ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยังไร้วี่แววจระเข้โผล่ชายหาดภูเก็ต หลังระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกติดตามทั้งทางอากาศ และทางทะเล พร้อมเร่งทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวตามชายหาดต่างๆ แม้นักท่องเที่ยวไม่แตกตื่นก็ตาม ด้าน สว.ภูเก็ต วอนหยุดปล่อยข่าวหากไม่มีการยืนยันที่ชัดเจน หวั่นส่งผลกระทบทางการท่องเที่ยวทางทะเล จ.ภูเก็ต
จากกรณีชาวประมงบริเวณชายหาดไม้ขาว หมู่ 3 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พบจระเข้ขนาดใหญ่ว่ายน้ำอยู่ในทะเล ที่บริเวณหน้าชายหาดไม้ขาว เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2556 โดยภายหลังได้รับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบ และยืนยันว่า เป็นจระเข้จริง ความยาวกว่า 3 เมตร สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมอุทยานแห่งชาติและพื้นที่คุ้มครองทางทะเล จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า จากการขึ้นบินสำรวจทางอากาศของทางสมาคมการบินภูเก็ตวันนี้ (6 พ.ย.) โดยใช้เครื่องบิน จำนวน 2 ลำ บินตั้งแต่ชายหาดฝั่งลากูน่า จ.ภูเก็ต ไปจนถึงชายหาดเขาหลัก รวมทั้งลำคลองต่างๆ บริเวณหาดท้ายเหมือง จ.พังงา ปรากฏว่า ไม่พบวี่แววของจระเข้ดังกล่าวแต่อย่างใด เช่นเดียวกับการสำรวจทางทะเลที่ยังไร้วี่แววเชนเดียวกัน
แต่จากการติดตามของเครือข่ายทราบว่า มีหลายกลุ่มที่รายงานเข้ามา และมีความเป็นไปได้ที่จระเข้น่าจะว่ายขึ้นไปทางตอนเหนือของเกาะภูเก็ต หรือฝั่งท้ายเหมือง เนื่องจากมีผู้พบเห็นหลายจุด น่าจะเป็นตัวเดียวกันตัวที่พบที่หาดไม้ขาว ส่วนที่บริเวณหาดกะตะ จ.ภูเก็ต ที่มีคนแจ้งว่าพบจระเข้นั้นยังไม่ยืนยัน เนื่องจากยังไม่มีภาพถ่ายยืนยัน รวมทั้งคนที่เห็นมีเพียงแค่คนเดียว ซึ่งแตกต่างกับที่หาดท้ายเหมืองที่นักท่องเที่ยวเห็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม ในการติดตามยังมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยมีการสนธิกำลังกันของเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาท เจ้าหน้าที่อุทยานสัตว์ป่าเขาพระแทว และอาสาสมัครของโรงแรมในพื้นที่หาดไม้ขาว กว่า 40 นาย ออกลาดตระเวนทั้งทางบก และทางน้ำที่บริเวณหาดไม้ขาวและ บริเวณพรุเจ๊ะสัน โดยมีการแบ่งทีมกันออกลาดตระเวนทั่วบริเวณ มีการนำกล้องถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera Trap) ระบบอินฟราเรตตรวจจับความเคลื่อนไหวในเวลากลางคืนมาใช้งาน รวมทั้งนำโครงไก่สดโยนลงไปในน้ำทะเล และล่อไว้บนบกเพื่อให้จระเข้โผล่ออกมา แต่ก็ยังไม่พบการเคลื่อนไหวของจระเข้แต่อย่างใด
ด้าน นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ส.ว.ภูเก็ต และประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีมีคนพบจระเข้ที่บริเวณหาดกะตะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับการยืนยันว่ามีการพบจระเข้ที่หาดกะตะแต่อย่างใด โดยในพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลชื่อดังก้องโลก มีโรงแรมระดับ 5 ดาวอยู่จำนวนมาก และมีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำ และทำกิจกรรมหน้าชายหาดจำนวนมาก หากมีการพบเห็นจระเข้จริง ทางเทศบาล และเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายคงต้องมีการประกาศเตือนนักท่องเที่ยวไปแล้ว ซึ่งตนขอให้มีการตรวจสอบให้ดี และขอประณามการปล่อยข่าวออกมาแบบนี้เพราะเป็นการทำลายการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ซึ่งตอนนี้เองหลายๆ ประเทศก็ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้พิจารณาในการจะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอยู่แล้ว เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง ดังนั้น ขออย่ามาซ้ำเติมการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต และประเทศไทยอีกเลย และขอให้นึกถึงหลักความเป็นจริงว่าจระเข้ที่พบที่หาดไม้ขาว อ.ถลาง จะสามารถว่ายน้ำ หรือเดินทางมาถึงหาดกะตะ ซึ่งอยู่คนล่ะฝั่งได้อย่างไร
ด้าน พ.ต.ต.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สว.สทท.2 กก.5 บก.ทท. กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานการพบจระเข้ที่หาดกะตะแต่อย่างใด โดยได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาดกะตะ เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของข่าวดังกล่าว เบื้องต้นไม่มีใครกล้ายืนยันว่ามีการพบจระเข้ที่หาดกะตะตามข่าวที่ปรากฏ อย่างไรก็ตาม ได้มีการสั่งการให้มีการนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวลงพื้นที่ทำความเข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว หากมีผู้ใดพบเห็นก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที
ด้าน นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเฝ้าระวังสถานการ์ณตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกลางวัน-กลางคืน ตามแนวชายฝั่ง และจุดที่คาดว่าที่จระเข้จะขึ้นมา โดยจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการรายงานเข้ามาว่าพบร่องรอยของจระเข้ตัวดังกล่าว และจากการประสานกับเจ้าหน้าที่ หรือผู้ประกอบการของโรงแรมหรูในพื้นที่หาดไม้ขาว พบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้าใจไม่แตกตื่น และไม่มีการเช็กเอาต์ออกไปแต่อย่างใด ขณะที่ทุกโรงแรมได้ติดธงแดงห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำเพื่อความปลอดภัย และจัดกำลังบีชการ์ดเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว โดยยังคงมีบางส่วนที่ยังคงนอนอาบแดดตามปกติ และใช้สระน้ำริมชายหาดของโรงแรมเล่นน้ำกันตามปกติไม่เกรงกลัวต่อข่าวดังกล่าวแต่อย่างใด และอยากจะฝากวอนการนำเสนอข่าวเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง หวั่นส่งผลกระทบการท่องเที่ยวจนไม่สามารถประเมินค่าได้
ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวบริเวณชายหาดกะตะ-กะรน พบว่า บรรยากาศทั่วไปตามแหล่งท่องเที่ยวชายหาด และในน้ำยังคงมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ และทำกิจกรรมทางทะเลกันตามปกติเต็มชายหาด
จากกรณีชาวประมงบริเวณชายหาดไม้ขาว หมู่ 3 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พบจระเข้ขนาดใหญ่ว่ายน้ำอยู่ในทะเล ที่บริเวณหน้าชายหาดไม้ขาว เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2556 โดยภายหลังได้รับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบ และยืนยันว่า เป็นจระเข้จริง ความยาวกว่า 3 เมตร สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมอุทยานแห่งชาติและพื้นที่คุ้มครองทางทะเล จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า จากการขึ้นบินสำรวจทางอากาศของทางสมาคมการบินภูเก็ตวันนี้ (6 พ.ย.) โดยใช้เครื่องบิน จำนวน 2 ลำ บินตั้งแต่ชายหาดฝั่งลากูน่า จ.ภูเก็ต ไปจนถึงชายหาดเขาหลัก รวมทั้งลำคลองต่างๆ บริเวณหาดท้ายเหมือง จ.พังงา ปรากฏว่า ไม่พบวี่แววของจระเข้ดังกล่าวแต่อย่างใด เช่นเดียวกับการสำรวจทางทะเลที่ยังไร้วี่แววเชนเดียวกัน
แต่จากการติดตามของเครือข่ายทราบว่า มีหลายกลุ่มที่รายงานเข้ามา และมีความเป็นไปได้ที่จระเข้น่าจะว่ายขึ้นไปทางตอนเหนือของเกาะภูเก็ต หรือฝั่งท้ายเหมือง เนื่องจากมีผู้พบเห็นหลายจุด น่าจะเป็นตัวเดียวกันตัวที่พบที่หาดไม้ขาว ส่วนที่บริเวณหาดกะตะ จ.ภูเก็ต ที่มีคนแจ้งว่าพบจระเข้นั้นยังไม่ยืนยัน เนื่องจากยังไม่มีภาพถ่ายยืนยัน รวมทั้งคนที่เห็นมีเพียงแค่คนเดียว ซึ่งแตกต่างกับที่หาดท้ายเหมืองที่นักท่องเที่ยวเห็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม ในการติดตามยังมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยมีการสนธิกำลังกันของเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาท เจ้าหน้าที่อุทยานสัตว์ป่าเขาพระแทว และอาสาสมัครของโรงแรมในพื้นที่หาดไม้ขาว กว่า 40 นาย ออกลาดตระเวนทั้งทางบก และทางน้ำที่บริเวณหาดไม้ขาวและ บริเวณพรุเจ๊ะสัน โดยมีการแบ่งทีมกันออกลาดตระเวนทั่วบริเวณ มีการนำกล้องถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera Trap) ระบบอินฟราเรตตรวจจับความเคลื่อนไหวในเวลากลางคืนมาใช้งาน รวมทั้งนำโครงไก่สดโยนลงไปในน้ำทะเล และล่อไว้บนบกเพื่อให้จระเข้โผล่ออกมา แต่ก็ยังไม่พบการเคลื่อนไหวของจระเข้แต่อย่างใด
ด้าน นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ส.ว.ภูเก็ต และประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีมีคนพบจระเข้ที่บริเวณหาดกะตะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับการยืนยันว่ามีการพบจระเข้ที่หาดกะตะแต่อย่างใด โดยในพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลชื่อดังก้องโลก มีโรงแรมระดับ 5 ดาวอยู่จำนวนมาก และมีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำ และทำกิจกรรมหน้าชายหาดจำนวนมาก หากมีการพบเห็นจระเข้จริง ทางเทศบาล และเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายคงต้องมีการประกาศเตือนนักท่องเที่ยวไปแล้ว ซึ่งตนขอให้มีการตรวจสอบให้ดี และขอประณามการปล่อยข่าวออกมาแบบนี้เพราะเป็นการทำลายการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ซึ่งตอนนี้เองหลายๆ ประเทศก็ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้พิจารณาในการจะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอยู่แล้ว เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง ดังนั้น ขออย่ามาซ้ำเติมการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต และประเทศไทยอีกเลย และขอให้นึกถึงหลักความเป็นจริงว่าจระเข้ที่พบที่หาดไม้ขาว อ.ถลาง จะสามารถว่ายน้ำ หรือเดินทางมาถึงหาดกะตะ ซึ่งอยู่คนล่ะฝั่งได้อย่างไร
ด้าน พ.ต.ต.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สว.สทท.2 กก.5 บก.ทท. กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานการพบจระเข้ที่หาดกะตะแต่อย่างใด โดยได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาดกะตะ เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของข่าวดังกล่าว เบื้องต้นไม่มีใครกล้ายืนยันว่ามีการพบจระเข้ที่หาดกะตะตามข่าวที่ปรากฏ อย่างไรก็ตาม ได้มีการสั่งการให้มีการนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวลงพื้นที่ทำความเข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว หากมีผู้ใดพบเห็นก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที
ด้าน นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเฝ้าระวังสถานการ์ณตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกลางวัน-กลางคืน ตามแนวชายฝั่ง และจุดที่คาดว่าที่จระเข้จะขึ้นมา โดยจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการรายงานเข้ามาว่าพบร่องรอยของจระเข้ตัวดังกล่าว และจากการประสานกับเจ้าหน้าที่ หรือผู้ประกอบการของโรงแรมหรูในพื้นที่หาดไม้ขาว พบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้าใจไม่แตกตื่น และไม่มีการเช็กเอาต์ออกไปแต่อย่างใด ขณะที่ทุกโรงแรมได้ติดธงแดงห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำเพื่อความปลอดภัย และจัดกำลังบีชการ์ดเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว โดยยังคงมีบางส่วนที่ยังคงนอนอาบแดดตามปกติ และใช้สระน้ำริมชายหาดของโรงแรมเล่นน้ำกันตามปกติไม่เกรงกลัวต่อข่าวดังกล่าวแต่อย่างใด และอยากจะฝากวอนการนำเสนอข่าวเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง หวั่นส่งผลกระทบการท่องเที่ยวจนไม่สามารถประเมินค่าได้
ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวบริเวณชายหาดกะตะ-กะรน พบว่า บรรยากาศทั่วไปตามแหล่งท่องเที่ยวชายหาด และในน้ำยังคงมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ และทำกิจกรรมทางทะเลกันตามปกติเต็มชายหาด