สุราษฎร์ธานี - มรส.นำคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ไปปฏิบัติธรรมตามโครงการ “สร้างปัญญา ศรัทธาความดี” หวังนำประยุกต์ใช้กับระบบราชการ พร้อมจี้กำหนดยุทธศาสตร์นำบุคลากรก้าวสู่ประชาคมอาเซียน
ผศ.ดร.ประโยชน์ คุปต์กาญจนากุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เผยว่า ก่อนหน้านี้ ทาง มรส.ได้จัดโครงการ “สร้างปัญญา ศรัทธาความดี” ขึ้น โดยนำคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ไปปฏิบัติธรรม และเจริญสติภาวนา ณ ทีปภาวันธรรมสถาน (สวนโมกขพลาราม สมุย) อ.เกาะสมุย เพื่อให้ผู้บริหารได้นำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการกำกับดูแลการปฏิบัติราชการให้เกิดประโยชน์ต่อราชการโดยรวม
ทั้งนี้ การเป็นผู้บริหารคนนั้นหากขาดธรรมะเสียอย่างแล้ว ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาก็ไม่มีความสุข ไม่ได้รับความยุติธรรม เกิดความเดือดร้อน องค์กรก็อยู่ไม่ได้ มีหลักธรรมมากมายที่ยังคงทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งผู้บริหารสามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นเครื่องดำเนินชีวิต และแนวทางในการบริหารงานได้เป็นอย่างดี เช่น พรหมวิหาร 4 ซึ่งเป็นหลักธรรมของผู้บริหารที่ควรถือปฏิบัติเป็นนิตย์, อคติ 4 คือ การกระทำอันทำให้เสียความเที่ยงธรรม ซึ่งผู้บริหารไม่ควรประพฤติเพราะเป็นทางแห่งความเสื่อม หรือสังคหวัตถุ 4 ซึ่งเป็นหลักธรรมอันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจของกันและกัน เป็นเหตุให้ตนเอง และหมู่คณะก้าวสู่ความเจริญรุ่งเรือง เป็นต้น
“นอกจากความรู้ความสามารถที่จะทำให้เราก้าวหน้า และประสบความสำเร็จในการทำงานแล้ว การรักษาทางเดินของตนให้อยู่ในเส้นทางแห่งความดีงาม เส้นทางแห่งความซื่อสัตย์สุจริต และการมีเมตตาธรรม ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่คนทำงานต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ปฏิบัติงานราชการ เพราะหน่วยงานราชการคือ องค์กรหลักที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาประเทศและดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน หากคนทำงานราชการขาดธรรมในใจก็ยากที่จะบรรลุเป้าประสงค์นี้ได้”
ผศ.ดร.ประโยชน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทาง มรส.ได้จัดโครงการบริหารจัดการความรู้ให้แก่บุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งวิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว อ.เกาะสมุย ได้เตรียมการวางแผน และพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่อาจารย์ และบุคลากร โดยกำหนดเป็นแผนปฏิบัติการ 5 ปี ระหว่าง พ.ศ.2557-2561 โดยมีการกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์คือ การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรควบคู่ไปกับคุณภาพของนักศึกษาให้มีทักษะที่เหมาะสมต่อการแข่งขันในสู่ประชาคมอาเซียนเช่น การใช้ภาษาอังกฤษ และภาษาเพื่อนบ้าน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการมีความชำนาญการในศาสตร์ของตน เป็นต้น
ผศ.ดร.ประโยชน์ คุปต์กาญจนากุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เผยว่า ก่อนหน้านี้ ทาง มรส.ได้จัดโครงการ “สร้างปัญญา ศรัทธาความดี” ขึ้น โดยนำคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ไปปฏิบัติธรรม และเจริญสติภาวนา ณ ทีปภาวันธรรมสถาน (สวนโมกขพลาราม สมุย) อ.เกาะสมุย เพื่อให้ผู้บริหารได้นำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในการกำกับดูแลการปฏิบัติราชการให้เกิดประโยชน์ต่อราชการโดยรวม
ทั้งนี้ การเป็นผู้บริหารคนนั้นหากขาดธรรมะเสียอย่างแล้ว ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาก็ไม่มีความสุข ไม่ได้รับความยุติธรรม เกิดความเดือดร้อน องค์กรก็อยู่ไม่ได้ มีหลักธรรมมากมายที่ยังคงทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งผู้บริหารสามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นเครื่องดำเนินชีวิต และแนวทางในการบริหารงานได้เป็นอย่างดี เช่น พรหมวิหาร 4 ซึ่งเป็นหลักธรรมของผู้บริหารที่ควรถือปฏิบัติเป็นนิตย์, อคติ 4 คือ การกระทำอันทำให้เสียความเที่ยงธรรม ซึ่งผู้บริหารไม่ควรประพฤติเพราะเป็นทางแห่งความเสื่อม หรือสังคหวัตถุ 4 ซึ่งเป็นหลักธรรมอันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจของกันและกัน เป็นเหตุให้ตนเอง และหมู่คณะก้าวสู่ความเจริญรุ่งเรือง เป็นต้น
“นอกจากความรู้ความสามารถที่จะทำให้เราก้าวหน้า และประสบความสำเร็จในการทำงานแล้ว การรักษาทางเดินของตนให้อยู่ในเส้นทางแห่งความดีงาม เส้นทางแห่งความซื่อสัตย์สุจริต และการมีเมตตาธรรม ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่คนทำงานต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ปฏิบัติงานราชการ เพราะหน่วยงานราชการคือ องค์กรหลักที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาประเทศและดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน หากคนทำงานราชการขาดธรรมในใจก็ยากที่จะบรรลุเป้าประสงค์นี้ได้”
ผศ.ดร.ประโยชน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทาง มรส.ได้จัดโครงการบริหารจัดการความรู้ให้แก่บุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งวิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว อ.เกาะสมุย ได้เตรียมการวางแผน และพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่อาจารย์ และบุคลากร โดยกำหนดเป็นแผนปฏิบัติการ 5 ปี ระหว่าง พ.ศ.2557-2561 โดยมีการกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์คือ การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรควบคู่ไปกับคุณภาพของนักศึกษาให้มีทักษะที่เหมาะสมต่อการแข่งขันในสู่ประชาคมอาเซียนเช่น การใช้ภาษาอังกฤษ และภาษาเพื่อนบ้าน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการมีความชำนาญการในศาสตร์ของตน เป็นต้น