ทีมข่าวพิเศษของ “เอเอสทีวีผู้จัดการ” ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อตอบปัญหาของสังคมในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็น “หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก” และได้พบแง่มุมใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง โดยจะนำเสนอเรื่องราวทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง
เปิดเส้นทางรัก เมีย 8 ลูกชาย 2 คนของ “ไอ้คำ” พระดังยอดนักรัก จ.ศรีสะเกษ แฉทุ่มปรนเปรอแต่ละรายโคตรอู้ฟู่ ส่งเสียเดือนละหลายหมื่นถึงหลักแสน พร้อมรถหรูป้ายแดงและบ้านหลังโต 2-15 ล้านบาท รวมทั้งสวนยางกว่า 100 ไร่ เผยสเปกสาวสวยผอมบางผิวคล้ำเล็กน้อย ไม่เว้นนักเรียน นักศึกษา พยาบาล และเมียนักธุรกิจใหญ่ แถมขยันก่อสารพัดเรื่องฉาวต้องตามเคลียร์ควักเงินล้านปิดปากเป็นอาจิณ
แหล่งข่าวระดับวงในของวัดป่าขันติธรรม หรือที่พักสงฆ์ บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ หลายคนต่างเปิดเผยตรงกันว่า จากการไล่เรียงรวบรวมบรรดาสีกาสาวสวยที่เข้ามาเกี่ยวข้องมีสัมพันธ์ระดับลึกซึ้งกับพระฉาวผู้โด่งดังแห่ง จ.ศรีสะเกษนั้นไม่น้อยกว่า 8 คน และ 2 ในจำนวน 8 คนนี้ถึงขั้นมีลูกชายด้วยกันรวม 2 คน ทั้งนี้เพราะจริงๆ แล้วพระดังยอดนักรักหรือ “ไอ้คำ” รายนี้ยังหนุ่มแน่น อายุแค่ 34 ปีเท่านั้น แต่ต้องการให้ผู้คนเรียกชื่อดูเหมือนเป็นพระอาวุโสชั้นผู้ใหญ่ระดับ “หลวงปู่” โดยอ้างว่าเป็นอายุรวมกับชาติที่แล้วที่เขาระลึกชาติได้ด้วย
เริ่มจากคนที่ 1 ประมาณปี 2545 “พระดัง” ไปเปิดที่พักสงฆ์อยู่บริเวณริมห้วยสำราญ ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้ไปรู้จักกับ “ญ” อายุ 25 ปี สาวสวยบ้านโนนจานที่นำเอาข้าวไปถวาย จากนั้นได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจนมีลูกชาย 1 คนชื่อ “น้อง น.” ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (ป.4) โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองศรีสะเกษ และ “พระดัง” ได้ส่งเสียเงินค่าเลี้ยงดูให้เดือนละ 20,000 บาท โดยมี “หมวด ก” นายตำรวจสถานีตำรวจทางหลวงอุบลราชธานี เป็นผู้รับผิดชอบส่งเงินให้ ขณะนี้ “ญ” มีสามีใหม่แล้วและสามีติดยาบ้า ทั้งหมดยังคงพักอยู่ที่บ้านโนนจาน ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
กรณีนี้เคยเกิดปัญหาฝ่ายหญิงเรียกร้องเงินค่าเลี้ยงดูเพิ่มแต่ “พระดัง” ไม่ยอมให้ ฝ่ายหญิงขู่จะเปิดโปงจึงถูก “พระดัง” และพวกข่มขู่ฆ่า ฝ่ายหญิงต้องหนีตายไปหาพี่ชายซึ่งเป็นตำรวจอยู่ที่กรุงเทพฯ ก่อนพาเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2553 เพราะหวาดผวาไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินทั้งตัวเองและครอบครัว
จากนั้นกองปราบปรามได้มีหนังสือ ที่ ตช 0026.22/4348 กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2553 เรื่อง ขอเชิญให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ส่งถึงพระดังที่วัด อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เรียกให้ไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 20 ธันวาคม 2553 จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ งานนี้ “พระดัง” ต้องใช้อิทธิพลบารมีและบรรดาลูกศิษย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายเข้าเคลียร์ให้เรื่องเงียบหายเข้ากลีบเมฆ โดยได้จ่ายให้ “ญ” 1 ล้านบาทแลกกับการถอนแจ้งความ ส่วนตำรวจโกยกันไปกี่มากน้อยไม่มีใครสามารถระบุได้ชัดเจน
รายที่ 2 คือ “พ” อายุ 26 ปี สาวบ้านหนองพะแนง คุ้ม 11 โนนม่วง ต.รุ่งระวี อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ “พระดัง” ได้มาติดพันขณะที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 โดยขณะนั้น “พระดัง” มาเปิดที่พักสงฆ์ และเจอกับ “พ” จึงได้ชอบพอกัน และ “พระดัง” ได้นำเงินจำนวน 20,000 บาท พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทมาหมั้นเอาไว้ ก่อนอยู่กินกันฉันสามีภรรยาแบบลับๆ “พระดัง” ได้ซื้อรถยนต์เก๋งมิตซูบิชิ สีแดง กลางเก่ากลางใหม่ 1 คันให้ “พ” ขับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนน้ำเกลี้ยงวิทยา และกำลังสร้างบ้านใหญ่เพื่อเป็นเรือนหอให้ 1 หลัง มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท แต่ยังสร้างไม่เสร็จ ตามที่เป็นข่าว
โดย “พ” พยายามเรียกร้องให้ “พระดัง” สึกออกมาอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาอย่างเปิดเผย แต่ “พระดัง” ยังไม่ยอมเนื่องจากต้องการที่จะอยู่กอบโกยเงินไปก่อน ทำให้ “พ” ไม่พอใจ และได้ใช้มือซ้ายจับโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปภาพนิ่งเอาไว้ขณะที่ “พระดัง” กำลังนอนหลับหลังจากเมาและร่วมรักกับ “พ” เสร็จแล้วที่บริเวณหน้าห้องน้ำในห้องนอนในบ้านของฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นบ้านขนาดชั้นเดียวตั้งอยู่ด้านหน้าเรือนหอร้างในปัจจุบัน
จากนั้น “พ” ได้ยื่นคำขาดกับ “พระดัง” อีกครั้งให้สึกออกมาอยู่ร่วมกันแต่ “พระดัง” ไม่ยอม “พ” จึงยื่นข้อเสนอขอเงิน 30 ล้านบาทเพื่อนำมาสร้างบ้านให้เสร็จและใช้จ่ายในการดำรงชีวิตต่อไป แต่ “พระดัง” ไม่ยอม “พ” จึงได้นำเอารูปภาพไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อว่า “แด่สาธุชน” และได้นำเอาภาพไปถ่ายเอกสาร จากนั้นนำเอาภาพที่ “พระดัง” นอนหลับกับ “พ” ดังกล่าว เขียนข้อความว่า “นี่หรือ พระที่พวกคุณเคารพนับถือ” ไปโปรยหน้าบ้านของ “พระดัง” ที่ จ.อุบลราชธานี และทั่วบริเวณในเขตพื้นที่ อ.พิบูลมังสาหาร รวมทั้งเล่นแรงถึงขั้นนำเลือดไปเทราดประตูหน้าบ้าน “พระดัง” ด้วยความโกรธแค้นด้วย
“พระดัง” จึงได้มาขอเคลียร์ โดยจ่ายเงินให้ “พ” จำนวน 5 ล้านบาท และให้ลบรูปภาพออกจากเฟซบุ๊ก ซึ่ง “พ” ได้ยอมลบภาพออก แต่มีมือดีทั้งหลายได้บันทึกเอาไว้แล้ว จึงกลายเป็นรูปภาพในข่าวฉาวโฉ่อยู่ในขณะนี้ ซึ่งถือเป็นภาพแรกเริ่มและเป็นภาพที่สร้างความเสื่อมศรัทธาให้ “พระดัง” มากที่สุดในบรรดารูปภาพและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่กันอยู่
ปัจจุบัน “พ” ได้แต่งงานไปอยู่กับสามีใหม่ที่ จ.เชียงราย มีลูกชาย 1 คน อายุ 1 ขวบเศษ โดยมีผู้เป็นพ่อกับภรรยาใหม่ของพ่อเฝ้าบ้านเรือนหอร้างใหญ่โตอยู่ที่บ้านหนองพะแนง และกำลังสร้างละครเรื่องใหม่ว่าด้วยการโอนบาปให้ “ส” น้องชายอดีตพระหน้าเหมือนมารับกรรมแทน “พระดัง” พี่ชายผู้ก่อเรื่องตัวจริง ซึ่งกำกับการแสดงโดยลูกศิษย์กลุ่มปัจจุบัน ท่ามกลางข่าวลือว่าละครเรื่องนี้จะเนรมิตให้เรือนหอร้างใหญ่โตที่ค้างคามาหลายปีสร้างเสร็จสมบูรณ์ได้ในเร็ววัน
รายที่ 3 ต่อมาปี 2551 “พระดัง” ได้มาสร้างวัดป่าฯ ที่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และมีความสัมพันธ์กับ “ม” อายุ 25 ปี สาวสวยคนหนึ่งของบ้านดู่ ต.ยาง ซึ่งบ้านอยู่ทางเข้าก่อนถึงวัดประมาณ 3 กม. และมีลูกชาย 1 คน “พระดัง” ได้พา “ม” ไปอยู่กรุงเทพฯ โดยซื้อบ้านจัดสรรหรูหรามูลค่า 15 ล้านบาทให้อยู่กับลูก พร้อมรถยนต์เก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด 1 คันไว้ใช้งาน และส่งเสียเดือนละ 50,000 บาท “พระดัง” จะไปหาทุกครั้งที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยมี “หมวด ก” นายตำรวจทางหลวง ขับรถพาไปหา “ม” ที่หมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้
รายที่ 4 ประมาณปี 2552 “พระดัง” ได้ไปสร้างที่พักสงฆ์ที่บ้านตาเส็ด อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ได้รู้จักกับ “น” อายุ 27 ปี สาวสวยบ้านตาเส็ดและเป็นน้องสาวของพระผู้ติดตาม “พระดัง” ได้ชอบพอมีความสัมพันธ์กัน และสร้างบ้านหรูทรงยุโรปมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาทให้ พร้อมกับซื้อรถเบนซ์ป้ายแดงให้ 1 คัน สวนยางพาราอีกจำนวน 120 ไร่ จากนั้นได้ไปซื้อบ้านที่กรุงเทพฯให้ “น” ด้วย ส่งเสียค่าใช้จ่ายรายเดือน เดือนละ 100,000 บาท
“พระดัง” โปรดปรานเมียรักคนนี้มาก เพราะเป็นน้องสาวของพระผู้ติดตาม และ “น” มีหน้าตาสวยงามตรงสเปกของ “พระดัง” ที่ชื่นชอบผู้หญิงผอมบาง ผิวคล้ำเล็กน้อย ว่ากันว่าถึงขั้นได้ใช้เดือนและวันเกิดของตัวเองเปลี่ยนชื่อให้ “น.” ใหม่เป็น “กันยาวันอังคาร” ขณะนี้ “น” จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และ “พระดัง” จะไปหาบ่อยมากเช่นกัน
รายที่ 5 ปี 2554 ไปเปิดสาขาที่ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร ได้พบกับ “จ” อายุ 14 ปี เด็กนักเรียนชั้น ป. 6 “พระดัง” ได้เกี้ยวพาราสีจนได้เสียกันและให้เงินแก่แม่ของน้อง “จ” จำนวน 1 ล้านบาทเพื่อปิดปาก จากนั้นไปสร้างบ้านที่ อ.เจริญศิลป์ และซื้อรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ ป้ายแดง 1 คันให้ พร้อมส่งเสียเงินให้เดือนละ 50,000 บาท แต่นานๆ จึงจะไปหาเพราะไม่ค่อยได้รับกิจนิมนต์ไปยังเส้นทางนั้น
อย่างไรก็ตาม “พระดัง” มักฉวยโอกาสช่วงที่อยู่บ้านเกิดที่ จ.อุบลราชธานี แต่งชุดฆราวาสขับรถเบนซ์ไปหา “จ” จนถูกตำรวจทางหลวงอุบลราชธานีโบกรถและจับได้ครั้งหนึ่งว่าแต่งชุดฆราวาสขับรถ แต่ “พระดัง” และตำรวจทั้ง 2 นายรู้จักกันเนื่องจาก เคยมาขับรถนำขบวนให้เป็นประจำ “พระดัง” ได้ให้เงินค่าปิดปากตำรวจทางหลวง 2 นายที่พบเห็นคนละ 2 ล้านบาทเพื่อไม่ให้นำเอาเรื่องราวไปบอกใคร
รายที่ 6 ปี 2555 “พระดัง” ป่วยเป็นไข้หวัดไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯ ได้พบกับพยาบาลคนหนึ่งชื่อ “ก” และมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันในโรงพยาบาลที่เป็นห้องพิเศษ โดย “พระดัง” จะอ้างต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของโรงพยาบาลชื่อดังจึงเดินทางไปที่โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นประจำ ซึ่งทุกครั้งจะมีเพศสัมพันธ์กันภายในห้องพิเศษของโรงพยาบาล และส่งเสียเดือนละ 70,000 บาท ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีให้โดยตรง
รายที่ 7 ปี 2555 ได้พบกับ “ด” สาวสวยชาว จ.มหาสารคาม แต่อ้างว่ามาเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหงอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ไปฟังการแสดงพระธรรมเทศนาของ “พระดัง” จากนั้นได้สนิทสนมกันจนกระทั่งมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง “พระดัง” ได้ซื้อรถยนต์เก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด ป้ายแดงให้ “ด” 1 คัน เช่าแมนชั่นหรูหราที่กรุงเทพฯ ให้อยู่ และจะไปหาเป็นประจำในช่วงที่รับกิจนิมนต์อยู่กรุงเทพฯ เพราะยังเป็นสาวคนใหม่ ส่งเงินให้ใช้เดือนละ 60,000 บาท โดยโอนเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือ
รายที่ 8 นอกจากนี้ ห้วงระหว่างปี 2552-2556 จะมีหญิงสาวใหญ่เจ้าประจำอยู่อีก 1 คน ชื่อ “จ” อายุ 45 ปี เป็นภรรยาสาวสวยของนักธุรกิจใหญ่ที่กรุงเทพฯ จะมาดูแล “พระดัง” สม่ำเสมอและสนิทสนมกันเป็นพิเศษ เนื่องจากสามีของ “จ” ป่วย ทำให้ “จ” อ้างเป็นสาเหตุมาทำบุญให้ จึงได้เดินทางโดยเครื่องบินมาพบกับ “พระดัง” เป็นประจำ และ “จ” นำเอาทองคำหนักประมาณ 50 บาทที่เป็นมรดกของตระกูลสามีมาถวายให้ ปรากฏว่าลูกชายกลับจากสหรัฐอเมริกามาทราบเรื่องจึงโวยวายและให้ไปขอทองคำกลับคืนมา ทำให้ “พระดัง” ชู้รักต้องคืนทองคำให้ “จ” และ “จ” ยังเป็นเจ้าภาพในการถวายเงินเพื่อซื้อเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ เตียงนอน เครื่องครัวต่างๆ ให้ “พระดัง”
ทุกครั้งที่ “พระดัง” ไปเปิดสาขาใหม่ “จ” จะติดตามไปทุกแห่งหน รวมทั้งต่างประเทศ เช่น อินเดีย เนปาล ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา ที่ “พระดัง” ไปเปิดสาขาอยู่ด้วย เนื่องจาก “จ” หึงหวงและทุ่มเทเงินทองให้ไปมาก จึงพยายามตามติดไปเฝ้าตลอดเวลาที่ทำได้