ตรัง - แกนนำเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง หวั่นสถานการณ์ของสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธุ์ หลังพบการตายอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา หากไม่ดำเนินมาตรการใดๆ ให้ชัดเจน
วันนี้ (29 ต.ค.) นายอิสมาแอน เบ็ญสะอาด หรือบังแอน กรรมการเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังพบการสูญเสียของสัตว์ทะเลหายากที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะที่ผ่านมา ภาครัฐยังไม่มีมาตรการที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าทำอย่างไรให้สัตว์ทะเลหายากเหล่านี้มีอัตราการตายลดลง โดยเฉพาะในปี 2556 แค่ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ปรากฏว่า พบโลมา ตายไปแล้ว 15 ตัว พะยูน 8 ตัว เต่าทะเล 30 ตัว นับว่าเป็นปริมาณการสูญเสียที่สูงมาก และมีแนวโน้มว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่หน่วยงานราชการที่เคยอ้างว่ามีส่วนรับผิดชอบในการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากเหล่านี้ก็ยังคงไม่มีการดำเนินการหามาตรการป้องกันอย่างจริงๆ จังๆ เสียที
นอกจากนั้น จังหวัดตรัง เคยออกประกาศพื้นที่คุ้มครองสัตว์ทะเลหายาก แต่กลับไม่ได้เข้าไปจัดการตามกฎหมายที่กำหนดไว้แต่อย่างใด อีกทั้งควรจะมีการแบ่งโซนเพื่อรับผิดชอบท้องทะเลร่วมกัน เช่น โซนตะเสะ โซนหาดสำราญ โซนเกาะมุกด์ หรือโซนเกาะลิบง และกระชับพื้นที่ให้เล็กลง เพื่อให้การดูแลแก้ไขปัญหาสามารถกระทำได้อย่างทั่วถึง
ขณะที่หน่วยงานภาครัฐ กับชาวบ้านก็ไม่ได้มีการบูรณาการร่วมกันเลย จึงเป็นไปในลักษณะต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างคิด รวมไปถึงหน่วยงานราชการเองก็ยังขาดการประสานงานร่วมกัน เช่น หน่วยงานในจังหวัด กับหน่วยงานในส่วนกลาง
ทั้งนี้ เพราะหากเป็นหน่วยงานในจังหวัดอย่างผู้ว่าราชการจังหวัด จะมีอำนาจในการสั่งการเต็มที่ แต่หากเป็นหน่วยงานในส่วนกลาง ผู้ว่าราชการจังหวัด กลับไม่มีอำนาจในการสั่งการใดๆ เลย นอกจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ยังถูกโยกย้ายไปมาอยู่บ่อยครั้ง บางคนมารับตำแหน่งได้แค่ 6 เดือน ถึง 1 ปี หรือบางคนก็มานั่งรอเกษียณอายุราชการ หรือผู้ที่มีอำนาจสั่งการบางคน ก็ไม่รู้จริงในเรื่องของทรัพยากรทางทะเล จึงทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดเสียที
สำหรับสาเหตุที่ทำให้สัตว์ทะเลหายาก ทั้งโลมา พะยูน และเต่าทะเล ตายลงไปในจำนวนมากนั้น ส่วนใหญ่จะมาจากเครื่องมือทำมาหากินของชาวประมงเอง ทั้งที่เกิดจากความตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจ แต่ที่ผ่านมายังมีการละเลย และไม่มีการแบ่งเขตห้ามทำการประมงที่ชัดเจน แม้แต่งบประมาณที่จะเข้ามาดูแลด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ก็ถูกนำไปทุ่มในส่วนอื่นเสียมากกว่า ทั้งที่ไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างจริงจัง เช่น ใช้ในการประชุม สัมมนา แต่ควรจะนำงบประมาณมาใช้ในการปฏิบัติการมากกว่า ดังนั้น หากไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่เป็นรูปธรรม อีกไม่นานสัตว์ทะเลหายากเหล่านี้ก็จะสูญพันธุ์หมดสิ้นไปจากจังหวัดตรัง และทะเลไทยอย่างแน่นอน