ศรีสะเกษ - สาวศรีสะเกษ นำลูกชาย 11 ขวบ ออกมาท้าพิสูจน์ดีเอ็นเอยันเป็นลูกชาย “ไอ้คำ" พระฉาวจริง เผยเคยส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูกเดือนละ 10,000 บาท แล้วหายไป ขณะนี้ไม่กล้าให้ลูกไปเรียนหนังสือผวาลูกชายถูกอุ้มหาย วอนมูลนิธิปวีณาให้ความช่วยเหลือ ตร.ส่งกำลังคุ้มกันเข้ม ด้าน "ก" ตร.ทางหลวงลูกศิษย์ "ไอ้คำ" โทรฯตามจิกหนัก
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (4 ก.ค.) หลังจากที่มีหญิงสาวคนหนึ่งพร้อมสามีได้เข้าร้องเรียนสื่อมวลชนว่า เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระฉาวชื่อดังรูปหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ และมีลูกชายด้วยกัน 1 คนเพื่อเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริง ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่บ้านหนองนาเวียง ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ เมื่อไปถึงพบ น.ส."ญ" อายุ 27 ปี และ ด.ช."น." อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองศรีสะเกษ กำลังนั่งเล่นอยู่ในบริเวณข้างบ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.น้ำเกลี้ยง มาคอยดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยตลอดเวลา
น.ส."ญ" กล่าวว่า ตนเป็นลูกกำพร้าอาศัยอยู่กับยายที่บ้านโนนจาน ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ช่วงเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้ไปทำบุญกับยายที่บริเวณที่พักสงฆ์แห่งหนึ่งริมห้วยสำราญ ต.โพธิ์ ได้พบกับพระชื่อดังและได้เข้ามาจีบตน จากนั้นพระชื่อดังได้ขับรถเก๋งมารับตนไปเที่ยวด้วยกัน และได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันบนรถ จากนั้นได้มีเพศสัมพันธ์กันเรื่อยมา
จนกระทั่งตนได้ตั้งท้องและเรียนจบชั้น ม.3 พระชื่อดังจึงได้พาตนไปเช่าบ้านพักอยู่ที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยพระดังได้แวะเวียนไปนอนกับตนที่บ้านเช่าเป็นประจำ และได้ให้คนขับรถคนสนิทพากันไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี โดยได้ใช้ชื่อญาติของตนคนหนึ่งมาเป็นพ่อของเด็กที่เกิดขึ้นมา
หลังจากที่คลอดลูกแล้ว ตนได้กลับมาพักอาศัยอยู่กับยายที่บ้านโนนจานและญาติพี่น้อง ซึ่งพระชื่อดังก็ส่งเงินมาให้เป็นค่าเลี้ยงดูลูกชายทุกเดือน แต่ว่าไม่สม่ำเสมอต้องทวงถามค่านมลูกเป็นประจำ และก่อนหน้านี้มีเรื่องดังขึ้นมาพระดังก็ได้พาตนไปเช่าบ้านอยู่ที่กรุงเทพฯ พอเรื่องเงียบก็ให้ตนกลับมาอยู่บ้าน และต่อมาพระชื่อดังก็หายเงียบไปนานประมาณ 6 เดือน ตนจึงได้นำเรื่องไปร้องที่กองปราบปราม กรุงเทพฯ
รวมทั้งตนกับลูกเคยพากันไปตรวจดีเอ็นเอ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯไว้แล้ว ทั้งนี้เพื่อต้องการให้พระชื่อดังมารับผิดชอบดูแลตนกับลูก และต่อมาพระชื่อดังได้ให้ลูกศิษย์คนสนิทที่เป็นตำรวจมาเคลียร์ปัญหาและจ่ายเงินให้ก้อนหนึ่งและจ่ายเงินค่าเลี้ยงลูกรายเดือนๆ ละ 10,000 บาท ตนจึงได้ถอนแจ้งความที่กองปราบปราม
จนกระทั่งขณะนี้ลูกชายของตนอายุได้ 11 ขวบ กำลังเรียนอยู่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองศรีสะเกษ แต่วันนี้ตนไม่ได้ให้ลูกไปเรียนหนังสือ เนื่องจากเกรงว่าลูกจะถูกอุ้มหายไป เพราะว่าพระชื่อดังมีลูกศิษย์ที่มีอิทธิพลมากหลายคนการที่ตนออกมาร้องกับสื่อมวลชนในครั้งนี้ เนื่องจากว่า พระชื่อดังไม่ส่งเงินค่าเลี้ยงดูลูกมาให้ตนนาน 2 เดือนแล้ว ล่าสุดลูกศิษย์พระชื่อดังที่เป็นตำรวจทางหลวงโอนเงินมาให้ตน 2,000 บาทเท่านั้น ทำให้ตนกับลูกได้รับความเดือดร้อนมาก
ขณะนี้ตนมีสามีใหม่แล้วและมีลูกกับสามีใหม่อีก 1 คน อายุประมาณ 4 เดือน ตนจึงอยากให้พระชื่อดังออกมาแสดงความรับผิดชอบส่งเงินค่าเลี้ยงดูมาให้เช่นเดิมด้วย เพราะว่าลูกชายของพระชื่อดังกำลังโตและต้องใช้เงินในการศึกษาเล่าเรียนหนังสือรวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นในชีวิตประจำวันด้วย
"หากพระชื่อดังไม่เชื่อว่า ลูกชายของตนเป็นลูกของพระชื่อดังจริงก็พร้อมที่จะพิสูจน์ดีเอ็นเอ โดยขอให้พระชื่อดังนัดวันเวลามาเพื่อที่จะไปให้แพทย์ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ตนช้ำใจมากที่ผู้หญิงคนอื่นๆ ได้เงินทองจากพระชื่อดังมากมาย แต่ตนซึ่งมีลูกด้วยกันกับพระชื่อดังแท้ๆ แต่ต้องมีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก ขณะที่ผู้หญิงคนอื่นของพระชื่อดังมีความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย
จึงขอเรียกร้องให้พระชื่อดังออกมาส่งเงินค่าเลี้ยงดูให้กับตนและลูกด้วย ซึ่งจะขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อขอให้ช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย และขอให้ตำรวจ สภ.น้ำเกลี้ยง มาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับตนและครอบครัวด้วย เนื่องจากขณะนี้เกรงกลัวอิทธิพลของพระชื่อดังมากว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย" น.ส."ญ" กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ น.ส."ญ" กำลังให้สัมภาษณ์อยู่ปรากฏว่าได้มีโทรศัพท์เรียกเข้ามือถือของ น.ส."ญ" ซึ่ง น.ส."ญ" ได้แจ้งกับสื่อมวลชนว่า ตำรวจทางหลวงชื่อ "ก." ลูกศิษย์ของพระชื่อดังโทร.มาแต่พอทราบจาก น.ส."ญ" ว่า มีนักข่าวมาทำข่าวตำรวจคนดังกล่าว ก็รีบวางสายทันที เมื่อ น.ส."ญ" โทร.กลับไปก็ไม่ได้รับสายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการดูหน้าตา ด.ช."น" พบมีส่วนคล้ายกับพระดังผู้อื้อฉาวองค์หนึ่งใน จ.ศรีสะเกษด้วย