ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผอ.ศูนย์อนุรักษ์เผยทุกหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยังประสานความร่วมมือออกติดตามหาจระเข้ในทะเล ล่าสุด ชาวประมงเจออีกจระเข้ขนาดใหญ่ขณะกำลังวางอวนลากกุ้งเคย บริเวณหน้าบ้านในไร่ หาดท้ายเหมือง จ.พังงา เตรียมสำรวจทั้งทางอากาศ และทางทะเลวันนี้ เชื่อจระเข้ไม่เป็นอันตรายต่อคนถ้าไม่ไปรุกราน หรือทำร้าย
นายธเนศ มั่นน้อย ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบกรณีที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวพบจระเข้ที่บริเวณหาดไม้ขาว อ.ถลาง และหาดท้ายเหมือง จ.พังงา ว่า ล่าสุด ทางศูนย์อนุรักษ์ฯ ได้รับแจ้งจากเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง บ้านในไร่ ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ว่า ขณะที่ชาวประมงใช้อวนรุนทำการประมงรุนกุ้งเคยที่บริเวณหน้าบ้านในไร่ หาดท้ายเหมือง พบเห็นจระเข้ขนาดใหญ่ว่ายน้ำอยู่ในทะเล ซึ่งคาดว่าน่าจะว่ายน้ำตามฝูงปลาที่มากินกุ้งเคยในบริเวณดังกล่าว และมีแนวโน้มว่าน่าจะว่ายน้ำขึ้นไปทางทิศเหนือของ อ.ท้ายเหมือง เพื่อหาทางขึ้นฝั่งบริเวณปากคลอง หรือปากแม่น้ำ เพื่อใช้เป็นที่หลบภัย หรืออาศัยดำรงชีวิต
นายธเนศ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จระเข้ดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ใด แต่เชื่อว่าไม่ใช่จระเข้น้ำจืดแน่นอน เพราะจระเข้น้ำจืดถ้าลงไปอยู่ในทะเลไม่น่าจะรอดชีวิตได้ถึงวันนี้ ส่วนจระเข้น้ำเค็มก็ไม่น่าจะใช่ ในเบื้องต้น คิดว่าอาจจะเป็นจระเข้ลูกผสมที่มีคนเลี้ยงไว้แล้วหลุดออกมา ซึ่งจากการตรวจสอบในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ไม่มีการเลี้ยง สำหรับในพื้นที่จังหวัดพังงา พบว่า ในพื้นที่ท้ายเหมืองมีการเลี้ยงจระเข้ จำนวน 3 ราย มี 2 ราย ที่แจ้งเลี้ยงรายละ 1 ตัว ส่วนอีกหนึ่งราย แจ้งเลี้ยงจระเข้ตัวใหญ่ จำนวน 14 ตัว จระเข้ตัวเล็ก จำนวน 25 ตัว ซึ่งก่อนหนี้นี้ในช่วงที่มีฝนตกหนัก และน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพังงา เคยมีจระเข้หลุดออกมาจากฟาร์มเลี้ยง ซึ่งครั้งนั้นมีการจับตายจระเข้ไป 1 ตัว และจับเป็นได้ 1 ตัว ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจระเข้ที่เจอในทะเลเป็นจระเข้ที่เลี้ยงหรือเปล่า แต่คาดว่าน่าจะเป็นจระเข้ลูกผสมซึ่งสามารถอยู่ได้ทั้งน้ำทะเลและน้ำกร่อย
อย่างไรก็ตาม สำหรับจระเข้ที่เจอในทะเลเชื่อว่าไม่เป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยว ซึ่งโดยสัญชาตญาณของจระเข้จะไม่ว่ายน้ำเข้าไปใกล้ที่มีเรือวิ่ง หรือมีคนพลุกพล่าน จระเข้จะดุร้ายในช่วงฤดูวางไข่ หรือถูกทำร้ายเท่านั้น ที่ผ่านมา ไม่เคยมีข่าวจระเข้ไล่กัด หรือทำร้ายคน ถ้าจระเข้ที่เจอในทะเลเป็นจระเข้เลี้ยงจะหากินไม่เป็น ซึ่งจะว่ายน้ำไล่ตามฝูงปลาเพื่อจับกินเป็นอาหาร หรือจะไปหลบอยู่ตามใต้ร้านอาหารแพที่อยู่ในทะเล อย่างไรก็ตาม จะการติดตามเฝ้าระวังและสำรวจร่องรอยสำหรับในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยกเว้นในพื้นที่หาดท้ายเหมือง ที่ยังมีคนเจอล่าสุดเมื่อวานที่หน้าบ้านในไร่ ซึ่งถ้าเป็นจระเข้เลี้ยงถ้าหลุดออกไปคาดว่าน่าจะมีประมาณ 2 ตัว
นายธเนศ กล่าวต่อไป อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว วันนี้ (6 พ.ย.) ทางศูนย์จะจัดเรือออกลาดตระเวนบริเวณหน้าหาดไม้ขาวตลอดแนวอีกครั้ง แม้ว่าจากการตรวจสอบที่ผ่านมายังไม่พบร่องรอยของจระเข้ดังกล่าวก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้จระเข้ที่พบน่าจะว่ายน้ำไปทางตอนเหนือของเกาะภูเก็ตแล้ว ซึ่งการเฝ้าระวังจะดำเนินการต่อเนื่องต่อไปเพื่อให้เกิดความมั่นใจที่สุด
ขณะที่นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมอุทยานแห่งชาติและพื้นที่คุ้มครองทางทะเล จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการติดตามหาจระเข้ในพื้นที่ไม้ขาว ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกสำรวจบริเวณชายหาดยาวประมาณ 10 กิโลเมตร ไม่พบร่องรอยของจระเข้ในพื้นที่ และจากการเอาเหยื่อไปวางล่อจระเข้บริเวณพรุเจ๊ะสัน ก็ไม่พบว่ามีจระเข้แต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ยังเดินหน้าค้นหา และสำรวจกันต่อไป โดยวันนี้ทางศูนย์ได้รับการประสานจากภาคเอกชนในการนำเครื่องบินเล็กขึ้นบินสำรวจทางอากาศ โดยจะบินสำหรับในพื้นที่หาดกะตะ ต่อเนื่องมาจนถึงหาดไม้ขาว และหาดใต้เหมือง เพื่อเก็บข้อมูลเพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าจระเข้ที่เจอเป็นจระเข้พันธุ์อะไรกันแน่
นายธเนศ มั่นน้อย ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบกรณีที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวพบจระเข้ที่บริเวณหาดไม้ขาว อ.ถลาง และหาดท้ายเหมือง จ.พังงา ว่า ล่าสุด ทางศูนย์อนุรักษ์ฯ ได้รับแจ้งจากเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง บ้านในไร่ ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ว่า ขณะที่ชาวประมงใช้อวนรุนทำการประมงรุนกุ้งเคยที่บริเวณหน้าบ้านในไร่ หาดท้ายเหมือง พบเห็นจระเข้ขนาดใหญ่ว่ายน้ำอยู่ในทะเล ซึ่งคาดว่าน่าจะว่ายน้ำตามฝูงปลาที่มากินกุ้งเคยในบริเวณดังกล่าว และมีแนวโน้มว่าน่าจะว่ายน้ำขึ้นไปทางทิศเหนือของ อ.ท้ายเหมือง เพื่อหาทางขึ้นฝั่งบริเวณปากคลอง หรือปากแม่น้ำ เพื่อใช้เป็นที่หลบภัย หรืออาศัยดำรงชีวิต
นายธเนศ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จระเข้ดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ใด แต่เชื่อว่าไม่ใช่จระเข้น้ำจืดแน่นอน เพราะจระเข้น้ำจืดถ้าลงไปอยู่ในทะเลไม่น่าจะรอดชีวิตได้ถึงวันนี้ ส่วนจระเข้น้ำเค็มก็ไม่น่าจะใช่ ในเบื้องต้น คิดว่าอาจจะเป็นจระเข้ลูกผสมที่มีคนเลี้ยงไว้แล้วหลุดออกมา ซึ่งจากการตรวจสอบในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ไม่มีการเลี้ยง สำหรับในพื้นที่จังหวัดพังงา พบว่า ในพื้นที่ท้ายเหมืองมีการเลี้ยงจระเข้ จำนวน 3 ราย มี 2 ราย ที่แจ้งเลี้ยงรายละ 1 ตัว ส่วนอีกหนึ่งราย แจ้งเลี้ยงจระเข้ตัวใหญ่ จำนวน 14 ตัว จระเข้ตัวเล็ก จำนวน 25 ตัว ซึ่งก่อนหนี้นี้ในช่วงที่มีฝนตกหนัก และน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพังงา เคยมีจระเข้หลุดออกมาจากฟาร์มเลี้ยง ซึ่งครั้งนั้นมีการจับตายจระเข้ไป 1 ตัว และจับเป็นได้ 1 ตัว ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจระเข้ที่เจอในทะเลเป็นจระเข้ที่เลี้ยงหรือเปล่า แต่คาดว่าน่าจะเป็นจระเข้ลูกผสมซึ่งสามารถอยู่ได้ทั้งน้ำทะเลและน้ำกร่อย
อย่างไรก็ตาม สำหรับจระเข้ที่เจอในทะเลเชื่อว่าไม่เป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยว ซึ่งโดยสัญชาตญาณของจระเข้จะไม่ว่ายน้ำเข้าไปใกล้ที่มีเรือวิ่ง หรือมีคนพลุกพล่าน จระเข้จะดุร้ายในช่วงฤดูวางไข่ หรือถูกทำร้ายเท่านั้น ที่ผ่านมา ไม่เคยมีข่าวจระเข้ไล่กัด หรือทำร้ายคน ถ้าจระเข้ที่เจอในทะเลเป็นจระเข้เลี้ยงจะหากินไม่เป็น ซึ่งจะว่ายน้ำไล่ตามฝูงปลาเพื่อจับกินเป็นอาหาร หรือจะไปหลบอยู่ตามใต้ร้านอาหารแพที่อยู่ในทะเล อย่างไรก็ตาม จะการติดตามเฝ้าระวังและสำรวจร่องรอยสำหรับในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยกเว้นในพื้นที่หาดท้ายเหมือง ที่ยังมีคนเจอล่าสุดเมื่อวานที่หน้าบ้านในไร่ ซึ่งถ้าเป็นจระเข้เลี้ยงถ้าหลุดออกไปคาดว่าน่าจะมีประมาณ 2 ตัว
นายธเนศ กล่าวต่อไป อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว วันนี้ (6 พ.ย.) ทางศูนย์จะจัดเรือออกลาดตระเวนบริเวณหน้าหาดไม้ขาวตลอดแนวอีกครั้ง แม้ว่าจากการตรวจสอบที่ผ่านมายังไม่พบร่องรอยของจระเข้ดังกล่าวก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้จระเข้ที่พบน่าจะว่ายน้ำไปทางตอนเหนือของเกาะภูเก็ตแล้ว ซึ่งการเฝ้าระวังจะดำเนินการต่อเนื่องต่อไปเพื่อให้เกิดความมั่นใจที่สุด
ขณะที่นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมอุทยานแห่งชาติและพื้นที่คุ้มครองทางทะเล จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการติดตามหาจระเข้ในพื้นที่ไม้ขาว ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกสำรวจบริเวณชายหาดยาวประมาณ 10 กิโลเมตร ไม่พบร่องรอยของจระเข้ในพื้นที่ และจากการเอาเหยื่อไปวางล่อจระเข้บริเวณพรุเจ๊ะสัน ก็ไม่พบว่ามีจระเข้แต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ยังเดินหน้าค้นหา และสำรวจกันต่อไป โดยวันนี้ทางศูนย์ได้รับการประสานจากภาคเอกชนในการนำเครื่องบินเล็กขึ้นบินสำรวจทางอากาศ โดยจะบินสำหรับในพื้นที่หาดกะตะ ต่อเนื่องมาจนถึงหาดไม้ขาว และหาดใต้เหมือง เพื่อเก็บข้อมูลเพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าจระเข้ที่เจอเป็นจระเข้พันธุ์อะไรกันแน่
