ยะลา - แม่ลูก 4 ถูกแจ้งจับข้อหาลักตัดกล้วยหิน ตร.สอบสวนอ้างไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ หัวหน้า สภ.บาตูตาโมง บุกพิสูจน์ความจริงถึงบ้าน ต้องพบกับความเวทนา สภาพบ้านทรุดโทรมยากจน เร่งประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องรุดให้ความช่วยเหลือ
เมื่อวันนี้ (18 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลา ว่า หลังได้รับการประสานจาก พ.ต.ต.ชย พาหนะกิจ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรบาตูตาโมง ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย.56 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บาตูตาโมง ได้จับกุม นางอามีเนาะ สาเมาะ ในข้อหาลักทรัพย์กล้วยหิน จำนวน 2 เครือ เมื่อนำตัวมาสอบปากคำก็อ้างว่า สาเหตุที่ไปลักตัดกล้วยหินเพื่อนำไปขาย และจะนำเงินไปซื้อข้าวสารให้ลูก 4 คนได้กิน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ปักใจเชื่อ พ.ต.ต.ชย พาหนะกิจ หัวหน้าสถานี จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประสานไปยังโรงเรียนบ้านตังกาเด็ง ซึ่งลูก 3 คน ของนางอามีเนาะ เรียนอยู่ พร้อมกับเชิญครูประจำชั้นไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านของนางอามีเนาะ
โดยเมื่อ พ.ต.ต.ชย พาหนะกิจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงก็พบกับบ้านหลังเก่าๆ สภาพทรุดโทรม มุงด้วยสังกะสี เมื่อเข้าไปตรวจดูภายในบ้านตามคำบอกเล่าของนางอามีเนาะ ว่าไม่มีข้าวสาร ก็พบว่า ภายในถังพลาสติกใส่ข้าวสารขนาด 5 ลิตร ไม่มีข้าวสารตามที่นางอามีเนาะ บอกเล่า ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามถึงความเป็นอยู่ นางอามีเนาะ ก็เล่าให้ฟังว่า ได้อยู่กินกับนายมามุ เจ๊ะอุมา ผู้เป็นสามี ซึ่งมีอาชีพทำงานรับจ้างทำก่อสร้าง บางวันก็มีงาน บางวันก็ไม่มีงาน และมีลูกอีก 4 คน คือ ด.ญ.ยาวารี เจ๊ะอุมา อายุ 12 ขวบ ด.ช.มูฮัมหมัดซอพรี เจ๊ะอุมา อายุ 8 ขวบ ด.ญ.นุสฮัสซาวันนา เจ๊ะอุมา อายุ 5 ขวบ และคนสุดท้อง ด.ญ.นูรุฟิตตรี เจ๊ะอุมา อายุ 2 ขวบกว่า
ตนเองก็ไม่มีงานประจำ ไม่มีรายได้เนื่องจากต้องอยู่บ้านเลี้ยงดูลูกสาวคนเล็ก ก็ได้เผาถ่านไม้ขาย 2 วัน ถึงจะมีรายได้ 200 บาท ไม่มีรายได้อย่างอื่น ส่วนลูกๆ ก็เรียนหนังสืออยู่ 3 คน บางวันก็ไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะไม่มีเงิน หรือบางวันไปโรงเรียน ทั้งที่ไม่มีเงิน แต่ก็ต้องไปเพราะที่บ้านไม่มีข้าวกิน แต่หากไปโรงเรียนก็จะมีอาหารกลางวันได้กินประทังชีวิต “วันที่ได้ไปขโมยตัดกล้วยหินของเพื่อนบ้าน เนื่องจากที่บ้านไม่มีข้าวจะกิน ก็เลยไปตัดกล้วยหินที่อยู่ริมถนน เพื่อจะนำไปขาย และนำเงินมาซื้อข้าวสารให้ลูกได้กิน แต่ก็ถูกเจ้าของแจ้งความจับกุม” นางอามีเนาะ กล่าว
ทาง พ.ต.ต.ชย พาหนะกิจ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรบาตูตาโมง เปิดเผยว่า หลังจากมีการแจ้งความจับกุมแล้ว เจ้าของสวนกล้วยก็ถอนแจ้งความ ไม่เอาความต่อ นางอามีเนาะ เมื่อทราบว่ามีฐานะยากจน และลำบากพร้อมกับให้เงินช่วยเหลือไปอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ จากการสำรวจและตรวจดูสภาพบ้านก็พบว่า ไม่มีไฟฟ้าใช้ แม้แต่ส้วมก็ไม่มีใช้ พ.ต.ต.ชย พาหนะกิจ จึงได้ประสานไปยัง อบต.ถ้ำทะลุ เพื่อขอความช่วยเหลือในการติดตั้งไฟฟ้า เพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้อ่านหนังสือ และทำการบ้าน เนื่องจากที่ผ่านมา เด็กบอกว่าใช้เทียนไขในการทำการบ้าน เมื่อเทียนไขหมดก็ไม่ได้ทำ ไม่ได้อ่านหนังสือ นอกจากนี้ ก็จะนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยสร้างห้องส้วมให้แก่ครอบครัวของ นางอามีเนาะ ได้ใช้ให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ต.ชย พาหนะกิจ ยังเล่าให้ฟังว่า ด้วยพฤติกรรมของผู้เป็นมารดาที่มีฐานะยากจน และลำบาก ทำให้ต้องมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย เคยก่อคดีลักรถจักรยานมาให้ลูกสาวได้ใช้ปั่นไปเรียนหนังสือ และพฤติกรรมดังกล่าว ก็ส่งผลให้เป็นปัญหาในทางสังคม ชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวรู้ดีว่า เป็นคนชอบขโมย แต่ก็ไม่ได้ติดใจเอาความ เนื่องจากสงสารในสถานะความเป็นอยู่ โดยขณะนี้ได้ปรึกษากับทาง อบต.ถ้ำทะลุ และ นายสุวรรณ ซุงสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตังกาเด็ง เพื่อหาทางช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่ลูกๆ ของนางอามีเนาะ ทั้ง 3 คนที่กำลังศึกษาอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และคุณครูของโรงเรียนบ้านตังกาเด็ง ทราบข่าวความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคุณครูก็ได้นำข้าวสาร เสื้อผ้า มาบริจาคให้แก่นางอามีเนาะ และลูกๆ ทั้ง 4 คน ได้ใช้ประทังชีวิตในเบื้องต้น และจะเร่งหาทางช่วยเหลือ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่