xs
xsm
sm
md
lg

ชาวหัวไทรปล่อยว่าวนับร้อยตัว แสดงศักยภาพพลังงานลม ผลักดันเป็นพลังงานอนาคต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวอำเภอหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ร่วมปล่อยว่าวนับร้อยตัวบริเวณทุ่งกังหันลม กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เพื่อแสดงถึงศักยภาพพลังงานลมที่มีอยู่อย่างล้นเหลือในจังหวัดนครศรีธรรมราช ผลักดันเป็นพลังงานอนาคต

วานนี้ (17 ส.ค.) ชาวอำเภอหัวไทร และอาสาสมัครกรีนพีซ ร่วมนำว่าวนับร้อยตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า ณ บริเวณทุ่งกังหันลม กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เพื่อแสดงถึงศักยภาพพลังงานลมที่มีอยู่อย่างล้นเหลือในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่จะสามารถรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าของจังหวัดได้ทั้งหมด พร้อมชูป้ายมีที่ข้อความ “นครศรีฯ ลมดี พอกันทีถ่านหิน” เพื่อเรียกร้องให้นำศักยภาพพลังงานหมุนเวียนดังกล่าวมาใช้ผลิตไฟฟ้าอย่างเต็มที่ แทนการที่จะผลักดันใช้พลังงานสกปรกอย่างถ่านหินโดยภาครัฐ

ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน คือ สาเหตุที่สำคัญที่สุดที่ประชาชนในพื้นที่ออกมาคัดค้าน เนื่องจากการสูญเสียต่อระบบนิเวศวิทยา ความหลากหลายชีวภาพ และวิถีชีวิตที่คนกว่าครึ่งล้าน ทำอาชีพการเกษตร การทำประมง และท่องเที่ยวในอำเภอหัวไทรซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 พื้นที่แห่งนี้มีความความหลากหลายทางชีวภาพ แต่ขณะเดียวกัน ก็มีความเปราะบางของระบบนิเวศวิทยา

“มีวิธีการแก้ปัญหาง่ายๆ ที่จะสร้างความมั่นคงต่อความต้องการพลังงานในจังหวัดนครศรีธรรมราช และปกป้องสิ่งแวดล้อม นั่นก็คือ การนำศักยภาพของพลังงานหมุนเวียนที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ และสูงสุด พลังงานลมสามารถสร้างงาน ส่งจ่ายกระแสไฟฟ้า และไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนโรงไฟฟ้าถ่านหิน พลังงานลมเรามีอยู่แล้ว แต่เราไม่สามารถนำมันมาใช้ได้ทั้งหมด หากไม่มีกฎหมายพลังงานหมุนเวียนที่บังคับให้รัฐรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเข้าสู่ระบบสายส่งเป็นลำดับแรก” จริยา เสนพงศ์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว

“การที่พื้นที่นี้ตั้งอยู่บริเวณแนวชายฝั่งทะเลของประเทศไทย ศักยภาพพลังงานลมจึงมีอยู่มากมายตลอดทั้งปี ซึ่งก็สอดคล้อง และได้รับการยืนยันจากผลการศึกษาวิจัย และเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีในการลงทุนโครงการกังหันลมขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็มีโครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาคใต้ก็จะถูกสร้างขึ้นแล้ว โดยจะติดตั้งกังหันลมยาวตลอดแนวชายฝั่งจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปจนถึงจังหวัดสงขลา ด้วยกำลังผลิตติดตั้ง 126 เมกะวัตต์ และจะสามารถส่งกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเพื่อป้อนความต้องการของคนในพื้นที่ภาคใต้ได้ภายในปี พ.ศ.2558 ซึ่งจะสามารถลดการพึ่งพิงการผลิตไฟฟ้าแบบรวมศูนย์ เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหินได้”

“โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สวนทางกับแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงอย่างชัดเจน ซึ่งโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมทำให้ชุมชนก้าวสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในอีก 10 ปีข้างหน้า จังหวัดนครศรีธรรมราช จะสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมได้เพียงพอร้อยเปอร์เซ็นต์ ควบคู่กับการนำแนวทางพระราชดำริไปปฎิบัติใช้ทั้งด้านเศรษฐกิจและพลังงาน” รอง แก้วสกุล ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายรักบ้านเกิดลุ่มน้ำปากพนัง กล่าว

“นครศรีธรรมราชนั้นเป็นพื้นที่ทองคำสำหรับการลงทุนพลังงานลม โดยสามารถสร้างกังหันลมได้ทั้งบนฝั่ง และนอกชายฝั่งของอ่าวไทย สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 1,294 และ 18,444 เมกะวัตต์ ตามลำดับ ซึ่งจะเพียงพอต่อความต้องการพลังงานไฟฟ้าในจังหวัดภาคใต้ และในอีก 2 ปีข้างหน้า ประชาชนจะได้เห็นทุ่งกังหันลมที่ใหญ่ที่สุดที่สามารถจ่ายไฟให้พลังงานที่สะอาด สร้างงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรายได้จากพลังงานหมุนเวียน และเพลิดเพลินกับสิ่งแวดล้อมที่ดี” ดร.จอมภพ แววศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยทักษิณ กล่าว

 
 









กำลังโหลดความคิดเห็น