ตรัง - กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ระบุต้องเป็น “ปู” หรือ “ประชา” ลงมาทำบันทึกข้อตกลงในวันพรุ่งนี้ ที่ จ.นครศรีธรรมราช เท่านั้น เพื่อแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ เผยข้อเสนอที่ให้ยกเลิกหมายเรียก และหมายจับแกนนำในจังหวัดต่างๆ ยังไม่ชัดเจน ลั่นหากตุกติกจะระดมพลเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้ง
วันนี้ (12 ก.ย.) นายปรีชา ส่งเสริม หนึ่งในแกนนำกลุ่มเกษตรกรชาวยาง จ.ตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ทางเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ กำลังรอดูท่าทีว่าในวันที่ 13 ก.ย.นี้ ทางรัฐบาลจะส่งผู้ใดมาลงนามเพื่อทำบันทึกข้อตกลงการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำอย่างเป็นรูปธรรมที่ จ.นครศรีธรรมราช ตามที่กลุ่มเกษตรกรเคยยื่นข้อเสนอกันไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถเดินทางลงมาได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เพราะถือเป็นผู้ที่มีอำนาจโดยตรงในการลงนามเพื่อทำบันทึกข้อตกลง
อย่างไรก็ตาม หากทางรัฐบาลส่งบุคคลอื่นที่ไม่ใช่นายกฯ และรองนายกฯ ดังที่ระบุไว้ ถือว่าการเจราจาล้มเหลว กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ก็อาจจะต้องกลับมารวมตัวเพื่อเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้ง จากการหารือในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้ จ.ตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ปลูกยางเป็นแห่งแรกของประเทศไทยเป็นสถานที่ชุมนุม พร้อมกับระดมมวลชนมาร่วมจังหวัดละประมาณ 5,000 คน อีกทั้งจนถึงขณะนี้หนึ่งในข้อเสนอที่ให้ยกเลิกหมายเรียก และหมายจับแกนนำในจังหวัดต่างๆ ก็ยังไม่มีความชัดเจน และบางกระแสก็บอกว่าต้องรอการออกกฎหมายนิรโทษกรรมจากสภาฯ ก่อน ซึ่งดูแล้วเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างจะยุ่งยากมาก
สำหรับการให้ชาวสวนยางมาลงทะเบียนเกษตรกรไว้ เพื่อรอการช่วยเหลือด้านปัจจัยการผลิตไร่ละ 2,520 บาท แต่ไม่เกิน 25 ไร่นั้น ก็ยังไม่มีข้อสรุปเช่นเดียวกันว่าจะมีการโอนเงินให้เมื่อไหร่ และเกษตรกรที่มีสวนยางแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ จะได้รับด้วยหรือไม่ รวมไปถึงลูกจ้าง ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการทำสวนยาง แต่กลับไม่มีการเอ่ยถึงจากทางรัฐบาลว่าจะช่วยเหลืออย่างไร เพราะมติ ครม.ที่ออกมามุ่งเน้นไปที่เจ้าของสวนยาง ซึ่งไม่ใช่เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำโดยตรง โดยประเด็นเหล่านี้กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้จำเป็นจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเสนอจริงๆ
