ภูเก็ตแก้ที่จอดรถคอนโดฯ ไม่พอ ให้ท้องถิ่นออกข้อบัญญัติคุมเร็วๆ นี้

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ธุรกิจคอนโดฯ ภูเก็ตโตก้าวกระโดด ผุดทุกมุมเมือง แต่ที่จอดรถไม่พอต้องจอดริมถนน สร้างปัญหาให้ผู้ใช้รถใช้ถนน จังหวัดหาทางออกให้ท้องถิ่นออกเทศบัญญัติ หรือข้อบัญญัติ ต้องมีที่จอดรถเพียงพอ 2 ห้อง ต่อ 1 คัน มอบกรมโยธาฯ ยกร่าง เหมือนกับ กทม. คาดบังคับใช้เร็วๆ นี้ ด้านสมาคมอสังหาฯ ขอเลื่อนบังคับใช้ไปอีกปี ให้ผู้ประกอบการได้ปรับตัว

นายมนต์ทวี หงษ์หยก อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เปิดเผยถึงการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ว่า เติบโตสอดคล้องกับธุรกิจท่องเที่ยว โดยมีนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ทั้งอังกฤษ สิงคโปร์ ฮ่องกง สแกนดิเนเวีย เยอรมนี ทำให้ตลาดเติบโตต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว การลงทุนอสังหาริมทรัพย์จากนักลงทุนต่างชาติที่เจาะตลาดระดับบนได้ชะลอตามไปด้วย จากกำลังซื้อของลูกค้ากลุ่มต่างชาติระดับบนที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าตลาดระดับบนจะชะลอตัวลง แต่ธุรกิจอสังหาฯ ภูเก็ต ก็ได้ตลาดคนไทยเข้ามาแทนที่ และยังเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ที่ราคาไม่สูงมาก ยังได้รับการตอบรับที่ดีมาก เช่น ในพื้นที่กะทู้ เป็นต้น ส่วนบ้านแฝดก็ยังทำตลาดได้ แต่บ้านเดี่ยวที่ราคา 5-15 ล้านบาท ชะลอตัวไปบ้างจากราคาที่สูง จากที่ดินที่มีราคาสูง ส่วนอาคารพาณิชย์นั้นจำนวนยูนิตลดลง แต่ตามถนนสายหลักๆ ก็ยังมีการเปิดขายอยู่

คอนโดฯ โตแบบก้าวกระโดด

ส่วนตลาดที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัดที่สุดในภูเก็ตขณะนี้ คือ ตลาดคอนโดมีเนียม ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะราคา 1-2 ล้านบาท หรือ ตร.ม.ละ 60,000-89,000 บาท เป็นตลาดที่ขายดี เติบโตรวดเร็ว บางพื้นที่มีความต้องการซื้อสูง มีบริษัทจากกรุงเทพฯ เข้ามาพัฒนาโครงการในจังหวัดภูเก็ตหลายราย เช่น แสนสิริ ที่ขึ้นคอนโดมิเนียมถึง 14 โครงการ ศุภาลัย 6 โครงการ เป็นต้น

ปัญหาที่จอดรถไม่พอ ต้องจอดริมถนน

ด้านนายสัจพล ทองสม อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่า คอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นจำนวนมากในภูเก็ตขณะนี้มีปัญหาเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอ ทำให้ผู้อาศัยในบางโครงการต้องจอดรถริมถนน ทำให้เกิดปัญหาการจราจร และอุบัติเหตุ ทางจังหวัดภูเก็ต จึงมีแนวคิดที่จะให้ท้องถิ่นต่างๆ ออกเป็นข้อบัญญัติในการกำหนดให้โครงการคอนโดมิเนียม และอาคารชุดขนาดใหญ่ที่เป็นที่อยู่อาศัย เพิ่มพื้นที่เพื่อการจอดรถให้มากขึ้น และสมดุลกับจำนวนห้องพัก เพราะกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในขณะนี้พื้นที่ 240 ตร.ม.ต่อที่จอดรถ 1 คันนั้น ไม่เพียงพอต่อจำนวนรถยนต์ที่มีภายในโครงการ

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ทางจังหวัดภูเก็ตได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยที่ประชุมได้กำหนดให้พื้นที่ 120 ตร.ม.ต่อที่จอดรถ 2 คัน หรือ 2 ห้องต่อที่จอดรถ 1 คัน เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค และแก้ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอต่อผู้พักอาศัย ซึ่งเรื่องนี้ทางสมาคมอสังหาฯ ภูเก็ต เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาดังกล่าว และมองว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ลงทุนในธุรกิจคอนโดมิเนียมบ้าง ที่จะทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น เมื่อต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นก็จะส่งผลต่อราคาขายสูงด้วย จึงอยากจะให้ขยายการบังคับใช้ข้อบังคับดังกล่าวต่อไป 1 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เตรียมตัว และจะต้องไม่มีผลบังคับใช้ย้อนหลังต่อโครงการที่ได้ลงทุนไปแล้ว

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอสังหาฯ ในภูเก็ต ยังประสบปัญหาเรื่องการพิจารณาการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ที่ล่าช้ามาก ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถที่จะเดินหน้าโครงการได้ จะต้องรอให้ทางสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) เห็นชอบในรายงาน EIA ก่อน ซึ่งล่าช้ามากๆ ทั้งนี้ เพราะการพิจารณา EIA ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ สผ.ในส่วนกลาง ทางผู้ประกอบการจึงอยากจะให้ทางจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานรับผิดชอบ หารือกับทาง สผ. มอบอำนาจให้ทางจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้พิจารณา EIA เอง ซึ่งทางผู้ประกอบการคิดว่าน่าจะรวดเร็วขึ้น และเห็นว่าคนภูเก็ตย่อมที่จะเข้าใจสภาพปัญหาของภูเก็ตมากที่สุด

ยกร่างให้ อปท.บังคับใช้ 2 ห้องต่อที่จอดรถ 1 คัน

ขณะที่นายวงศกร นุ่มชูคันธ์ โยธาธิการและผังเมืองภูเก็ต กล่าวว่า การกำหนดพื้นที่จอดรถของคอนโดมิเนียม และอาคารที่พักอาศัยขนาดใหญ่นั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ตได้หารือกันเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบที่จะให้ท้องถิ่นออกเป็นข้อบัญญัติกำหนดให้คอนโดมิเนียมเว้นพื้นที่เพื่อการจอดรถยนต์ให้มากขึ้นจากปัจจุบัน โดยกำหนดพื้นที่จอดรถ 2 ห้องต่อที่จอดรถ 1 คัน หรือพื้นที่ 120 ตร.ม.ต่อที่จอดรถ 1 คัน ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ทางกรุงเทพมหานครบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน ทางจังหวัดภูเก็ตจึงได้หยิบเอามาตรการดังกล่าวมาบังคับใช้ เพื่อแก้ปัญหาที่จอดรถของคอนโดมิเนียมไม่เพียงพอ ผู้พักอาศัยต้องนำรถยนต์มาจอดข้างถนน หรือทางเท้าทำให้การจราจรติดขัด สร้างปัญหาให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน เพราะสภาพถนนในภูเก็ตคับแคบ และแออัดอยู่แล้ว

ขณะนี้ทางโยธาธิการและผังเมืองภูเก็ต ได้มอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญของกรมโยธาฯไปยกร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น เมื่อยกร่างแล้วเสร็จทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องนำเสนอขอความเห็นชอบจากสภาท้องถิ่นนั้นๆ เพื่อออกเป็นข้อบัญญัติ หรือเทศบัญญัติ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ต่อไป ซึ่งคาดว่าร่างดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้