xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอลุยปราบมาเฟียป้ายดำภูเก็ต เรียก 200 ราย สอบสาวถึงหัวหน้าคิว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.ต.อ.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ดีเอสไอเดินหน้าปราบมาเฟียแท็กซี่ป้ายดำภูเก็ต จับ ปรับ ข้อหาใช้รถผิดประเภทแล้วกว่า 500 ราย ที่สนามบินภูเก็ต เข้าข่ายต้องเรียกมาให้ปากคำ 200 ราย เพื่อโยงใยเอาผิดไปถึงหัวหน้าคิวเหมือนหน้าห้างเซ็นทรัล ที่พบมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องให้การช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังด้วย เผยหากไม่ให้ความร่วมมือส่งหมายเรียกถึงบ้านแน่

พ.ต.อ.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการต่อผู้ประกอบการแท็กซี่ป้ายดำ ที่ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ข่มขู่นักท่องเที่ยวตามหน้าโรงแรม และสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ว่า ภายหลังจากที่ ดีเอสไอได้ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และขนส่งจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การดำเนินการของศูนย์ปฏิบัติการปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยต่อการท่องเที่ยว (ศปอท.) นั้น ได้ดำเนินการจับกุมรถแท็กซี่ป้ายดำที่ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ที่นำผู้โดยสารมาส่งที่บริเวณชั้น 2 สนามบินภูเก็ต ขณะนี้ได้จับกุม และปรับในข้อหาใช้รถผิดประเภท ตามกฎหมายของกรมขนส่งทางบกไปแล้ว 517 คัน

ซึ่งในจำนวนนี้เข้าข่ายที่ทางดีเอสไอต้องเรียกมาสอบปากคำ จำนวน 200 ราย เพื่อเชื่อมต่อไปยังหัวหน้าคิวตัวจริงของแต่ละคิวว่าเป็นใครบ้าง เพื่อดำเนินการเป็นคิวที่ 2 หรือ 3 เหมือนกับที่ได้จับกุมดำเนินคดีในข้อหากรรโชกทรัพย์นักท่องเที่ยวต่อหัวหน้าคิวที่หน้าศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ คือ นายป้อม และนายเสริม สุขเกษม ที่ขณะนี้ได้รับการประกันตัวไปแล้ว

“ในส่วนของคิวหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยมีพฤติกรรมให้การช่วยเหลือหัวหน้าคิวดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะได้ประสานกับหน่วยงานต้นสังกัดในการดำเนินการสอบสวนทางวินัย และย้ายออกนอกพื้นที่ต่อไป” พ.ต.อ.สมบูรณ์ กล่าวและว่า

โดยขณะนี้ ทางดีเอสไอได้เรียกผู้ประกอบการแท็กซี่ป้ายดำที่ถูกจับกุมบางส่วนไปสอบปากคำแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะไม่ซัดทอดไปถึงหัวหน้าคิว และไม่มาตามที่ได้เรียกไป ซึ่งในจุดนี้หากยังไม่ให้ความร่วมมือ ทางดีเอสไอจะดำเนินการในลักษณะของการส่งเป็นหมายเรียกมาให้ปากคำ โดยให้สถานีตำรวจแต่ละแห่งเป็นผู้ดำเนินการ
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น