ประมงพื้นบ้านกระบี่ยื่นหนังสือผู้ว่าฯ ให้ริบเรืออวนลากที่ลักลอบทำเขตหวงห้าม

กระบี่ - สมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ ร่วมกับเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้าน ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เรียกร้องให้ดำเนินการริบเรืออวนลากที่เข้ามาลักลอบจับสัตว์น้ำในเขตหวงห้ามของจังหวัดกระบี่ หลังมีการจับกุม และยึดเรือของกลางได้หลายครั้ง แต่ผู้ต้องหากลับมากระทำผิดซ้ำอีกโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย

วันนี้ (29 ก.ค.) สมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ และเครือข่ายเรือประมงพื้นบ้านในจังหวัดกระบี่ประมาณ 30 คน นำโดยนายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมนำบันทึกการจับกุมเรือประมงอวนลากคู่ที่เข้ามาลักลอบทำประมงในเขตหวงห้ามของ จ.กระบี่ เพื่อเรียกร้องให้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อเรือประมงที่ลักลอบใช้เครื่องอวนลากประกอบเรือยนต์ทำการประมงในเขตหวงห้ามของจังหวัดกระบี่ และให้ริบเรือ และเครื่องมือประมงเพื่อไม่ให้กลับมากระทำผิดซ้ำ หลังจับกุมดำเนินคดีหลายครั้งแต่ก็ยังไม่เกรงกลัว ขณะที่ทรัพยากรสัตว์น้ำที่ชาวประมงช่วยกันอนุรักษ์ถูกทำลายเป็นจำนวนมาก แม้จะมีการจับกุมหลายครั้ง แต่ผู้กระทำผิดก็สามารถกลับมากระทำผิดได้อีก ส่งผลกระทบต่อชาวประมงพื้นบ้านเป็นอย่างมาก

ต่อมา นายวีระ จันทรทิพย์รักษ์ ปลัดจังหวัดกระบี่ ได้มารับหนังสือร้องเรียนแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือร่วมกับสมาชิกสมาคมชาวประมง ที่ห้องประชมศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อชี้แจงถึงกระบวนการดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด ทั้งนี้ สืบเนื่องเมื่อวันที่ 21 ก.ค.56 ที่ผ่านมา ทางสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ ร่วมกับ หน.ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลอันดามันกระบี่ เจ้าหน้าที่ อส. และเครือข่ายประมงพื้นบ้าน ได้ทำการจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประมง พ.ศ.2490 จำนวน 9 คน ยึดเรืออวนลาก 2 ลำ ในข้อหาร่วมกันใช้เครื่องมือประมงประกอบเรือยนต์ทำการประมงในเขตหวงห้ามของจังหวัดกระบี่

แต่ในขณะนี้ของกลางที่ใช้ในการประทำผิดเจ้าหน้าที่ได้คืนให้แก่ผู้ต้องหาไปแล้ว ทำให้ผู้กระทำผิดสามารถหวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก ทรัพยากรสัตว์น้ำของจังหวัดกระบี่ที่ร่วมอนุรักษ์มานานเกือบ 10 ปี ก็ร่อยหรอลงทุกที เนื่องจากเรืออวนลากทำให้สัตว์น้ำวัยอ่อนไม่มีโอกาสเจริญเติบโต และจะส่งผลกระทบต่อชาวประมงพื้นบ้านไม่สามารถจับสัตว์น้ำได้ตามปกติ

ด้านายวีระ จันทรทิพย์รักษ์ ปลัดจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตนรับทราบถึงความเดือดร้อนของชาวประมงพื้นบ้าน แต่ในการดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด หรือริบของกลางนั้น เป็นกระบวนการทางกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้อัยการเป็นผู้พิจารณา แต่เมื่ออัยการไม่ขอริบ และต้องให้พนักงานาสอบสวนจัดการตาม ป.วิอาญา มาตรา 58 หากเจ้าของเรือ ขอรับเรือคืนไปเก็บรักษาก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ เพราะเป็นเรือที่เช่ามา ซึ่งผู้ต้องหาได้เตรียมการอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายไว้แล้ว

ดังนั้น แนวทางแก้ในเรื่องนี้ก็คือ ในเบื้องต้นให้ทำบันทึกทัณฑ์บนเอาไว้ หากพบว่าเรือลำดังกล่าวกลับมากระทำซ้ำผิดอีกครั้ง ก็จะทำการริบเรือได้ทันที ส่วนแนวทางอื่นๆ นั้นจะต้องมาหารือกันหลายๆ ฝ่ายว่าจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อไม่ให้เรืออวนลากเข้ามาลักลอบจับสัตว์น้ำในเขตน่านอนุรักษ์ของจังหวัดกระบี่อีก