xs
xsm
sm
md
lg

“พระสุเทพ” วอน “รัฐบาลประยุทธ์” ช่วยเยียวยาเหยื่อการชุมนุม กปปส.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระสุเทพ (ภาพจากแฟ้ม)
“พระสุเทพ” วอน “รัฐบาลตู่” เยียวยาเหยื่อการชุมนุม กปปส. พร้อมเชิญชวนญาติโยมบวชถวายพระพรในหลวง ครบ 87 พรรษา แนะนักการเมืองบวชลดกิเลส

วันนี้ (8 ส.ค.) ที่สวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี พระสุเทพ ปภากโร หรือ “พระสุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตเลขาธิการกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวว่า การบวชของอาตมาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อดับทุกข์ในใจตัวเอง เมื่อบวชก็ตั้งใจจะปฏิบัติและศึกษาธรรมะ เพื่อแผ่ส่วนบุญกุศลให้กับพี่น้องร่วมอุดมการณ์ที่ได้ต่อสู้เพื่อรักษาชาติรักษาแผ่นดิน แต่กลับถูกทำร้ายถูกฆ่าตาย 24 คน และบาดเจ็บสาหัสกว่าร้อยคน

พระสุเทพ ปภากโร กล่าวต่อว่า อาตมาได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตไปเท่าที่มีกำลังจะทำได้ โดยสงเคราะห์ครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือทุพลภาพครอบครัวละ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังจัดทุนการศึกษาให้กับบุตรของผู้เสียชีวิต คนละ 2 ล้าน ส่วนผู้ที่บาดเจ็บก็รักษาให้หมดแม้ว่าจะไม่คุ้มก็ทำสุดกำลัง ที่เหลือก็จะขอรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พิจารณาเยียวยาต่อ

พระสุเทพ ปภากโร กล่าวอีกว่า ในแง่จิตใจอาตมาในฐานะอดีตผู้นำมวลมหาประชาชนยังติดค้างอยู่ จึงตั้งใจที่จะบำเพ็ญกุศลเพื่อเผยแผ่ให้แก่ผู้เสียชีวิตทุกคน นอกจากนี้ อาตมาจึงคิดว่าถ้าพี่น้องร่วมอุดมการณ์จะมาปฏิบัติธรรมด้วยกัน ก็จะได้บุญเยอะขึ้น ดังนั้น ขอเชิญชวนพี่น้องเหล่ามาปฏิบัติธรรมเคียงบ่าเคียงไหล่

“มาที่สวนโมกข์นานาชาติวันที่ 19-27 ของทุกเดือน 7 วันเต็มๆ จะมีการสอนธรรมะและสอนวิปัสสนากรรมฐาน เมื่อมีสมาธิก็จะมีปัญญาไปพิจารณาธรรมะ หรือถ้าอยากจะได้บรรยากาศใกล้ทะเล ก็เชิญไปที่ทีปภาวัน ธรรมสถาน (สวนโมกข์ สมุย) ต.ละไม อ.เกาะสมุย ซึ่งท่านเจ้าคุณอาจารย์โพธิ์ได้ไปตั้งสำนักปฏิบัติธรรมเป็นมูลนิธิทีปภาวัน โดยระยะเวลาในการปฏิบัติธรรมที่ทีปภาวัน ธรรมสถาน จะสั้นกว่าที่สวนโมกข์นานาชาติ คือ ระหว่างวันที่ 12-17 ของทุกเดือน การปฏิบัติธรรมทั้ง 2 แห่งนั้น อาตมาจะไปรอต้อนรับและนั่งฝึกทำสมาธิเคียงบ่าเคียงไหล่เป็นเพื่อนญาติโยมด้วย ไม่ใช่เป็นพระพี่เลี้ยงแต่เป็นกัลยาณมิตรกัน เพราะเราเคยต่อสู้มาแล้ว” พระสุเทพ ปภากโร กล่าว

พระสุเทพ ปภากโร กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกหนึ่งโครงการใหญ่ คือ การบวชเพื่อบำเพ็ญธรรมถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 87 พรรษา 5 ธันวาคม นี้ ดังนั้น อาตมาจึงได้ปรึกษากันว่าจะจัดให้มีการบวชเป็นรุ่นๆ ละ 88 รูป โดยรุ่นแรกจะบวชในวันที่ 29 ต.ค. จำนวน 30 รูป วันที่ 30 จำนวน 30 รูป และวันที่ 31 ต.ค. จำนวน 28 รูป โดยจะบวช ณ พระอุโบสถที่สวนโมกข์ ซึ่งเป็นพระอุโบสถแบบสมัยพระพุทธเจ้า คือ มีท้องฟ้าเป็นหลังคา มีต้นไม้เป็นกำแพง หากฝนตกก็จะหยุดบวชเมื่อฝนหายก็จะบวชต่อ

พระสุเทพ ปภากโร กล่าวว่า สำหรับรุ่นที่ 2 จะบวชวันที่ 28-29-30 พ.ย. ทั้งหมด 88 รูปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 รุ่นนี้ใครจะมาบวชต้องทำใจว่า ที่นี่ต้องปฏิบัติเคร่งครัดจะสูบบุหรี่และดูโทรทัศน์ไม่ได้ ต้องทำวัดเช้าเย็น ปฏิบัติกรรมฐานทำสมาธิ ฉันท์ข้าวมื้อเดียว ต้องปฏิบัติกิจของสงฆ์ ต้องบิณฑบาต กวาดวัด ถ้ามาบวชแล้วอ้วนอยู่ไม่ได้

เมื่อถามถึงเกณฑ์ในการคัดเลือกเป็นอย่างไร พระสุเทพ ปภากโร กล่าวว่า ใครสมัครก่อนเราเอาก่อน ไม่ต้องนำอะไรมาเลยมาแต่ตัวกับหัวใจและความจงรักภักดี เครื่องอัฐบริขารอาตมาจะเตรียมให้ทั้งหมดทุกอย่าง มุ้งหมอนก็มีพร้อม ขณะนี้ได้มีการประชาสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ โดยขณะนี้รุ่นแรกมีผู้ยื่นความจำนง 30-40 คนแล้ว จากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ถ้าใครสนใจโทรศัพท์มาที่ เบอร์ 077-435-340 ทั้งนี้หากมีผู้แสดงความจำนงมาเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ก็จะเพิ่มรุ่นอีก

เมื่อถามถึงความคาดหวังของผู้เข้าร่วมโครงการนอกจากถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว มีจุดประสงค์อื่นหรือไม่ พระสุเทพ ปภากโร กล่าวว่า สิ่งที่เราคิดกันโดยภาพรวม คือ เรารับใช้บ้านเมืองมาถึงที่สุดแล้ว วันนี้เราต้องมารับใช้ศาสนาบ้าง เพราะปัจจุบันนี้อาตมาเห็นว่าทุกจังหวัดมีคนบวชน้อยลง ดังนั้น เราต้องฟื้นฟูกันใหม่ ชวนพี่น้องประชาชนเข้าหาธรรมะ เพราะชีวิตที่มีธรรมะเป็นชีวิตที่เงียบสงบเย็นลง โอกาสที่เราจะมีสังคมที่สงบสุขก็ง่ายขึ้น เป็นผลดีกับสังคมทำให้ความทุกข์น้อยลง

เมื่อถามว่า จะเชิญชวนนักการเมืองมาบวชบ้างหรือไม่ พระสุเทพ ปภากโร กล่าวว่า นักการเมืองบวชบ้างก็ดี กิเลสจะได้น้อยลงประเทศจะได้วุ่นวายน้อยลง ทั้งนี้ อาตมาไม่ได้พูดถึงพรรคการเมืองไหนแต่พูดแบบพระพูด
กำลังโหลดความคิดเห็น