xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ปกครอง ร.ร.ปลูกปัญญาฯ ร้องพ่อเมืองภูเก็ตค้านยุบชั้นอนุบาล-ป.6

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ปกครองโรงเรียนปลูกปัญญาภูเก็ต กว่า 500 คน รวมตัวยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ภูเก็ต คัดค้านกรณีการยุบชั้นเรียนระดับอนุบาล จนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ด้าน ประธานชมรมฯ เผยขีดเส้น 15 วันต้องแก้ไขปัญหา หากไม่ทำเตรียมยกระดับ ขณะที่ ผอ.ร.ร.รุดแจงเป็นนโยบายของเทศบาลฯ พร้อมรับปากจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (5 ก.ย.) ชมรมผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ จำนวนกว่า 500 คน นำโดย นายธีรพนธ์ ลิ่มชูเชื้อ นายสมบัติ ธีรประยูร ประธานและรองประธานชมผู้ปกครองนักเรียนฯ ได้เดินทางมารวมตัวกันที่โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาฯ ถ.สตูล ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อคัดค้านกรณีที่ทางเทศบาลนครภูเก็ต จะมีการยุบระดับการศึกษา ตั้งแต่อนุบาลศึกษาปีที่ 1 จนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นจะมีการจัดระเบียบการรับเด็กนักเรียนใหม่ โดยจะเริ่มตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่านั้น จนทำให้ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนโรงเรียนดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนจึงได้นัดรวมตัวขึ้น ท่ามกลางมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เทศกิจ และอาสาสมัครกว่า 50 นาย

ขณะเดียวกัน นายธีรพนธ์ ลิ่มชูเชื้อ ประธานชมผู้ปกครองนักเรียนฯ รุ่นที่ 14 ได้อ่านแถลงการณ์บนรถบรรทุกติดตั้งเครื่องขยายเสียงว่า ตามที่ทางเทศบาลนครภูเก็ต จะรื้อระบบการศึกษาของโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ โดยยกเลิกระดับอนุบาล-ประถมศึกษา และมาจัดระบบการศึกษาเป็นระดับมัธยมทั้งโรงเรียน ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้มีการทำแบบลุกลี้ลุกลน ไม่มีต้นสายปลายเหตุ และจะเริ่มภายในปีการศึกษาหน้า โดยไม่คำนึงถึงผู้ปกครองนักเรียน ประกอบกับไม่มีความเห็นใจต่อนักเรียนที่ถูกไล่ออกไปอยู่โรงเรียนอื่น อีกทั้งไม่คำนึงถึงคณะครูที่อยู่โรงเรียนมานาน ทำให้กระทบความรู้สึกของผู้ปกครองอย่างรุนแรง นอกจากนั้น ยังใช้อำนาจขมขู่กดดันไม่แยแสต่อความต้องการของประชาชน และละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานในการได้รับการศึกษา ดังนั้น ทางเทศบาลนครภูเก็ต จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอในการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาฯ ที่จัดการศึกษามาเป็นระยะเวลา 100 ปี

ดังนั้น ทางชมรมผู้ปกครองฯ จึงขอออกมาเรียกร้องทางเทศบาลนครภูเก็ตถึง น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต จำนวน 5 ข้อ คือ 1.เพื่อเรียกร้องสิทธิตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติการศึกษาว่าด้วยสิทธิการเข้าเรียนของเด็กทุกคน 2.เพื่อให้คณะผู้บริหารเทศบาลนครภูเก็ต โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่ม ยกเลิกนโยบายการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาที่จะยุบระดับอนุบาล-ประถมศึกษา มาเป็นระดับมัธยมเพียงอย่างเดียว 3.เพื่อให้คณะผู้บริหารเทศบาลนครภูเก็ต สัญญาว่าจะไม่มีนโยบายที่จะรื้อระบบการศึกษาของโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ ต่อไป 4.เพื่อให้คณะผู้บริหารเทศบาลนครภูเก็ต ให้มีการสนับสนุนการศึกษาของโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ ให้มีการพัฒนาคุณภาพยิ่งขึ้นไป 5.เพื่อให้ผู้ครองนักเรียน คณะครู มีความมั่นใจ และตั้งใจพัฒนาลูกหลานสู่ความสำเร็จอย่างเต็มศักยภาพ ภายหลังการอ่านแถลงการณ์เสร็จสิ้น ชมรมผู้ปกครองนักเรียนฯ ได้เดินขบวนมายังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อมายื่นหนังสือให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

จากนั้น เมื่อเวลา .9.00 น. ชมรมผู้ปกครองฯ กว่า 500 คน ได้เดินทางมาถึงศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ก่อนมีการอ่านแถลงการณ์อีกครั้ง จากนั้น นายธีรพนธ์ ลิ่มชูเชื้อ ประธานชมผู้ปกครองนักเรียนฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการชมรมฯ ได้ยื่นหนังสือให้แก่ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้เดินทางมารับหนังสือด้วยตนเอง โดยมี นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ราชการจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในครั้งนี้

ทั้งนี้ นายธีรพนธ์ กล่าวต่อว่า จากนโยบายดังกล่าวผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย จึงเกิดกระแสความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งนับวันก็มีกระแสต่อต้านรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทางชมรมผู้ปกครองนักเรียนฯ ซึ่งเป็นองค์กรภายในโรงเรียน จัดตั้งมา 14 ปีแล้ว จึงได้เชิญคณะผู้บริหารเทศบาลนครภูเก็ต มาร่วมพูดคุยหารือกับคณะกรรมการทั้ง 10 ฝ่ายของชมรมแต่ก็ไม่เป็นผล โดยทางเทศบาลนครภูเก็ต ยังคงยืนยันตามนโยบายเดิม ไม่คำนึงถึงความเดือนร้อนที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ปกครอง และความเสียใจที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียนกำลังใจจะหดหายไป ดังนั้น ทางชมรมฯ จึงมองเห็นความเดือดร้อนของผู้ปกครองจึงได้มายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ราชการจังหวัดภูเก็ตในที่สุด

ด้าน นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องการดูแลเป็นอย่างยิ่ง และต้องปลูกฝังนักเรียนในระดับอนุบาล-มัธยมศึกษา ให้มีการตั้งใจเรียนหนังสือ เพื่อจะเป็นอนาคตของประเทศชาติ อีกทั้งยังเป็นความภาคภูมิใจของผู้ปกครองที่เห็นบุตรของตนเองเป็นคนดีของสังคมต่อไป พร้อมกันนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตจะเชิญ น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนตัวแทนผู้ปกครอง มาร่วมประชุมชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง ภายหลังที่นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อจะหาข้อสรุปให้กับผู้ปกครองโดยเร็วที่สุด ซึ่งระหว่างนี้ก็ขอให้ทางชมรมผู้ปกครองฯ จัดเตรียมตัวแทนประมาณ 10 คน ไว้รอการเจรจากับทุกฝ่าย

ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. ชมรมผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาฯ ได้เดินขบวนต่อไปยังเทศบาลนครภูเก็ต พร้อมยื่นหนังสือคัดค้านกรณีดังกล่าวให้แก่ น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต โดยมี นายกวี ตันคสุตานนท์ รองนายกเทศบาลฯ เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ พร้อมขึ้นกล่าวบนรถขยายเสียงว่า ทางเทศบาลฯ จะรับเรื่องราวไว้พิจารณา ซึ่งทันทีที่นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และจะเชิญตัวแทนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามาพูดคุยและเจรจา เพื่อหาทางออกให้แก่ปัญหาทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงการศึกษาของโรงเรียนปลูกปัญญานั้น เนื่องจากต้องการให้โรงเรียนมีการพัฒนา สามารถแข่งขันกับโรงเรียนต่างๆ ได้ แต่ถ้าหากดำเนินการแล้วเกิดปัญหาก็ต้องกลับมาพูดคุยกัน ทั้งนี้ หลังจากการชี้แจงของรองนายกฯ แล้วเสร็จ กลุ่มชมรมผู้ปกครองฯ ต่างแสดงความดีใจ ทั้งตบมือ และตะโกนคำว่า ไชโย 3 ครั้ง ก่อนจะเดินทางกลับไปรวมตัวกันที่โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาฯ อีกครั้ง

ขณะที่ นายสมบัติ ธีรประยูร รองประธานชมรมผู้ปกครองฯ เปิดเผยว่า ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ ตนจึงต้องดำเนินการเรียกร้องคัดค้านไปยังหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ หากมีการยุบระดับชั้นเรียนตั้งแต่อนุบาล จนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ทันที ก็จะทำให้ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนต้องหาสถานที่เรียนกันใหม่ บางรายมีลูกเรียนคนละแห่ง ก็ยิ่งสร้างความลำบากในการไปรับ-ส่ง ประกอบกับคุณครูที่สอบในระดับชั้นดังกล่า ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้ ทางโรงเรียนเคยมีการพูดคุยว่า ในอนาคตจะเริ่มปรับระดับการศึกษา โดยจะไม่รับเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลแล้ว เป็นระยะเวลา 8 ปี พอถึงช่วงนั้นก็จะทำให้โรงเรียนไม่มีเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 จะเหลือเพียงนักเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นต้นไป จุดนี้ทางผู้ปกครองทั่วไปยินยอม แต่จู่ๆ ทางเทศบาลฯ และผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ก็จะยุบทิ้งภายใน 2 ปี มันทำให้ผู้ปกครองเดือดร้อน ดังนั้น จากนี้ไปจะให้เวลาดำเนินการภายใน 15 วัน หากทางเทศบาลฯ ยังยืนยันที่จะเปลี่ยนแปลง ทางชมรมผู้ปกครองก็เตรียมที่จะยกระดับการชุมนุมเพื่อกดดันทันที

ถัดไปทางกลุ่มชมรมผู้ปกครองได้รวมกันที่โรงเรียน พร้อมกับประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ขอให้ผู้อำนวยการโรงเรียนปลูกปัญญาฯ ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว จากนั้น นายวินัย สุริยปราการ ผู้อำนวยการโรงเรียนปลูกปัญญาฯ ได้เดินทางมาชี้แจงด้วยตนเองที่บริเวณอาคารเรียนชั้น 2 พร้อมกล่าวว่า ตนก็เครียดไม่น้อยไปกว่าทางผู้ปกครอง เนื่องจากเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ตนในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาก็ต้องทำตามนโยบาย ไม่ใช่ว่าผมเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องปฏิบัติ เพราะเป็นข้าราชการ คุณครูภายในโรงเรียนก็เช่นกัน ก็ต้องวางตัวเป็นกลาง ผมก็มีความรู้สึกอึดอัดใจเช่นกัน ดังนั้น จึงต้องรอให้นายกเทศบาลนครภูเก็ต กลับมาจากต่างประเทศ และจะเร่งเข้าไปพูดคุยพร้อมหาทางออกกันอีกครั้ง โดยมีตัวแทนของชมรมผู้ปกครองฯ เข้าร่วมเจรจาด้วย

ทั้งนี้ นโยบายการเปลี่ยนรูปแบบการศึกษาที่ทำขึ้นเพราะต้องการพัฒนาโรงเรียนให้มีขีดความสามารถแข่งขันกับโรงเรียนต่างๆ และส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมีคุณภาพ จึงขอให้มีการพูดคุยกันแบบผู้ใหญ่อย่าดึงเด็กไปเกี่ยวข้อง





 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น