ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ” ที่ปรึกษา (มค 3) ลงพื้นที่ภูเก็ต ติดตามผลการจับกุมคดีต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ตามแผนการระดมกวาดล้างระยะเร่งด่วน เผยผลการจับกุมเป็นที่พอใจ พร้อมเร่งรัดผลการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองสวรรค์ รองรับเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (21 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (มค 3) เป็นประธานแถลงข่าวผลการจับกุมคดีต่างๆ ของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และหน่วยปฏิบัติการร่วมในพื้นที่ ประกอบด้วย กก.ตชด.42, กก.8 บก.รน., กก.2 บก.ปส.4 บช.ปส., ตม.จว.ภูเก็ต, ตม.ทอ.ภูเก็ต, ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล., กก.5 บก.ทท. รวม 7 หน่วย ตามแผนการระดมกวาดล้างระยะเร่งด่วน ตั้งแต่วันที่ 16-31 สิงหาคม 2556 และระยะต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายน 2556 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ โดยมีรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ผู้กำกับฯ จากทุกสถานี ผู้กำกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว และข้าราชการทุกหน่วยในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลง ซึ่งมีการนำผู้ต้องหา พร้อมของกลางในคดีต่างๆ จำนวนมากที่กวาดล้างจับกุมได้ในช่วงวันที่ 16-20 สิงหาคม ที่ผ่านมามาร่วมแถลงด้วย
สำหรับผลการปฏิบัติงานดังกล่าว มีการดำเนินการตรวจสอบหนังสือเดินทางนักท่องเที่ยว จำนวน 1,289 ราย ส่วนใหญ่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีการดำเนินการจับกุมความผิดเกี่ยวกับการเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 77 ราย ได้ผู้ต้องหา 77 คน ชาวต่างชาติประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต 15 ราย ผู้ต้องหา 17 คน แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 26 ราย ผู้ต้องหา 26 คน
ส่วนผลการดำเนินการเกี่ยวกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพล จำหน่ายสินค้า และบริการโดยมีพฤติกรรมหลอกลวง เอารัดเอาเปรียบ ข่มขู่ ทำร้ายนักท่องเที่ยว ผลการดำเนินการจับกุมความผิดเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 28 ราย ผู้ต้องหา 28 คน การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด มีการดำเนินการ จำนวน 102 จุด มีผลการจับกุมที่จุดตรวจจุดสกัด จำนวน 111 ราย ผู้ต้องหา 111 คน ผลการปิดล้อมตรวจค้น มีการดำเนินการ 20 จุด มีผลการจับกุม 29 ราย ผู้ต้องหา 29 คน ผลงานการตรวจสอบสถานบริการ แหล่งมั่วสุม และสถานที่ล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรม เช่น ร้านคาราโอเกะ ร้านเกม สวนสาธารณะ มีการดำเนินการ 467 แห่ง จำนวน 489 ครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการตรวจยึดรถต้องสงสัย มีการดำเนินการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ จำนวน 14 คัน การจัดทำประวัติกลุ่มเสี่ยง มีการดำเนินการจัดทำ 332 ราย
ขณะที่ผลการจับกุมคดีต่างๆ มีการจับกุม 284 ราย ผู้ต้องหา 295 คน เช่น การจับกุมตามหมายจับคดีค้างเก่า 7 ราย ผู้ต้องหา 7 คน อาวุธปืน/เครื่องกระสุนปืน จับกุม 14 ราย ผู้ต้องหา 15 คน ยาเสพติด จับกุม 39 ราย ผู้ต้องหา 41 คน ละเมิดลิขสิทธิ์/เครื่องหมายการค้า จับกุม 28 ราย ผู้ต้องหา 28 คน รถรับจ้างผิดกฎหมาย 83 ราย ผู้ต้องหา 83 ราย ติดต่อชักชวนแนะนำตัวเพื่อการค้าประเวณี 44 ราย ผู้ต้องหา 44 คน เป็นต้น
พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (มค 3) กล่าวว่า สำหรับผลการจับกุมคดีต่างๆ ของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และหน่วยปฏิบัติการร่วมในพื้นที่ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ มีการจับกุมผู้กระทำความผิดหลายข้อหา ซึ่งแต่ละข้อหาล้วนแล้วกระทบต่อภาพลักษณ์ และการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทั้งสิ้น เช่น ข้อหาหมายจับค้างเก่า ก็สามารถจับกุมได้ถึง 7 หมาย และใน 7 หมายมีข้อหาที่หนักพอสมควร คือ ข้อหาฆ่าคน แล้วก็ยังมีชาวต่างชาติที่ตกเป็นผู้ต้องหาด้วย นอกจากนั้นยังมีความผิดทางอาญาอื่น เช่น พ.ร.บ.อาวุธปืน แหล่งท่องเที่ยวเราจะให้มีอาวุธปืน เป็นปืนเถื่อน ปืนร้ายแรงที่ไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ท่องเที่ยวคงไม่ได้ และนอกจากนั้น ยังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ก็สามารถดำเนินการจับกุมได้ และการจับกุมยาเสพติดแต่ละครั้งก็จะมีในเรื่องของอาวุธปืนแถมมาด้วย ตรงนี้เป็นสิ่งที่อันตรายต่อประชาชนคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็ต้องดำเนินการจับกุมอย่างจริงจัง
นอกจากนั้น เป็นความผิดที่เราเห็นกันเป็นประจำ และยังมีความผิดอื่นๆ อีก ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของภูเก็ต เช่น ความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค การละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นต้น ซึ่งโดยภาพรวมแล้วผลการจับกุมคดีต่างๆ ตามแผนระดมกวาดล้างในระยะเร่งด่วนที่ผ่านมาน่าพอใจ การกระทำความผิดวันนี้ถือว่าเราดำเนินการทุกข้อหา แม้กระทั่งข้อหาเล็กๆ น้อยๆ ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ก็สามารถจับกุมไกด์ที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งผู้ที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เราก็ดำเนินการจับกุม เพราะฉะนั้นโดยภาพรวมต้องถือว่าเป็นความสำเร็จร่วมกันของตำรวจ
พล.ต.อ.วุฒิ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้ติดตาม ตรวจสอบ เร่งรัดผลการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ตามแผนระดมกวาดล้างไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2556 เพื่อจะทำให้ภูเก็ตเป็นกลับมาเป็นเมืองสวรรค์เตรียมรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอีก 1 ปีข้างหน้า ซึ่งไม่ใช่เฉพาะที่จังหวัดภูเก็ต ยังมีในส่วนของ สมุย พัทยา เชียงใหม่ ที่เราดำเนินการในลักษณะอย่างนี้พร้อมกัน ก็จะมีการลงมาตรวจเยี่ยม กำชับ สั่งการในพื้นที่ และการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ วิดีโอทุกสัปดาห์ เพื่อให้สามารถป้องกันแก้ไขปัญหาในทุกๆ ด้านที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลให้การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต และการท่องเที่ยวในภาพรวมของประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลอย่างยั่งยืนสืบไป