xs
xsm
sm
md
lg

ผวจ.กระบี่เปิดจวนจัดงานอีดิ้ลฟิตรีสัมพันธ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระบี่ - ผวจ.กระบี่ เปิดจวนจัดงานอีดิ้ลฟิตรีสัมพันธ์ ครั้งที่ 4 เชิญผู้นำศาสนาอิสลาม พบปะหัวหน้าส่วนราชการ จ.กระบี่ พร้อมอยากเห็นชาวกระบี่ เรียนรู้ภาษารับ AEC

วันนี้ (13 ส.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมการจัดงาน อีดิ้ลฟิตรีสัมพันธ์ ครั้งที่ 4 ประจำปี 2556 จัดขึ้นในวันที่ 20 สิงหาคม 2556 บริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองให้แก่ชาวไทยมุสลิมจังหวัดกระบี่ ภายหลังการเสร็จสิ้นปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนที่มีความประเสริฐสำหรับชาวไทยมุสลิม และมุสลิมทั่วโลก และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างส่วนราชการ และประชนชาวไทยพุทธ-มุสิลิม

นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การจัดงานอีดิ้ลฟิตรีสัมพันธ์ฯ ในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองให้แก่พี่น้องชาวไทยมุสลิม ภายหลังการปฏิบัติศาสนากิจตลอดเดือนรอมฎอน ซึ่งตรงกับเดือนตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา และเพื่อเป็นการให้มีการพบปะกันระหว่างผู้นำศาสนาอิสลาม และหัวหน้าส่วนราชการ เพราะในการที่จะพัฒนาจังหวัดจะขาดความร่วมมือจากกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเสียมิได้ ทั้งหัวหน้าส่วนราชการก็ดี ประชาชนทุกเชื้อชาติศาสนาที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ก็ต้องมาทำความเข้าใจกัน โดยเฉพาะในจังหวัดกระบี่ มีชาวไทยมุสลิมอยู่กว่า 49% ดังนั้น การดำเนินนโยบายของจังหวัด ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันก็ต้องได้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย

ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวอีกว่า การจัดงานอีดิ้ลฟิตรีสัมพันธ์ฯ จังหวัดกระบี่ นอกจากมีการพบปะระหว่างผู้นำศาสนา และหัวหน้าส่วนราชการกันแล้ว ก็ยังได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการเข้าสู่เป็นประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะในเรื่องของภาษา เชื่อว่าหลังจากที่มีการเปิดประชาคมอาเซียน จังหวัดกระบี่ จะเป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มสมาชิกอาเซียนด้วยการเข้ามาท่องเที่ยว และลงทุนในด้านต่างๆ กันเป็นจำมากอย่างแน่นอน และส่วนหนึ่งก็เป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งชาวจังหวัดกระบี่ ก็ต้องปรับตัวรับมือกับความเจริญ หรือการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่จะตามมาด้วย

สำหรับเรื่องของภาษาเป็นสิ่งที่ควรจะส่งเสริมลูกหลานให้มีการเรียนรู้ ไม่ว่าภาษาอังกฤษ ภาษามลายู ญี่ปุ่น หรือภาษาจีน เป็นต้น ซึ่งในอนาคตจะเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ เพราะจะมีผู้นำประเทศต่างๆ หรือองค์กรระดับประเทศเข้ามาเยี่ยมเยียนประเทศเรามากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบุคลากรทางด้านภาษายังขาดแคลนอยู่ หากเรามีความชำนาญทางด้านภาษาก็จะสามารถสื่อสารเรื่องราวต่างๆ ให้คนทั่วโลกได้รับรู้ถึงความเป็นอยู่ของเรา และสามารถที่จะเรียนรู้ความเป็นอยู่ของประเทศอื่นๆ ได้อย่างลึกซึ้งด้วย เพื่อจะได้นำสิ่งที่เป็นประโยชน์มาปรับใช้ในการพัฒนาในประเทศต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น