เอกชนผนึกกำลังหนุน รมว.ท่องเที่ยว-ดีเอสไอสางปัญหาเน่าภูเก็ต หมดหวังกับจังหวัด

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ต แสดงพลังออกมาสนับสนุน และให้กำลังใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และดีเอสไอ เดินหน้าแก้ปัญหาเรื้อรังของภูเก็ต แม้จะขัดแย้งกับทางจังหวัดภูเก็ตบ้างก็ตาม เผยปัญหาภูเก็ตแก้ไม่ได้เพราะผู้บริหารในระดับจังหวัดขาดความจริงจัง และจริงใจในการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (21 ต.ค.) ที่สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วย นายพงศ์อนันต์ สุวรรณาคาร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายสุชาติ หิรัญกนกกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ นางสิริกร บุญญสิริ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยวภาคใต้ตอนบน นายกฤษฎา ตันสกุล ที่ปรึกษาสมาคมท่องเที่ยวหาดป่าตอง นายสมบูรณ์ จิรายุส ที่ปรึกษา และอดีตนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นางรัตนดา ชูบาล ที่ปรึกษาสมาคมสปาภูเก็ต สมาชิกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต และภาคเอกชน ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนการลงมาแก้ปัญหาด้านการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตของ นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา และ น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

นายพงษ์อนันต์ สุวรรณาคาร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ทุกองค์กรต้องขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อธิบดีดีเอสไอ และรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตทั้ง 2 ท่าน ที่ให้ความสำคัญต่อจังหวัดภูเก็ต ลงมาแก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตด้วยตัวเองหลายครั้งหลังจากได้รับตำแหน่ง จากที่รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวฯ คนก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจที่จะลงมาพื้นที่ภูเก็ตเลย ทั้งนี้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวในภูเก็ตได้รับการร้องเรียนทั้งในระดับจังหวัด ระดับกระทรวง ในระดับทูตานุทูตของยุโรป ทางรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ และดีเอสไอจึงต้องลงมาจัดการแก้ปัญหาเอง และทางผู้ประกอบการขอสนับสนุนให้รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ และดีเอสไอเดินหน้าในการแก้ปัญหาท่องเที่ยวของภูเก็ตต่อไป เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตในระยะยาว

เพราะทางผู้ประกอบการมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในภูเก็ตเป็นปัญหารื้อรัง ระดับจังหวัดไม่สามารถที่จะจัดการได้ทั้งระบบ และแบบเบ็ดเสร็จ และที่ทางผู้ประกอบการออกมาสนับสนุนการทำงานแก้ปัญหาภูเก็ตของรัฐมนตรีท่องเที่ยว และดีเอสไอในครั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าจังหวัดยังทำงานขัดแย้งกันอยู่กับ รมว.การท่องเที่ยวฯ และดีเอสไอ และยังไม่ได้รับความร่วมมือบางส่วนจากทางจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ อาจจะเนื่องจากทางจังหวัดภูเก็ตไม่ได้ขึ้นตรงกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จึงทำให้การทำงานแก้ปัญหาไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร ในส่วนของเอกชนนั้นไม่สามารถที่จะก้าวล่วงการทำงานของทางจังหวัดภูเก็ตได้ ทำให้เพียงการให้กำลังใจ รมว.การท่องเที่ยวฯ และดีเอสไอเท่านั้น

“จังหวัดอาจจะไม่ต้องการให้มีข่าวเสื่อมเสียเกิดขึ้นต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต แต่จังหวัดจะต้องยอมรับปัญหาบางประการที่เกิดขึ้นจริง และยอมรับในข้อเท็จจริง น่าที่จะทำงานแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย จังหวัดมักจะพูดว่าไม่มีปัญหา แต่ภาคเอกชนที่ออกไปทำโรดโชว์เราได้รับทราบปัญหาจากเอเยนต์ทัวร์มากมาย รวมไปถึงการร้องเรียนของทูตจากประเทศต่างๆ แล้วจะพูดว่าไม่มีปัญหาเกิดขึ้นได้อย่างไร”

นายกสมาคมธรุกิจการท่องเที่ยว กล่าวต่อว่า ทางผู้ประกอบการท่องเที่ยว ต้องการที่จะให้ปัญหาของภูเก็ตหมดไป ไม่เฉพาะปัญหาแท็กซี่ป้ายดำเท่านั้น แต่เป็นการแก้ปัญหาทั้งระบบ เพื่อให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยสำหรับท่องเที่ยวจากทั่วโลก ดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพกลับคืนมา จะเห็นว่าปัจจุบัน ภูเก็ตได้นักท่องเที่ยวกลุ่มที่ไม่ค่อยมีคุณภาพมากนัก มากันเป็นรถบัสแต่รายได้ที่เกิดขึ้นเท่ากับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเมื่อก่อน 2-3 คนเท่านั้น นักท่องเที่ยวคุณภาพดีๆ หนีภูเก็ตไปท่องเที่ยวที่อื่นๆ ที่สงบกว่าแทน เช่น เขาหลัก และกระบี่ ทำให้การท่องเที่ยวทั้ง 2 แห่งเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราที่สูง อย่างไรก็ตาม ภูเก็ตยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์เหมือนเดิม เพียงแต่จะต้องจัดการปัญหาต่างๆ ให้หมดไป หรือไม่ก็ลดน้อยลง

ด้านนายสุชาติ หิรัญกนกกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงแรมในภูเก็ตสนับสนุนการลงมาแก้ปัญหาของภูเก็ตอย่างเป็นระบบ ทั้งปัญหาแท็กซี่ป้ายดำ และปัญหาอื่นๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวภูเก็ต และปัญหาที่ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ต และต้องการให้ดำเนินอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง

นางสิริกร บุญญสิริ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยวภาคใต้ตอนบน กล่าวว่า ตนทำธุรกิจทัวร์อยู่ที่ป่าตอง มองเห็นความไม่เป็นระเบียบในหลายๆ เรื่อง มีความยินดีมากที่ดีเอสไอลงมาจัดการกับปัญหาต่างๆ และขอสนับสนุนการทำงานของดีเอสไออย่างเต็มที่ จึงเห็นด้วยเป็นอย่างมากที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตออกมาผลักดัน และให้กำลังใจการทำงานของ รมว.การท่องเที่ยวฯ และดีเอสไอ

ขณะที่นายกฤษฎา ตันสกุล ที่ปรึกษาชมรมท่องเที่ยวหาดป่าตอง กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากที่หน่วยงานจากส่วนกลางลงมาแก้ปัญหาของภูเก็ต ภูเก็ตมีปัญหามากมายเกิดขึ้นจากจำนวนท่องเที่ยว และคนที่เข้ามาทำมาหากิน และนับวันปัญหาต่างๆ จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นโดยที่ไม่ได้รับการแก้ไขเลย จึงขอสนับสนุนการทำงานของ รมว.การท่องเที่ยวฯ และดีเอสไอ

“อยากจะฝากถึงดีเอสไอ อย่าทำงานแบบไฟไหม้ฟาง ต้องทำอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง เพราะปัญหาของภูเก็ตไม่ได้มีเฉพาะรถแท็กซี่ป้ายดำ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเท่านั้น ภูเก็ตยังมีปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทางภาคเอกชนจะติดตามการทำงานของดีเอสไออย่างต่อเนื่อง พร้อมไปกับการให้ความร่วมมือกับดีเอสไอ และในส่วนของจังหวัดภูเก็ตควรที่จะทำงานแบบคู่ขนานกับดีเอสไอ และรมว.การท่องเที่ยวฯ เช่น เรื่องของแท็กซี่ป้ายดำนั้น ที่จะต้องแก้ด้วยระบบขนส่งมวลชนให้สามารถวิ่งรับผู้โดยสารได้เต็มที่ ไม่ได้วิ่งได้เพียงบางส่วนเหมือนที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน” นายกฤษฎา กล่าวในที่สุด

ด้านนายสมบูรณ์ จิรายุส ที่ปรึกษา และอดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำงานด้านการท่องเที่ยวกับสมาคมฯ เพิ่งจะเห็น รมว.การท่องเที่ยวฯ คนนี้ที่จริงจังในการทำงาน เช่น การผลักดันให้มีศาลแผนกท่องเที่ยว ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเรื่องของความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญมากในการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยว การที่ รมว.การท่องเที่ยวฯ มีนโยบายปรับปรุง และพัฒนาจังหวัดภูเก็ตให้มีความปลอดภัยในระดับสากล ในนามของเอกชนพร้อมให้การสนับสนุน รมว.การท่องเที่ยวฯ และดีเอสไออย่างเต็มที่ เพราะปัญหาทั้งหมดทางจังหวัดไม่สามารถที่จะทำได้อย่างเต็มที่จากข้อจำกัดในหลายๆ เรื่อง ส่วนกลางลงมาแก้ปัญหาเองจะทำให้บรรลุผลมากขึ้น เอกชนไปทำโรดโชว์ส่งเสริมการขายในประเทศต่างๆ ได้รับทราบปัญหาจากเอเยนต์มากมาย จึงทำให้ช่วงหลังๆ มานี้ นักท่องเที่ยวคุณภาพที่มาภูเก็ตถดถอยลงไปมาก จากที่ภูเก็ตไม่มีความเป็นระเบียบ มีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย นักท่องเที่ยวคุณภาพหนีไปที่อื่นแทน โดยเฉพาะพังงา กระบี่ มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จากที่เงียบสงบ มีความเป็นระเบียบ ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง แต่ภูเก็ตก็ยังไม่หมดเสน่ห์เพียงแค่ขาดความเป็นระเบียบเท่านั้นเอง ซึ่งก็ไม่สายเกินไปที่ทุกฝ่ายจะช่วยกันสร้างการยอมรับให้ภูเก็ตเป็นเดสติเนชันแห่งความปลอดภัย

นางรัตนดา ชูบาล ที่ปรึกษาสมาคมสปาภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำรายได้อันดับ 1 ในฝั่งอันดามัน การที่ภูเก็ตมีปัญหาการท่องเที่ยวด้านใดก็ตาม อยากจะให้ปัญหานั้นได้รับการแก้ไขเพื่อให้ภูเก็ตเป็นเกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยว การที่ รมว.การท่องเที่ยวฯ เข้ามาแก้ปัญหาเรื่องแท็กซี่ป้ายดำ แก้ปัญหานักท่องเที่ยวถูกเอารัดเอาเปรียบ นักท่องเที่ยวถูกทำร้าย เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ทางสมาคมสปาฯ จึงขอสนับสนุนการทำงานของ รมว.การท่องเที่ยวฯ และดีเอสไออย่างเต็มที่

นายภูริต มาศวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวของภูเก็ตจนรื้อรังไม่สามารถแก้ไขได้ในระดับจังหวัด เป็นเพราะผู้บริหารในระดับจังหวัดมองข้ามปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่แก้ไข ซุกปัญหาไว้ให้รื้อรังจนแก้ไม่ได้ ไม่จริงจังและไม่จริงใจในการเข้ามาทำงานแก้ปัญหาให้แก่ภูเก็ต ภูเก็ตจึงเปรียบเหมือนท่าเรือที่เรือลำต่างๆ มาเทียบท่าแล้วเติมอาหาร เติมน้ำมัน จนพอใจก็ออกจากท่าไป เรือลำต่อไปก็เข้ามาในลักษณะแบบนี้อีก ปัญหาจึงไม่ได้รับการแก้ไขในระดับจังหวัด จะต้องให้หน่วยงานจากส่วนกลางเข้ามาแก้ปัญหาแทนถึงจะดำเนินการได้จากสภาพปัญหาที่เป็นอยู่ในขณะนี้