ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวประมงพื้นบ้านอำเภอปราณบุรี เตรียมประกาศปิดร่องแม่น้ำปราณพรุ่งนี้ เพื่อกดดันภาครัฐให้มีการดำเนินการห้ามไม่ให้มีการดำหอยจอบ หลังจากเกิดข้อพิพาทยืดเยื้อมาหลายเดือน ระหว่างชาวประมงพื้นบ้าน กับเรือประมงดำหอยจอบในอ่าวปราณบุรี
วันนี้ (25 ก.ค.) นายชัยยะ ตุ้มทอง แกนนำชาวประมงพื้นบ้าน บ้านคลองเก่า หมู่ที่ 1 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านจาก อ.ปราณบุรี และ อ.สามร้อยยอด กว่า 20 คน ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำปราณบุรี นำเรือตรวจการณ์ออกไปกลางทะเลห่างจากฝั่งประมาณ 2 ไมล์ทะเล เพื่อพบกับกลุ่มเรือประมงดำหอยจอบ จำนวนกว่า 7 ลำ ที่ได้นำเรือออกไปดำหอย เพื่อขอร้องให้ชาวเรือประมงดำหอยจอบหยุดดำหอย
นายนายชัยยะ ตุ้มทอง ตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่า ตั้งแต่เรือดำหอยทำการประมงในอ่าวปากน้ำปราณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนให้แก่กลุ่มประมงพื้นบ้าน ซึ่งการทำประมงเรือดำหอยต้องใช้คนลงไปเดินในน้ำแล้วดึงหอยขึ้นมา ทำให้น้ำทะเลขุ่นแล้วได้หอยมาแล้วก็แกะเอาเฉพาะกระดุมหอย (เอ็นหอย) เท่านั้น ส่วนเนื้อหอย และเปลือกหอยโยนทิ้งลงทะเลทำให้เนื้อที่โยนทิ้งลงไปในน้ำเกิดการเน่าเสียน้ำมีกลิ่นเหม็นทำให้สัตว์น้ำไม่สามารถอยู่ได้ ปลาบางชนิดเริ่มลอยคอขึ้นมาตาย สิ่งสำคัญทำให้ชาวประมงจับสัตว์น้ำไม่ได้
หลังจากที่ชาวประมงพื้นบ้านได้ดำเนินขอร้องให้กลุ่มประมงดำหอยหยุดดำไม่เป็นผล อีกทั้งภาครัฐยังไม่เข้ามาแก้ปัญหาให้ชาวประมงพื้นบ้าน พรุ่งนี้ชาวประมงพื้นบ้านเตรียมนำเรือมาปิดร่องน้ำเพื่อประท้วงที่ภาครัฐไม่มาแก้ไขให้อย่างจริงจัง
ด้านนางอรวรรณ จิตโสภาโรจน์ ตัวแทนประมงดำหอย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การทำประมงดำหอยด้วยการใช้มือเปล่าไม่มีกฎหมายข้อไหนห้ามให้ทำ ทุกวันนี้ไม่อยากให้คนในหมู่บ้านกันเกิดความแตกแยก มาพูดจากันทำความเข้าใจกันว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ ทุกวันนี้พวกตนก็ออกไปทำประมงนอกเขตอนุรักษ์ 3,000 เมตร แต่ก็ยังไม่พอใจ จริงๆ อยากจะให้หน่วยงานภาครัฐมาเป็นคนกลางมาทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย ประกอบอาชีพด้วยกันได้โดยไม่เกิดปัญหา เช่น กำหนดให้กลุ่มเรือดำหอยทำได้กี่เดือน หรือกำหนดจุดว่าที่ตรงไหนดำได้ จุดไหนดำไม่ได้ ไม่ใช่มาใช้พวกมากกดดันสั่งให้พวกตนหยุดเลย แล้วใครจะยอม ในเมื่อพวกตนประกอบอาชีพสุจริตไม่ผิดกฎหมาย จริงแล้วอยากจะให้มีคนกลางมาประสานโดยให้ทั้ง 2 กลุ่มสามารถทำประมงร่วมกันได้แบบยั่งยืน
วันนี้ (25 ก.ค.) นายชัยยะ ตุ้มทอง แกนนำชาวประมงพื้นบ้าน บ้านคลองเก่า หมู่ที่ 1 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านจาก อ.ปราณบุรี และ อ.สามร้อยยอด กว่า 20 คน ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำปราณบุรี นำเรือตรวจการณ์ออกไปกลางทะเลห่างจากฝั่งประมาณ 2 ไมล์ทะเล เพื่อพบกับกลุ่มเรือประมงดำหอยจอบ จำนวนกว่า 7 ลำ ที่ได้นำเรือออกไปดำหอย เพื่อขอร้องให้ชาวเรือประมงดำหอยจอบหยุดดำหอย
นายนายชัยยะ ตุ้มทอง ตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่า ตั้งแต่เรือดำหอยทำการประมงในอ่าวปากน้ำปราณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนให้แก่กลุ่มประมงพื้นบ้าน ซึ่งการทำประมงเรือดำหอยต้องใช้คนลงไปเดินในน้ำแล้วดึงหอยขึ้นมา ทำให้น้ำทะเลขุ่นแล้วได้หอยมาแล้วก็แกะเอาเฉพาะกระดุมหอย (เอ็นหอย) เท่านั้น ส่วนเนื้อหอย และเปลือกหอยโยนทิ้งลงทะเลทำให้เนื้อที่โยนทิ้งลงไปในน้ำเกิดการเน่าเสียน้ำมีกลิ่นเหม็นทำให้สัตว์น้ำไม่สามารถอยู่ได้ ปลาบางชนิดเริ่มลอยคอขึ้นมาตาย สิ่งสำคัญทำให้ชาวประมงจับสัตว์น้ำไม่ได้
หลังจากที่ชาวประมงพื้นบ้านได้ดำเนินขอร้องให้กลุ่มประมงดำหอยหยุดดำไม่เป็นผล อีกทั้งภาครัฐยังไม่เข้ามาแก้ปัญหาให้ชาวประมงพื้นบ้าน พรุ่งนี้ชาวประมงพื้นบ้านเตรียมนำเรือมาปิดร่องน้ำเพื่อประท้วงที่ภาครัฐไม่มาแก้ไขให้อย่างจริงจัง
ด้านนางอรวรรณ จิตโสภาโรจน์ ตัวแทนประมงดำหอย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การทำประมงดำหอยด้วยการใช้มือเปล่าไม่มีกฎหมายข้อไหนห้ามให้ทำ ทุกวันนี้ไม่อยากให้คนในหมู่บ้านกันเกิดความแตกแยก มาพูดจากันทำความเข้าใจกันว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ ทุกวันนี้พวกตนก็ออกไปทำประมงนอกเขตอนุรักษ์ 3,000 เมตร แต่ก็ยังไม่พอใจ จริงๆ อยากจะให้หน่วยงานภาครัฐมาเป็นคนกลางมาทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย ประกอบอาชีพด้วยกันได้โดยไม่เกิดปัญหา เช่น กำหนดให้กลุ่มเรือดำหอยทำได้กี่เดือน หรือกำหนดจุดว่าที่ตรงไหนดำได้ จุดไหนดำไม่ได้ ไม่ใช่มาใช้พวกมากกดดันสั่งให้พวกตนหยุดเลย แล้วใครจะยอม ในเมื่อพวกตนประกอบอาชีพสุจริตไม่ผิดกฎหมาย จริงแล้วอยากจะให้มีคนกลางมาประสานโดยให้ทั้ง 2 กลุ่มสามารถทำประมงร่วมกันได้แบบยั่งยืน
