xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ ภูเก็ตพร้อมหนุน รมว.ท่องเที่ยว-ดีเอสไอ แก้ปัญหาท่องเที่ยวเต็มกำลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต แจงพร้อมสนับสนุนการทำงานของ รมว.ท่องเที่ยว และดีเอสไอแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลแท็กซี่ป้ายดำ และปัญหาท่องเที่ยวอื่นๆ อย่างเต็มกำลังของหน่วยงานในระดับจังหวัด ด้วยการบูรณาการทุกหน่วยกับส่วนกลางเพื่อให้การแก้ปัญหาเกิดผลสำเร็จโดยเร็วที่สุด พร้อมเปิดเวทีท่องเที่ยว และ กรอ.ให้ภาคเอกชนนำปัญหามาหารือ และกำหนดแนวทางแก้ไขร่วมกัน
นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (22 ต.ค.) นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่ภาคเอกชนในภูเก็ตออกมาระบุว่า ทางจังหวัดภูเก็ตไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และดีเอสไอในการลงมาแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำและปัญหาอื่นๆ ของภูเก็ต ว่า ตนไม่เคยคัดค้านการลงมาทำงานของ รมว.ท่องเที่ยว และดีเอสไอในการแก้ปัญหาด้านการท่องเที่ยวของภูเก็ต มีแต่จะให้ความร่วมมือมาโดยตลอด มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ รมว.ท่องเที่ยว และดีเอสไอลงมาประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ แล้วตนไม่อยู่ เพราะติดภารกิจต้องไปประชุมเรื่องงบประมาณที่ส่วนกลาง ซึ่งผู้ว่าฯ จะต้องไปเองเท่านั้น และก่อนหน้าที่จะเดินทางไปประชุมงบประมาณนั้น ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในระดับจังหวัดภูเก็ต มาประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการให้ความร่วมมือ และสนับสนุนการทำงานของรมว.ท่องเที่ยว และดีเอสไอ หลังจากนั้นทุกครั้งที่ รมว.ท่องเที่ยว และผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงมาประชุมทำงานในพื้นที่ตนจะไปประชุมร่วมด้วยทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีรายงานความก้าวหน้าการทำงานทุกๆ 10 วัน ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดีเอสไอ ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม เป็นต้นมา เช่น 15 วันแรก มีการจับกุมแท็กซี่ป้ายดำ 434 คัน มีการตรวจปรับแท็กซี่ป้ายดำเข้าระบบอีก 100 กว่าคัน เป็นต้น

รวมทั้งให้ความร่วมมือในการปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว หรือ ศอปท.โดยเป็นคนวางผังความคิดในระดับจังหวัดเองในการจัดกำลังพล และเพิ่มผู้ที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดเข้าไปอีก 3-4 คน

“ผู้ว่าฯ ไม่ได้ซุกปัญหาไว้ใต้พรม อะไรที่เป็นปัญหาเรื่องการท่องเที่ยว ขอให้กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนเพื่อผู้ปฏิบัติจะได้ลงไปกวดขันปราบปรามได้ถูกต้อง เช่น แท็กซี่ป้ายดำตามคิวต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้เรามีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง และจังหวัดลงปฏบัติการทั้งหมด 6 ชุด ประกอบกับขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับมาทางผู้บังคับการตำรวจภูธรภูเก็ตเรื่องเกี่ยวกับแท็กซี่ป้ายดำที่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว และทางตนก็ได้ขอให้ทางตำรวจสายตรวจที่ออกไปตรวจตู้เอทีเอ็ม ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ ให้เพิ่มตรวจวินมอเตอร์ไชค์ แท็กซี่ และตุ๊กตุ๊กด้วย”

นายไมตรี กล่าวอีกว่า การลงมาปฏิบัติงานของทีม รมว.ท่องเที่ยว และดีเอสไอนั้น เป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ เพราะผู้ปฏิบัติงานระดับพื้นที่นั้น ทำงานเชิงประจำและทำตามกฎหมายอาญาทั่วไป แต่ทีมจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และทีมสอบสวนกลางมีกฎหมายพิเศษที่สามารถตรวจค้นได้ ซึ่งการที่ทีมจากส่วนกลางลงมาดำเนินการในพื้นที่นั้นทำให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดผลสำเร็จมากขึ้น เพราะมีกฎหมายหลายฉบับที่สามารถนำมาดำเนินการได้ ทั้ง สคบ. ดีเอสไอ ตม.ตำรวจท่องเที่ยว ฯลฯ

ในขณะที่จังหวัดเองก็ได้ดำเนินการให้ความรู้ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายของส่วนกลาง มีการอบรมให้ความรู้แก่กลุ่มแท็กซี่ กลุ่มเจ็ตสกี ไกด์ กลุ่มชาวต่างชาติ รัสเซีย เกาหลี จีน และสำนักงานกฎหมายและบัญชี เพื่อเติมเต็มการทำงานของส่วนกลาง และสร้างภาคีให้เกิดขึ้นในพื้นที่ มอบหมายให้ศูนย์ ศอปท.ประชุมติดตามการทำงานทุกๆ 2 สัปดาห์ โดยตนเป็นผู้กำกับดูแลและติดตามอย่างตลอด เพื่อให้การบูรณาการทุกหน่วยเกิดผลสำเร็จ และการสร้างความเข้มแข็งของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ และมีการบูรณาการการทำงานกันมากขึ้น เช่น ตำรวจ จะต้องทำงานร่วมกับฝ่ายปกครอง ขนส่ง ท่าอากาศมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาได้เป็นเปลาะๆ

ผู้ว่าฯ ภูเก็ต กล่าวอีกว่า ปัญหาด้านการท่องเที่ยวนั้นเกิดขึ้นอยู่เนื่องๆ แต่ถ้ามีการชี้เป้าหมายอย่างชัดเจนจะสามารถแก้ปัญหาได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น ซึ่งที่มีข่าวว่าผู้ว่าฯ ไม่จริงจัง และไม่จริงใจในการแก้ปัญหานั้นขอปฏิเสธเรื่องนี้ เพราะตนจริงจัง และจริงใจในการเข้ามาทำงานและแก้ปัญหาของภูเก็ต นอกจากนั้น เห็นว่าปัญหาทางการท่องเที่ยวเป็นปัญหาที่มีความหลากหลาย จึงได้เปิดเวทีสำหรับหารือพูดคุยเรื่องการท่องเที่ยวขึ้น 2 เวที คือ เวทีท่องเที่ยว และเวที กรอ.ซึ่งในวันที่ 24 ต.ค.นี้ จะมีการประชุมจะคุยกันเฉพาะเรื่องการเตรียมพร้อมในการรองรับการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซันที่จะถึงนี้ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“ผู้ว่าฯ พร้อมที่จะทำงานบูรณาการกับทุกหน่วย อย่างเรื่องของการท่องเที่ยวได้เปิดเวทีท่องเที่ยวขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้นำปัญหาต่างๆ มาหารือกัน ซึ่งที่ผ่านมา ภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวในภูเก็ตหลายๆ หน่วยงานก็ได้มาร่วมประชุมตลอด ส่วนองค์กรไหนไม่ได้มาร่วมก็ได้พยายามที่จะให้ฝ่ายเลขาฯ เชิญมาตลอด แต่เราก็เข้าใจว่าภาคเอกชนมีภารกิจมาก บางครั้งก็ไม่ค่อยว่าง ซึ่งการทำงานต่อไปนี้จะขับเคลื่อนการทำงานเป็นทีมงานทั้งภาครัฐ และเอกชนให้การทำงานร่วมกัน และที่ผ่านมา ตนจะลงพื้นที่ติดตามงานแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การแก้ปัญหาแต่ละปัญหาลุล่วงไปอย่างรวดเร็ว” ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในที่สุด
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น