ระนอง -เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าผ่านแดนของจังหวัดระนอง กับประเทศพม่า เพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียน และบิมสเท็ค ในปี 2557
วันนี้ (12 พ.ย.) คณะกรรมการส่งเสริมการค้าผ่านแดนจังหวัดระนอง ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดระนอง ร่วมประชุมเพื่อเร่งดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การค้าผ่านแดนรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยมี ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธาน
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า จากความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดระนอง กับมณฑลตะนาวศรี สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า จึงได้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแนวทางยุทธศาสตร์การค้าผ่านแดนจังหวัดระนอง ในปี 2557 ทั้ง 4 ด้าน คือ 1) การพัฒนาปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านลอจิสติกส์ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ รวมถึงท่าเรือ จัดตั้งเป็นเศรษฐกิจพิเศษ จัดตั้งตลาดนัดชายแดน และร้านค้าปลอดภาษี และการขยายเพิ่มจุดผ่อนปรนแนวชายแดน พัฒนาบุคลาการให้มีความรู้เรื่องภาษา
2) พัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้า-ส่งออก เพื่อสร้างความสัมพันธ์ภาครัฐ และเอกชนระดับท้องถิ่น เช่น การแข่งขันกีฬากับเพื่อนบ้าน 3) พัฒนาศักยภาพความพร้อมของผู้ประกอบการ โดยการจัดหลักสูตรพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเพื่อรองรับการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ การทำการค้าในแถบเอเชีย การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน 4) พัฒนาด้านการตลาด และช่องทางการจัดจำหน่าย โดยการเจรจาจับคู่ธุรกิจ การแสดงและจำหน่ายสินค้า การประชาสัมพันธ์สินค้า และเตรียมขยายความร่วมมือไปสู่ประเทศอินเดีย บังกลาเทศ ตามความตกลงของบิมสเท็ค (Bimstec)
วันนี้ (12 พ.ย.) คณะกรรมการส่งเสริมการค้าผ่านแดนจังหวัดระนอง ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดระนอง ร่วมประชุมเพื่อเร่งดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การค้าผ่านแดนรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยมี ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธาน
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า จากความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดระนอง กับมณฑลตะนาวศรี สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า จึงได้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแนวทางยุทธศาสตร์การค้าผ่านแดนจังหวัดระนอง ในปี 2557 ทั้ง 4 ด้าน คือ 1) การพัฒนาปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านลอจิสติกส์ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ รวมถึงท่าเรือ จัดตั้งเป็นเศรษฐกิจพิเศษ จัดตั้งตลาดนัดชายแดน และร้านค้าปลอดภาษี และการขยายเพิ่มจุดผ่อนปรนแนวชายแดน พัฒนาบุคลาการให้มีความรู้เรื่องภาษา
2) พัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้า-ส่งออก เพื่อสร้างความสัมพันธ์ภาครัฐ และเอกชนระดับท้องถิ่น เช่น การแข่งขันกีฬากับเพื่อนบ้าน 3) พัฒนาศักยภาพความพร้อมของผู้ประกอบการ โดยการจัดหลักสูตรพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเพื่อรองรับการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ การทำการค้าในแถบเอเชีย การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน 4) พัฒนาด้านการตลาด และช่องทางการจัดจำหน่าย โดยการเจรจาจับคู่ธุรกิจ การแสดงและจำหน่ายสินค้า การประชาสัมพันธ์สินค้า และเตรียมขยายความร่วมมือไปสู่ประเทศอินเดีย บังกลาเทศ ตามความตกลงของบิมสเท็ค (Bimstec)
