นราธิวาส – เจ้าหน้าที่อีโอดี ของชุด นปพ.ภ.จ.นราธิวาส เตรียมถอดบทเรียนจากเหตุระเบิดที่คร่าชีวิตหมวดแชน และ จนท. อีก 2 นาย เพื่อปรับแผนการปฏิบัติงาน พร้อมยืนยันจะปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ตามปณิธานของหมวดแชน
วันนี้ (31 ต.ค.) จากเหตุลอบวางระเบิดที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จนทำให้ ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดชุดเหยี่ยวดง 60 หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันอีก 2 นาย คือ ร.ต.ต.จรูญ เมตเรือง และ จ.ส.ต.นิมิต ดีวงศ์ เสียชีวิต จำนวน 3 นาย เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุด แหล่งข่าวของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ระบุว่า หลังเสร็จสิ้นจากงานพระราชทานเพลิงศพหมวดแชน ผู้บังคับบัญชาจะเรียกประชุมเพื่อกำหนดทิศทางการปฏิบัติงาน รวมทั้งการสรุปเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อถอดเป็นบทเรียนสำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่ ส่วนการจะขออุปกรณ์ หรือยุทธภัณฑ์เพิ่มเติมในส่วนใดบ้างนั้น ต้องขอเวลาให้ชุดปฏิบัติงานรวบรวมข้อมูล และรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมของต้นสังกัดก่อน
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการปฏิบัติงานในพื้นที่ขณะนี้มีความเสี่ยงมากกว่าในอดีต เนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีการใช้วิธีการในการลอบวางระเบิดที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยในการวางระเบิดบางจุดอาจมีการจุดชนวนหลายระบบในระเบิด 1 ลูก ทั้งการจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร นาฬิกาปลุก และการปล่อยสัญญาณรบกวนเพื่อจุดชนวนระเบิด บ่อยครั้งที่มีการวางระเบิดอีกหลายลูกในจุดเดียวกัน ซึ่งทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเข้าเก็บกู้
ดังนั้น แนวทางเบื้องต้นจึงต้องป้องกัน และรักษาชีวิตเจ้าหน้าที่ให้ได้รับความปลอดภัยมากที่สุด โดยเมื่อได้รับการแจ้งเหตุจะไม่เข้าไปเก็บกู้เหมือนเช่นที่ผ่านมา แต่จะทำลายทันที ซึ่งแนวทางนี้อาจไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สามารถป้องกันความเสี่ยงได้มากกว่าการเข้าไปเก็บกู้ภายใต้เงื่อนไขของอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพมากเพียงพอที่จะเอื้อให้การปฏิบัติงานสำเร็จลุล่วงไปได้โดยปราศจากความผิดพลาด จนทำให้เกิดความสูญเสียขึ้น
ส่วนเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีต้องเสียชีวิตไปถึง 3 นายนั้น คนร้ายได้จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร และนาฬิกาปลุก ซึ่งการจุดชนวนจากการตั้งนาฬิกาปลุก คือ มูลเหตุที่คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่เพราะมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ และวิทยุสื่อสารทั้งหมดแล้ว
ถึงแม้จะมีความสูญเสียเกิดขึ้นในชุดอีโอดี สังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ไปถึง 3 นาย แต่ขณะนี้กำลังพลที่ปฏิบัติงานของทั้ง 2 ชุด รวมทั้งกำลังเสริมที่ตั้งอยู่อีก 1 ชุด ก็พร้อมเข้ามาเสริมการทำงานของกำลังพลหลักได้ทันที รวมทั้งในพื้นที่ จ.นราธิวาส นอกเหนือจากการทำงานของหน่วยแล้ว ยังมีชุดหลักจากหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 446 และ 447 ดูแลในพื้นที่อำเภอหลักๆ ของจ.นราธิวาส ที่พร้อมปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ด้วย
จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยังคงสานต่อปณิธานของหมวดแชน จะดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนอย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกัน ก็อยากเห็นความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวรวมทั้งสิ่งผิดปกติ หรือวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย เพื่อให้การทำงานของฝ่ายความมั่นคง และประชาชนเป็นไปแบบคู่ขนานเพื่อให้เกิดความสงบสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดต่อไป
วันนี้ (31 ต.ค.) จากเหตุลอบวางระเบิดที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จนทำให้ ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดชุดเหยี่ยวดง 60 หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันอีก 2 นาย คือ ร.ต.ต.จรูญ เมตเรือง และ จ.ส.ต.นิมิต ดีวงศ์ เสียชีวิต จำนวน 3 นาย เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุด แหล่งข่าวของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ระบุว่า หลังเสร็จสิ้นจากงานพระราชทานเพลิงศพหมวดแชน ผู้บังคับบัญชาจะเรียกประชุมเพื่อกำหนดทิศทางการปฏิบัติงาน รวมทั้งการสรุปเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อถอดเป็นบทเรียนสำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่ ส่วนการจะขออุปกรณ์ หรือยุทธภัณฑ์เพิ่มเติมในส่วนใดบ้างนั้น ต้องขอเวลาให้ชุดปฏิบัติงานรวบรวมข้อมูล และรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมของต้นสังกัดก่อน
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการปฏิบัติงานในพื้นที่ขณะนี้มีความเสี่ยงมากกว่าในอดีต เนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีการใช้วิธีการในการลอบวางระเบิดที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยในการวางระเบิดบางจุดอาจมีการจุดชนวนหลายระบบในระเบิด 1 ลูก ทั้งการจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร นาฬิกาปลุก และการปล่อยสัญญาณรบกวนเพื่อจุดชนวนระเบิด บ่อยครั้งที่มีการวางระเบิดอีกหลายลูกในจุดเดียวกัน ซึ่งทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเข้าเก็บกู้
ดังนั้น แนวทางเบื้องต้นจึงต้องป้องกัน และรักษาชีวิตเจ้าหน้าที่ให้ได้รับความปลอดภัยมากที่สุด โดยเมื่อได้รับการแจ้งเหตุจะไม่เข้าไปเก็บกู้เหมือนเช่นที่ผ่านมา แต่จะทำลายทันที ซึ่งแนวทางนี้อาจไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สามารถป้องกันความเสี่ยงได้มากกว่าการเข้าไปเก็บกู้ภายใต้เงื่อนไขของอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพมากเพียงพอที่จะเอื้อให้การปฏิบัติงานสำเร็จลุล่วงไปได้โดยปราศจากความผิดพลาด จนทำให้เกิดความสูญเสียขึ้น
ส่วนเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีต้องเสียชีวิตไปถึง 3 นายนั้น คนร้ายได้จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร และนาฬิกาปลุก ซึ่งการจุดชนวนจากการตั้งนาฬิกาปลุก คือ มูลเหตุที่คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่เพราะมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ และวิทยุสื่อสารทั้งหมดแล้ว
ถึงแม้จะมีความสูญเสียเกิดขึ้นในชุดอีโอดี สังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ไปถึง 3 นาย แต่ขณะนี้กำลังพลที่ปฏิบัติงานของทั้ง 2 ชุด รวมทั้งกำลังเสริมที่ตั้งอยู่อีก 1 ชุด ก็พร้อมเข้ามาเสริมการทำงานของกำลังพลหลักได้ทันที รวมทั้งในพื้นที่ จ.นราธิวาส นอกเหนือจากการทำงานของหน่วยแล้ว ยังมีชุดหลักจากหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 446 และ 447 ดูแลในพื้นที่อำเภอหลักๆ ของจ.นราธิวาส ที่พร้อมปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ด้วย
จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยังคงสานต่อปณิธานของหมวดแชน จะดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนอย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกัน ก็อยากเห็นความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวรวมทั้งสิ่งผิดปกติ หรือวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย เพื่อให้การทำงานของฝ่ายความมั่นคง และประชาชนเป็นไปแบบคู่ขนานเพื่อให้เกิดความสงบสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดต่อไป