เลขที่ 143-145 ต.ตลาดใหญ่ ถ.ถลาง อ.เมือง จ.ภูเก็ต

นายสุธี กล่าวอีกว่า จังหวัดภูเก็ต ได้มีหนังสือสั่งการให้อำเภอเมืองภูเก็ต ตรวจสอบสถานประกอบร้านที่จำหน่าย และบริการบารากู่ตามนโยบายแก้ไขและควบคุมการแพร่ระบาดของบารากู่ในกลุ่มวัยรุ่น เยาวชน นักศึกษา เพื่อจัดระเบียบสังคม โดยทางเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเมืองภูเก็ต ได้ลงตรวจที่ร้านเขียวตอง เลขที่ 143-145 ต.ตลาดใหญ่ ถ.ถลาง อ.เมือง จ.ภูเก็ต พบ น.ส.สุรีย์พร เพชรสวัสดิ์ อายุ 22 ปี รับว่าเป็นผู้จัดการร้านหรือผู้ดูแลร้าน ซึ่งภายในร้านได้เปิดให้บริการจำหน่ายสุรา เครื่องดื่มต่างๆ และจำหน่ายให้บริการบารากู่ โดยพบของกลางทั้งหมดวางอยู่ภายในร้าน และกำลังให้บริการลูกค้าอยู่ โดยมีการวางอุปกรณ์การสูบไว้บริเวณข้างโต๊ะที่บริการ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมขอตรวจสอบใบอนุญาตการประกอบกิจการบารากู่จาก น.ส.สุรีย์พร ปรากฎว่า ไม่มีเอกสารการได้รับอนุญาตหรือยืนยันว่าเป็นสิ่งของที่ผลิตในประเทศไทย หรือหลักฐานการนำเข้ามาในราชอาณาจักร หรือการชำระภาษีศุลกากรแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าจะเป็นสิ่งของที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศไม่ผ่านศุลกากร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ตรวจยึดของกลางดังกล่าว และควบคุมตัว น.ส.สุรีย์พร มายังที่ว่าการอำเภอเมืองภูเก็ต

โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา มีไว้เพื่อขายยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ และช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย พาเอาไปเสียซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของที่ตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี หรือของต้องจำกัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง พร้อมได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ร้านดังกล่าวเคยถูกจับมาแล้ว 3 ครั้ง คือ วันที่ 21 มีนาคม 2555, วันที่ 11 กันยายน 2555 และวันที่ 26 ธันวาคม 2555 โดยในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ทางอำเภอเมืองภูเก็ตได้สั่งปิดร้านดังกล่าวทันที