ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หนุ่มชาวพม่าเดินทางมาร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว ขอให้ติดตามอดีตภรรยาก่อเหตุสะเทือนขวัญสาดน้ำกรดใส่หน้าจนใบหน้าจนเละ และตาบอดเป็นระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีเพื่อเป็นอุทาหรณ์
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (19 พ.ย.) ที่ห้องประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต นายคิน โส อายุ 38 ปี สัญชาติพม่า เดินทางมาร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว เพื่อให้ติดตามอดีตภรรยาโหดสาดน้ำกรดใส่หน้าจนใบหน้าเละ และดวงตาบอดมาดำเนินคดี และเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชนทั่วไปในการดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท
นายคิน โส เปิดเผยว่า ตนเองเรียนจบระดับปริญญาตรี หลังจากเรียนจบก็ออกไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ 5 ปี หลังจากนั้นก็เดินทางมาอยู่ในจังหวัดภูเก็ตประมาณ 10 ปี ทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง มีลูกน้องหลายชีวิต ในขณะนั้นอยู่ในฐานะระดับร่ำรวย มีเพื่อนฝูงมากมาย เดินไปไหนก็มีใครนับถือ ในระหว่างที่ชีวิตการงานกำลังรุ่งเรืองนั้นตนได้รู้จักกับสาวชาวพม่าคนหนึ่ง และได้รักใครชอบพอกัน จนกระทั่งตกลงปลงใจแต่งงานใช้ชีวิตดัวยกัน ชีวิตช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุดของชีวิต และได้มีบุตรชายเป็นพยานรักกับภรรยา 1 คน
นายคิน โส กล่าวด้วยสีหน้าที่หมองเศร้าต่อไปอีกว่า หลังจากที่บุตรชายคลอดออกมาช่วงแรกก็แฮปปี้ดี แต่ในระหลังเมื่อลูกชายอายุได้ประมาณ 1 ปี ภรรยาเริ่มกลับบ้านดึก ไม่กลับบ้านตรงเวลาเหมือนเมื่อก่อน ตนได้ต่อว่า และตำหนิภรรยาถึงเรื่องดังกล่าวตลอด ชีวิตรักที่หวานชื่นกลับเริ่มขมยิ่งกว่าบอระเพ็ด ชีวิตเริ่มระหอกระแหง ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำ
นายคิน โส กล่าวด้วยความเจ็บปวด และมีเสียงสะอื้นคลายจะร้องให้ว่า จากนั้นวันที่ 1 ก.พ.2554 ภรรยาได้ขอกุญแจรถจักรยานยนต์ เพื่อขอไปทำธุระนอกบ้าน และบอกว่าจะไม่นาน ปล่อยให้ตนนอนเลี้ยงลูกอยู่เพียงลำพัง เวลาที่ภรรยาออกไปนอกบ้าน 1 ชั่วโมง ผ่านไป 2 ชั่วโมง ผ่านไป ก็ยังไม่กลับ ตนจะไปทำงานก็ไปทำไม่ได้ ทิ้งลูกให้อยู่ในห้องคนเดียวไม่ได้ ทำให้วันนั้นตนไม่ได้ออกไปทำงาน และภรรยาเดินทางกลับมาเที่ยงคืนของวันที่ 2 ก.พ.54 ทำให้ตนเกิดความโมโห และเดินออกจากบ้านไป เพื่อออกไปดื่มเบียร์กับเพื่อนๆ จากนั้นภรรยาเกิดโวยวาย ตนได้ชกทำร้ายภรรยา 1 ครั้ง ก่อนเดินออกไป
จากนั้นตนกลับบ้านในช่วงเช้าก็มานอนอยู่ที่บ้าน จากนั้นเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อภรรยาอันเป็นที่รักกลับแสดงความโหดร้าย ใช้น้ำกรดมาสาดตน ในขณะนอนหลับอยู่ในบ้าน ทำให้ตนปวดแสบปวดร้อนเหมือนตายทั้งเป็น และเพื่อนบ้านได้นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
ทั้งนี้ แพทย์เห็นว่าบาดแผลรุนแรงมาก ดวงตาด้านขวาบอด ใบหน้าเละ ไม่เหลือสภาพเดิม แพทย์จึงได้ส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ในระหว่างที่รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต นั้น แพทย์ได้ตัดเนื้อแก้มก้นจากด้านหลังไปโป๊ะบริเวณใบหน้า หลังจากที่ออกโรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต ตนก็ได้กลับประเทศได้ไปรักษาต่อประเทศพม่า หลังพักฟื้นได้ 2 ปี ก็เดินทางกลับมาจังหวัดภูเก็ต ด้วยบาดแผลบนใบหน้า
นายคิน โส ยังกล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่ตนเดินทางกลับมาจังหวัดภูเก็ต ก็ได้ไปพบเพื่อนเก่าๆ เขาก็ได้เมินหน้าหนีตนหมดทุกคน ไม่มีใครจะไยดีต่อตน ทำให้ตนเหมือนตายทั้งเป็น จากนั้นตนก็ได้ติดสินใจไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ธวัชชัย ศรีไหม พนักงานสอบสวน สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อให้ติดตามเมียใจร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามตามกฎหมาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้บันทึกประจำวันไว้แต่ไม่มีการหาตัวภรรยาโหดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ภรรยามือสาดน้ำกรดรายนี้ยังหลบหนีอยู่กับแฟนชาวพม่าคนใหม่ อยู่ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งตนอยากให้เรื่องของตนเป็นอุทาหรณ์แก่ทุกคน และอยากให้นำเสนอเรื่องดังกล่าวผ่านต่อยักษ์ใหญ่ บีบีซี ถือว่าครั้งนี้เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของชีวิต เพื่อน ญาติ คนสนิท ก็หายหน้าจากเราไปทุกคน เมื่อเราอยู่ในสภาพเช่นนี้ แต่โชคยังดีที่มีนายจ้างชาวต่างประเทศเข้าใจ รับตนเป็นลูกจ้างทาสีในโรงแรม หรือทำงานทั่วไป ทำให้ตนมีกำลังใจ และมีพลังต่อสู้กับลมหายใจของวันพรุ่งนี้ต่อไป” นายคิน โส กล่าว