ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ภาคีเครือข่ายรักษ์ทะเลจะนะ เดินหน้าปักป้าย “ปฏิญญาว่าด้วยการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลเพื่อเป็นแหล่งผลิตอาหารของภูมิภาคอาเซียน” ประกาศเจตนารมณ์ปกป้องทรัพยากรท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง หวั่นท่าเรือน้ำลึกทำลายอาชีพหลักของชุมชน
หลังจากภาคีเครือข่ายรักษ์ทะเลจะนะ จัดทำ “ปฏิญญาว่าด้วยการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลเพื่อเป็นแหล่งผลิตอาหารของภูมิภาคอาเซียน” ซึ่งมีหลายหน่วยงานร่วมลงนามข้อตกลงอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ชายหาดบ้านสวนกง ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ชายหาดที่ถูกกำหนดชะตาให้เป็นที่ตั้งท่าเทียบเรือน้ำลึกฝั่งอ่าวไทย ในแผนแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล เพื่อแสดงเจตจำนงร่วมกันปกป้องทรัพยากรทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตคนท้องถิ่น และเป็นแหล่งอาหารสำคัญที่หล่อเลี้ยงผู้คนใน จ.สงขลา เรื่อยไปจนถึงภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งเป็นสินค้าส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย ล่าสุด ภาคีเครือข่ายรักษ์ทะเลจะนะก็ยังเคลื่อนไหวยืนยันจุดประสงค์เดิมอย่างเต็มที่
โดยเมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นได้ร่วมกันขึ้นป้ายปฏิญญาว่าด้วยการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลเพื่อเป็นแหล่งผลิตอาหารของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้มีการลงนามโดย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 จังหวัดสงขลา ผู้แทนประมงอำเภอจะนะ ผู้ประสานงานเครือข่ายรักษ์ทะเลจะนะ ผู้ประสานงานศูนย์เรียนรู้วิถีธรรมชาติเพื่อชุมชน ผู้นำศาสนา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาทับ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะกอม และรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
1.ภาคีเครือข่ายรักษ์ทะเลจะนะ จะประสานความร่วมมือในการสร้างคุณค่าทะเลจะนะสู่สาธารณะ
2.ภาคีเครือข่ายรักษ์ทะเลจะนะ จะประสานความร่วมมือในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรทางทะเลจะนะเพื่อเป็นแหล่งผลิตอาหารของภูมิภาคอาเซียน โดยการสร้างกลไกการทำงานร่วมระหว่างภาคีเครือข่าย
3.ภาคีเครือข่ายรักษ์จะนะ ร่วมผลักดันนโยบายระดับพื้นที่ เช่น ข้อบัญญัติท้องถิ่น และการประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสิ่งแวดล้อมปี พ.ศ.2535
4.การรักษาทะเลจะนะ ถือเป็นภารกิจร่วมของจังหวัดสงขลา ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สงขลา) ประมงอำเภอ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน
นายดนรอนี ระหมันยะ ผู้ประสานงานเครือข่ายรักษ์ทะเลจะนะ กล่าวว่า เราร่วมกันปักป้ายปฏิญญาการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลเพื่อเป็นแหล่งผลิตอาหารของภูมิภาคอาเซียน เพื่อให้ริมชายฝั่งทะเลจะนะทั้งหมดได้รู้ว่าทะเลมีความสำคัญ เป็นอาชีพหลักของคนในพื้นที่มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ มีการทำประมงทั้งในทะเล และในคลอง ซึ่งหากทะเลตรงนี้ถูกทำลายไป เราก็จะอยู่ไม่ได้ การจัดทำข้อมูลของเครือข่ายรักษ์ทะเลจะนะนี้เพื่อจะประกาศให้คนรู้ว่าทะเลคือ ชีวิตของเราจริงๆ
ด้าน น.ส.เธียรรัตน์ แก้วนะ เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น กล่าวว่า ตนมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านป่าชิง มีอาชีพทำนา แต่มาร่วมอนุรักษ์ และปกป้องทะเล เพราะคิดว่าทุกอย่างมีความเชื่อมโยงกัน หากไม่มีปลาในทะเลเราก็จะไม่มีปลากิน คนป่าชิงชอบมาเที่ยวทะเล มาสูดอากาศที่บริสุทธิ์ แต่ถ้ามีท่าเรือเกิดขึ้นก็ทำให้สูญสิ้นทุกอย่างเช่นกัน การอนุรักษ์ทะเลจึงเป็นหน้าที่ของทุกคน ทุกคนสามารถร่วมมือ และช่วยเหลือกันได้
