คุมตัวพ่อบังเกิดเกล้าฆ่าลูกในไส้ทำแผน พบลากไปเผา-ฝังป่าท้ายหมู่บ้าน

เชียงราย - ตำรวจเชียงรายคุมพ่อบังเกิดเกล้า ฆ่า-เผาลูกในไส้ทำแผน ผู้ต้องหาอ้างลูกติดยาเตือนไม่ฟัง แถมยังใช้เข็มขัดตีจึงผลักออก โชคร้ายหัวลูกกระแทกเสาปูนดับ หลังเกิดเหตุกลัวความผิด ตัดสินใจลากไปเผาในป่าท้ายหมู่บ้าน เรื่องแดงเมื่อแม่แจ้งความลูกหาย

วันนี้ (9 ก.ค.) พ.ต.อ.ไพศาล นันตา ผกก.สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย, พ.ต.ท.ประทวน อาจกล้า สารวัตรเวรเจ้าของคดี ได้ควบคุมตัวนายคำปน สิงห์ชู อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 บ้านโป่งหนอง ม.3 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพข้อหาฆ่านายสุรพงษ์ สิงห์ชู อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของตัวเองจนเสียชีวิตคาบ้าน

เจ้าหน้าที่ได้ให้นายคำปนพาไปดูจุดที่ได้นำศพลูกชายไปเผาและฝังที่ป่าละเมาะห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อตรวจสอบก็พบชิ้นส่วนของมนุษย์ ซึ่งนายคำปน ระบุว่าเป็นกระดูกของนายสุรพงษ์ ลูกชายเขาเอง แต่เหลือเพียงกระดูกส่วนศีรษะ และชิ้นที่ไม่ใหญ่ สภาพถูกเผา มีรอยเถ้าถ่านอยู่ที่พื้นดินภายในป่าลึกประมาณ 1-2 ฟุต นอกนี้พบกระดูกส่วนแขน และขา รวมทั้งศีรษะบางส่วนที่เป็นชิ้นใหญ่ถูกฝังอยู่ในดินใกล้กับจุดที่มีการเผา

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 56 ที่ผ่านมา โดยนางเฉลียว สิงห์ชู อายุ 50 ปี ภรรยาของนายคำปน มารดาของนายสุรพงษ์ ผู้ตาย ได้เข้าแจ้งต่อ พ.ต.ท.ประทวนว่าลูกชายได้หายออกจากบ้านโดยไม่แจ้งว่าไปที่ไหน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้ และประสานฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามหาตัว

ต่อมาวันที่ 5 มิ.ย. 56 นายคำปน ผู้เป็นบิดากลับไปถอนแจ้งความ โดยอ้างว่าติดต่อลูกชายได้แล้ว โดยไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การของนางเฉลียวในเวลาต่อมาที่ยืนยันว่าไม่เคยติดต่อลูกชายได้อีกเลย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความสงสัยจึงสอบปากคำนายคำปนอย่างละเอียด

กระทั่งผ่านไปนานร่วม 1 เดือน นายคำปนก็สารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าลูกชายของตัวเองและนำศพไปเผาและฝังในจุดดังกล่าว

นายคำปนกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับลูกชายของตัวเองอย่างหนักเพราะรู้ว่าลูกชายติดยาเสพติดชนิดหนึ่ง เมื่อไปตักเตือนก็เกิดการถกเถียงกันขึ้น ก่อนที่ลูกชายจะใช้เข็มขัดตีตนทำให้ตนตัดสินใจผลักให้พ้นตัว จนนายสุรพงษ์เสียหลักศีรษะไปกระทบกับเสาบ้านที่เป็นคอนกรีตจนแน่นิ่งไป เมื่อตนเข้าไปดูปรากฏว่าได้เสียชีวิตแล้ว ก็กลัวความผิดจึงนำร่างของลูกชายไปเผาที่ป่าท้ายหมู่บ้าน แต่เหลือส่วนกระดูกชิ้นใหญ่ๆ อยู่จึงเกรงว่าชาวบ้านจะไปเห็นจึงได้ฝังในบริเวณใกล้ๆ กับจุดที่เผาศพลูก

ด้าน พ.ต.อ.ไพศาลกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่น ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายต่อนายคำปน และได้สอบปากคำผู้ต้องหา เก็บรวบรวมหลักฐาน แกะรอยไปจนพบคราบเลือดในที่เกิดเหตุซึ่งคงค้างอยู่ในบ้าน รวบรวมหลักฐานจากจุดที่เผาและฝังศพเพื่อนำมาประกอบคำรับสารภาพแล้ว

นอกจากนี้ยังจะส่งหลักฐานที่ได้ไปตรวจเอกลักษณ์ของบุคคลตามขั้นตอนต่อไป รวมทั้งจะยังขยายผลเพิ่มเติมอีกว่าผู้ตายเสียชีวิตเพียงเพราะถูกผลักให้ชนเสาจริงหรือไม่ เพราะอาจจะมีการทำร้ายกันก่อนหน้านั้นด้วย