xs
xsm
sm
md
lg

โวย! พม.กระบี่จ่ายเงินกู้กองทุนคนพิการแต่ยังมียอดค้าง คาด จนท.โกง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระบี่ - นายกสมาคมคนตาบอด จ.กระบี่ เผยผ่อนชำระเงินเงินกู้กองทุนส่งเสริมและพัฒนาอาชีพคนพิการครบแล้ว แต่กลับมียอดค้างชำระ ด้านพัฒนาสังคมฯ จ.กระบี่ รับลูกตั้งกรรมการสอบ เผยมียอดเงินคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงกว่า 1.8 ล้านบาท คาดเจ้าหน้าที่เอี่ยวโกง

วันนี้ (1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายสมศักดิ์ สำหนาว นายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดกระบี่ และประธานสภาคนพิการทุกประเภทจังหวัดกระบี่ ว่า ขณะนี้สมาชิกสภาคนพิการในพื้นที่จังหวัดกระบี่หลายรายที่กู้เงินกองทุนส่งเสริมและพัฒนาอาชีพคนพิการ ประสบความเดือดร้อนหลังผ่อนชำระเงินกู้ครบแล้ว แต่ไม่สามารถไปกู้ในครั้งต่อไปได้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่ายังค้างชำระเงินอยู่ทั้งที่จ่ายเงินครบแล้ว

“ตนก็เป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหาดังกล่าวหลังผ่อนชำระครบทุกงวด แต่ยังมีหนี้ค้างอีกประมาณ 3 พันบาท ทั้งนี้ ยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่า ผ่อนชำระครบแล้ว โดยชำระผ่านทางธนาคาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่การเงินของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่ไม่มีหลักฐานใดๆ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เรียกสมุดบัญชีคืนไปก่อนหน้านี้ ซึ่งในส่วนของตนนั้นก็ไม่สามารถที่จะเก็บเอกสารหลักฐานอะไรได้เนื่องจากพิการตาบอดมองอะไรไม่เห็น” นายสมศักดิ์ กล่าวและว่า

ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าของตนจ่ายครบแล้ว ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร นอกจากนี้ทราบว่า มีคนพิการอยู่รายหนึ่งในท้องที่อำเภอคลองท่อม ชื่อนายสมพร ปานสิทธิ์ มีรายชื่อกู้เงินในปี 2549 แต่ไม่เคยได้เงิน อยู่ๆ กลับมีใบแจ้งหนี้ค้างชำระ 33,500 บาท หลังจากนี้ตนก็จะเข้าปรึกษากับหัวหน้าสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อตรวจสอบและเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้แก่คนพิการต่อไป

ด้าน นายมานิตย์ มณีธรรม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า เรื่องที่นายกสมาคมคนตาบอดร้องเรียนมานั้น ตนได้รับทราบเรื่องแล้ว ภายหลังจากที่ตนย้ายมาดำรงตำแหน่งที่จังหวัดกระบี่ ได้ประมาณ 3 เดือน ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตเงินกองทุนคนพิการหรือไม่

โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เหตุเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2540 มีสมาชิกกู้เงินกองทุนฯ จำนวน 505 ราย และพบความผิดปกติ เช่น มีเงินชำระที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หรือคลาดเคลื่อนไปจากจำนวนที่ผ่อนชำระกว่า 1.8 ล้านบาท คาดว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นภายในองค์กรอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ต้องผลการสอบของคณะกรรมการที่ชัดเจนก่อน จึงสามารถชี้จัดได้ว่ามีการทุจริตหรือไม่
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น