โอละพ่อ คดีแหม่มกังหันลมแจ้งความถูกข่มขืน ส่อแววเท็จ

กระบี่ - ตำรวจตามแกะปม กรณีสาวเนเธอร์แลนด์แจ้งความถูกคนร้ายข่มขืนบนชายหาดเกาะพีพี ส่อเค้าวุ่น เผยผลตรวจร่างกายไม่พบคราบอสุจิ แถมผู้เสียหายยังให้การวกวน ไม่แน่ใจว่าโดนข่มขืนจริง ด้านเจ้าตัวพร้อมถอนแจ้งความ

วันนี้ (7 มี.ค.) จากกรณีที่ น.ส.เมรานี มาเรีย แอนเน็ต วัย 25 ปี นักท่องเที่ยวชาวเนเธอร์แลนด์ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ย่อยเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อช่วงของเย็นวันที่ 5 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมาว่า ถูกข่มขืนที่ริมชายหาดภายในเกาะพีพี ขณะที่เมาไม่ได้สติ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจร่างกาย และหาร่องรอยการข่มขืน โดยนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวให้การว่า ตนพร้อมด้วยเพื่อนสาวอีกคนเดินทางมาเที่ยวที่เกาะพีพี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม มีกำหนดกลับประเทศ วันที่ 9 มีนาคมนี้ ซึ่งเมื่อมาถึงได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเกาะพีพี จากนั้นได้แยกกับเพื่อนไปดื่มกินตามลำพังที่บาร์ริมชายหาดจนเมาไม่ได้สติ มารู้ตัวอีกครั้งว่านอนอยู่บนชายหาด และกำลังมีผู้ชายคนหนึ่งกำลังร่วมเพศอยู่ ก็ได้แต่โวยวายทำให้ชายที่กำลังข่มขืนอยู่ได้รีบวิ่งหนีไป ตนจึงเดินทางกลับที่พักแล้วมาแจ้งความเพื่อให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ เปิดเผยว่า หลังจากรับแจ้งความก็ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นพดล มุกดา พนักงานสอบสวน (สบ 3) สภ.เมืองกระบี่ เป็นหัวหน้าชุดลงไปคลี่คลายคดีคนร้ายข่มขืนนักท่องเที่ยวสาว (ชื่อ น.ส.เมรานี มาเรีย แอนเน็ต) วัย 25 ปี ชาวเนเธอร์แลนด์ ที่บริเวณหมู่ที่ 7 บ้านเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ พร้อมรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบตามลำดับ และได้นำผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกระบี่ พร้อมนำผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุที่เกาะพีพี ซึ่งผลของการตรวจร่างกายในเบื้องต้น ทางโรงพยาบาลกระบี่ได้ยืนยันว่า ไม่พบร่องของการถูกข่มขืน หรือคราบอสุจิแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ผบก.ภ.จว.กระบี่ เปิดเผยต่อว่า จากการนำผู้เสียหายเดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อใช้เป็นแนวทางสืบสวนหาตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายนั้น กลับพบว่า ผู้เสียหายเริ่มให้การวกวน กลับไปกลับมา บอกเพียงอย่างเดียวว่า จำอะไรไม่ได้ และในที่สุดไม่ยืนยันด้วยว่าถูกคนร้ายข่มขืนจริงหรือไม่ ทำให้เจ้าหน้าที่เริ่มแกะรอยคนร้ายยากขึ้น และสุดท้าย น.ส.เมรานี มาเรีย แอนเน็ต ก็บอกต่อเจ้าหน้าที่ว่า จะขอถอนแจ้งความเพราะไม่แน่ใจว่าถูกข่มขืนจริงหรือไม่ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความก็เป็นความจำเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรับแจ้ง และดำเนินไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย ในเมื่อผู้เสียหายจะขอถอนแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ก็ยินดีจะให้ถอน เนื่องจากว่า เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในจังหวัดกระบี่ และเมื่อทางเจ้าหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กลับขอถอนแจ้งความ