ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามัน สั่งเจ้าหน้าที่ลุยจับเรือประมงขณะลักลอบทำประมงเขตหวงห้ามกลางทะเลกระบี่ รวบทันควันเรืออวนลากคู่ได้ 2 ลำ พร้อมลูกเรือชาวพม่า ขณะที่กำลังทำบันทึกการจับกุมมีข้าราชการผู้ใหญ่โทร.เคลียร์
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (21 ก.ค.) นายเจริญไชย ศรีสุวรรณ์ หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ ได้รับแจ้งมีเรือประมงอวนลากเข้ามาทำประมงในเขตหวงห้าม บริเวณหน้าเกาะไผ่ ม.7 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ จึงได้สนธิกำลังกับสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ สมาชิก อส.จังหวัดกระบี่ ภายใต้การอำนวยการของนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เข้าตรวจสอบ
พบเรืออวนลากคู่ 2 ลำ ประกอบด้วย เรือโชคตระการ 4 และ 5 กำลังลักลอบทำการประมงในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่ในเขตแนวชายฝั่งกระบี่ ในระยะ 3 ไมล์ทะเล ซึ่งเป็นเขตห้ามอวนลากทำการประมง จึงได้แสดงตัวจับกุม ได้ผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายสุเนตร เทียนทิพย์ อายุ 41 บ้านเลขที่ 130 ม.12 ต.หนองแม อ.เชียงค้อ จ.ชัยภูมิ รับเป็นไต้ก๋งเรือ พร้อมลูกเรือเป็นชาวไทย 2 คน และชาวพม่า 6 คน รวม 9 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง อวนลากคู่ จำนวน 1 ปาก และสัตว์น้ำเบญจพรรณ จำนวนกว่า 150 กิโลกรัม
นายเจริญไชย ศรีสุวรรณ์ หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ กล่าวว่า ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า ผู้ต้องหาพร้อมพวกได้ร่วมกันนำเรืออวนลากคู่ทั้ง 2 ลำ เข้าลักลอบทำการประมงในเขตประกาศห้ามจับสัตว์น้ำของจังหวัดกระบี่ ในระยะ 3 ไมล์ทะเล โดยผู้ต้องหาอาศัยช่วงวันหยุดยาวคาดว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ออกตรวจ จึงได้สนธิกำลังเข้าทำการตรวจสอบ และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ในที่สุด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันใช้อวนลากคู่ประกอบเรือยนต์ในเขตห้ามจับสัตว์น้ำ ของจังหวัดกระบี่ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องมาทำการบันทึกจับกุมที่ศูนย์บริหารจัดการประมง ทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ ได้มีนายทุนทราบว่า เป็นเจ้าของเรือได้เดินทางมาที่ศูนย์ฯพร้อมโทรศัพท์ไปหาผู้ใหญ่ซึ่งเป็นข้าราชการคนหนึ่ง โดยมีการเรียกผ่านโทรศัพท์ว่า ท่านรอง เพื่อขอให้มีการปล่อยตัวผู้ต้องหา และเรือของกลาง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ และเดินทางกลับไปในที่สุด และว่าการกวดขันจับกุมเรืออวนลากทำประมงผิดกฎหมาย ทาง ผวจ.กระบี่ ได้รับนโยบายมาจาก รมช.เกษตรฯ ตามคำเรียกร้องของชาวประมงพื้นบ้าน