ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวประมงหาดไม้ขาว จ.ภูเก็ต ตะลึงเจอจระเข้ขนาดใหญ่ว่ายน้ำอยู่กลางทะเล แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ยืนยันเป็นจระเข้จริง แต่ยังไม่สามารถระบุสายพันธุ์ได้ว่าเป็นจระเข้ชนิดไหน วางเครือข่ายเฝ้าติดตามตรวจสอบ คาดถ้าเป็นจระเข้น้ำจืดว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งแน่
วันนี้ (3 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์นวัตกรรมอุทยานแห่งชาติและพื้นที่คุ้มครองทางทะเล จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งชาวประมงที่บริเวณหาดไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (3 พ.ย.) พบเห็นจระเข้ขนาดใหญ่ว่ายน้ำอยู่ในทะเลบริเวณหาดไม้ขาว ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านกำลังจะออกเรือไปทำการประมง ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้ง นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมอุทยานแห่งชาติและพื้นที่คุ้มครองทางทะเล จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ โดยพบว่าบริเวณชายหาดไม้ขาว ซึ่งอยู่ใกล้กับพรุเจ๊ะสัน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มีชาวบ้าน รวมทั้งอาสาสมัครจากมูลนิธิกุศลธรรมจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว กำลังเฝ้าสังเกตการณ์
นายปรารพ กล่าวว่าจากการเฝ้าสังเกตการณ์ และตั้งกล้องเทเลย์เพื่อตรวจสอบ พบว่าเวลาประมาณ 12.00 น.เห็นสิ่งของขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาจากน้ำ ห่างจากชายฝั่งประมาณ 300-400 เมตร ซึ่งจากการดูด้วยกล้องเทเลย์ ยืนยันได้ว่าสิ่งของดังกล่าวคือจระเข้ขนาดใหญ่ ซึ่งมีความยาวประมาณ 3 เมตร ซึ่งโผล่ขึ้นมาเพียงไม่กี่นาทีก็จมหายไป ทำให้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจระเข้ดังกล่าวเป็นจระเข้ชนิดไหนกันแน่ ระหว่างจระเข้น้ำจืด และจระเข้น้ำเค็ม เนื่องจากโผล่ขึ้นมาไม่นาน และจากการติดตามพบว่าจระเข้จะว่ายน้ำไปทางตอนเหนือของเกาะภูเก็ต ผ่านไปทางหาดไม้ขาว หาดทรายแก้ว แต่หลังในช่วงช่วงเย็นยังไม่มีใครพบเห็นจระเข้ตัวดังกล่าว
อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้แจ้งประสานไปยังโรงแรมในบริเวณใกล้เคียงแล้วให้เตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงเล่นน้ำในบริเวณชายหาดไม้ขาวในช่วงนี้ ซึ่งทางศูนย์ได้ประสานไปยังเครือข่ายให้เฝ้าติดตามตรวจสอบ หากพบเห็นขอให้แจ้งมายังศูนย์ฯที่หมายเลขโทรศัพท์ 076-348526 เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนว่าจระเข้ดังกล่าวเป็นจระเข้ชนิดไหนกันแน่
ซึ่งถ้าเป็นจระเข้น้ำจืดที่จะต้องรีบช่วยเหลือโดยเร็ว เพราะทะเลไม่ใช่ที่อาศัยของจระเข้น้ำจืด และเชื่อว่าถ้าเป็นจระเข้น้ำจืดคืนนี้เค้าจะต้องกลับขึ้นฝั่งแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจุดไหน จึงจำเป็นที่จะต้องมีการเฝ้าระวังและติดตาม ส่วนถ้าเป็นจระเข้น้ำเค็มในฝั่งอันดามันก็ยังเคยมีคนพบเห็นอยู่ แม้ว่าจะไม่บ่อยครั้งนัก เพราะส่วนใหญ่สัตว์พวกนี้จะไม่เข้ามาใกล้ที่คนอาศัย ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งประสานไปยังมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าสากลแห่งประเทศไทย เพื่อให้ช่วยตรวจสอบแล้ว
วันนี้ (3 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์นวัตกรรมอุทยานแห่งชาติและพื้นที่คุ้มครองทางทะเล จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งชาวประมงที่บริเวณหาดไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (3 พ.ย.) พบเห็นจระเข้ขนาดใหญ่ว่ายน้ำอยู่ในทะเลบริเวณหาดไม้ขาว ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านกำลังจะออกเรือไปทำการประมง ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้ง นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมอุทยานแห่งชาติและพื้นที่คุ้มครองทางทะเล จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ โดยพบว่าบริเวณชายหาดไม้ขาว ซึ่งอยู่ใกล้กับพรุเจ๊ะสัน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มีชาวบ้าน รวมทั้งอาสาสมัครจากมูลนิธิกุศลธรรมจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว กำลังเฝ้าสังเกตการณ์
นายปรารพ กล่าวว่าจากการเฝ้าสังเกตการณ์ และตั้งกล้องเทเลย์เพื่อตรวจสอบ พบว่าเวลาประมาณ 12.00 น.เห็นสิ่งของขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาจากน้ำ ห่างจากชายฝั่งประมาณ 300-400 เมตร ซึ่งจากการดูด้วยกล้องเทเลย์ ยืนยันได้ว่าสิ่งของดังกล่าวคือจระเข้ขนาดใหญ่ ซึ่งมีความยาวประมาณ 3 เมตร ซึ่งโผล่ขึ้นมาเพียงไม่กี่นาทีก็จมหายไป ทำให้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจระเข้ดังกล่าวเป็นจระเข้ชนิดไหนกันแน่ ระหว่างจระเข้น้ำจืด และจระเข้น้ำเค็ม เนื่องจากโผล่ขึ้นมาไม่นาน และจากการติดตามพบว่าจระเข้จะว่ายน้ำไปทางตอนเหนือของเกาะภูเก็ต ผ่านไปทางหาดไม้ขาว หาดทรายแก้ว แต่หลังในช่วงช่วงเย็นยังไม่มีใครพบเห็นจระเข้ตัวดังกล่าว
อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้แจ้งประสานไปยังโรงแรมในบริเวณใกล้เคียงแล้วให้เตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงเล่นน้ำในบริเวณชายหาดไม้ขาวในช่วงนี้ ซึ่งทางศูนย์ได้ประสานไปยังเครือข่ายให้เฝ้าติดตามตรวจสอบ หากพบเห็นขอให้แจ้งมายังศูนย์ฯที่หมายเลขโทรศัพท์ 076-348526 เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนว่าจระเข้ดังกล่าวเป็นจระเข้ชนิดไหนกันแน่
ซึ่งถ้าเป็นจระเข้น้ำจืดที่จะต้องรีบช่วยเหลือโดยเร็ว เพราะทะเลไม่ใช่ที่อาศัยของจระเข้น้ำจืด และเชื่อว่าถ้าเป็นจระเข้น้ำจืดคืนนี้เค้าจะต้องกลับขึ้นฝั่งแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจุดไหน จึงจำเป็นที่จะต้องมีการเฝ้าระวังและติดตาม ส่วนถ้าเป็นจระเข้น้ำเค็มในฝั่งอันดามันก็ยังเคยมีคนพบเห็นอยู่ แม้ว่าจะไม่บ่อยครั้งนัก เพราะส่วนใหญ่สัตว์พวกนี้จะไม่เข้ามาใกล้ที่คนอาศัย ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งประสานไปยังมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าสากลแห่งประเทศไทย เพื่อให้ช่วยตรวจสอบแล้ว
