ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ” ที่ปรึกษา สบ 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ภูเก็ต ติดตามผลระดมกวาดล้างอาชญากรรมเมืองภูเก็ต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว เผยผลดำเนินการในห้วง 40 วันที่ผ่านมา เป็นที่พอใจ คดีต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นซ้ำซากลดลง
เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (26 ก.ย.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา สบ 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ/ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ เป็นประธานแถลงข่าวในโอกาสเดินทางมาติดตามผลระดมกวาดล้างอาชญากรรมในเมืองท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต ในห้วงระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม-25 กันยายน 2556 เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่มักเกิดขึ้นในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญตามจังหวัดที่มียุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก มี พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ ประธานอนุกรรมาธิการการศึกษา เรื่องการร้องทุกข์ด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนคณะอนุกรรมาธิการฯ พล.ต.ต.วิศณุ ม่วงแพรศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พ.ต.อ.พีระยุทธ์ การะเจดีย์ และพ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รวมถึงผู้กำกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง ในทุกสถานีฯ ร่วมแถลง
โดยผลการดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในห้วงดังกล่าว ซึ่งมีหน่วยงานร่วมปฏิบัติในพื้นที่ ประกอบด้วย กก.ตชด.42, กก.8 บก.รน., กก.2 บก.ปส.4 บช.ปส.4 บช.ปส., ตม.จว.ภูเก็ต, ตม.ทอ.ภูเก็ต, ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล., กก.5 บก.ทท. รวม 7 หน่วย พร้อมทั้งอาสาสมัครต่างๆ นั้น ได้มีการดำเนินการตรวจสอบประวัติ และพฤติการณ์แวดล้อมเกี่ยวกับชาวต่างชาติ ซึ่งมีการตอบสอบหนังสือเดินทางนักท่องเที่ยว จำนวน 1,509 ราย ส่วนใหญ่ถูกต้องตามกฎหมาย ตรวจสอบโรงแรมเกสต์เฮาส์ บ้านเช่า 306 แห่ง มีการดำเนินการต่อเจ้าบ้าน หรือผู้จัดการโรงแรมซึ่งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยแล้วไม่แจ้งเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชม.นับแต่เวลาคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย จำนวน 35 ราย และมีการจับกุมความผิดเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 135 ราย ผู้ต้องหา 137 คน
ขณะที่การดำเนินงานเกี่ยวกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพล จำหน่ายสินค้า และบริการโดยมีพฤติกรรมหลอกลวง เอารัดเอาเปรียบ ข่มขู่ ทำร้ายนักท่องเที่ยว มีการดำเนินการจับกุมความผิดเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์/ทรัพย์สินทางปัญญา 123 ราย ผู้ต้องหา 123 คน จับกุมรถรับจ้างผิดกฎหมาย 742 ราย ผู้ต้องหา 742 คน
การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด มีการดำเนินการ จำนวน 1,086 จุด จับกุมที่จุดตรวจ จุดสกัด จำนวน 2,732 ราย ผู้ต้องหา 2,733 คน แบ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร 1,028 ราย ผู้ต้องหา 1,028 คน พ.ร.บ.รถยนต์ 1,612 ราย ผู้ต้องหา 1,612 คน ขับรถขณะเมาสุรา 27 ราย ผู้ต้องหา 27 คน ยาเสพติด 15 ราย ผู้ต้องหา 16 คน อาวุธมีด 41 ราย ผู้ต้องหา 41 คน อาวุธปืน 5 ราย ผู้ต้องหา 5 คน
การปิดล้อมตรวจค้น มีการดำเนินการ 281 จุด มีผลการจับกุม 90 ราย/ผู้ต้องหา 91 คน แบ่งเป็นยาเสพติด 32 ราย ผู้ต้องหา 33 คน พ.ร.บ.อาวุธปืน 2 ราย ผู้ต้องหา 2 คน แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 10 ราย ผู้ต้องหา 10 คน พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว 34 ราย ผู้ต้องหา 34 คน
การตรวจสอบสถานที่ล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรม เช่น สถานบริการ ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต ร้านคาราโอเกะ ร้านข้าวต้มโต้รุ่ง สวนสาธารณะ แหล่งอบายมุข แหล่งมั่วสุม มีการดำเนินการตรวจสอบ 5,602 แห่ง จำนวน 4,928 ครั้ง
การตรวจยึดรถต้องสงสัย มีการดำเนินการ รวม 351 คัน แบ่งเป็นตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 349 คัน ตรวจยึดรถยนต์ 2 คัน การจัดทำประวัติกลุ่มเสี่ยง บุคคลพ้นโทษ บุคคลที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว มีการดำเนินการจัดทำประวัติ 2,984 ราย แบ่งเป็น กลุ่มเสี่ยง 2,254 ราย บุคคลพ้นโทษ 478 ราย บุคคลที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 173 ราย เกี่ยวข้องกับเงินกู้นอกระบบ 79 ราย
นอกจากนี้ ยังมีผลการจับกุมคดีต่างๆ จำนวน 2,014 ราย ผู้ต้องหา 2,142 คน ที่สำคัญ เช่น จับกุมคดีค้างเก่า 51 ราย ผู้ต้องหา 51 คน อาวุธปืน/เครื่องกระสุนปืน 44 ราย ผู้ต้องหา 45 คน ยาเสพติด 372 ราย ผู้ต้องหา 411 คน ละเมิดลิขสิทธิ์/เครื่องหมายการค้า 123 ราย ผู้ต้องหา 123 คน รถรับจ้างผิดกฎหมาย 742 ราย ผู้ต้องหา 742 คน มัคคุเทศก์ผิดกฎหมาย 27 ราย ผู้ต้องหา 27 คน ติดต่อชักชวนแนะนำตัวเพื่อการค้าประเวณี 293 ราย ผู้ต้องหา 293 คน หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 177 ราย ผู้ต้องหา 177 คน ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 48 ราย ผู้ต้องหา 48 คน และอยู่เกินกำหนด 276 ราย ผู้ต้องหา 276 คน
พล.ต.อ.วุฒิ กล่าวว่า จากผลการดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในประเด็นต่างๆ ดังกล่าว ในห้วง 40 วัน พบว่า มีผลกระจ่างชัดในการดำเนินการ ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซากลดน้อยลง โดยเฉพาะคดีที่เคยเกิดขึ้นต่อนักท่องเที่ยว เช่น คดีฆ่า ข่มขืน เป็นต้น พบว่า ในห้วงเวลาดังกล่าวไม่มีคดีรุนแรงเหล่านี้เกิดขึ้นต่อนักท่องเที่ยวเลย ซึ่งนักท่องเที่ยวก็มีความพอใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของต่างด้าวที่อยู่เกินกำหนด ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจับกุมอย่างจริงจัง เพราะกลุ่มคนเหล่านี้เมื่ออยู่ไปนานๆ จะเกิดปัญหาตามมา ขณะที่ในเรื่องของการปราบปรามผู้มีอิทธิพลก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย