ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวประมงพื้นบ้านประจวบฯ ชุมนุมจี้หน่วยงานรัฐให้ใช้มาตรการกฎหมายขั้นเด็ดขาดกับเรือคราดหอยที่ลักลอบมาทำการประมงในเขตอนุรักษ์ซ้ำซาก หลังถูกจับมาแล้ว 5 ครั้งก็ยังไม่เข็ด
วันนี้ (30 เม.ย.) ชาวประมงพื้นบ้านจากอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และอำเภอกุยบุรี กว่า 150 คน ได้รวมตัวชุมนุมกันที่บริเวณสะพานปลาประจวบคีรีขันธ์ เพื่อทวงถามกรณีเรือประมงลักลอบคราดหอยลายในเขตพื้นที่ห่วงห้าม หลังจากที่เรือคราดหอยลายโชคบุญฤทธิ์ ถูกเจ้าหน้าที่ประมงนำเรือตรวจการณ์ประมงจับกุมได้เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความผิดครั้งที่ 5 ของเรือโชคบุญฤทธิ์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เคยมีบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างจังหวัด สำนักงานประมง ประมงพื้นบ้าน กับเจ้าของเรือคราดหอยลายแล้ว โดยเจ้าของเรือโชคบุญฤทธิ์ ตกลงจะยอมเลิกทำอาชีพเรือประมงคราดหอยอย่างเด็ดขาด แต่ก็ไม่เป็นผล ดังนั้น ชาวประมงพื้นบ้านจึงมาติดตามทวงถามเจ้าหน้าที่รัฐให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับเรือคราดลายที่มีพฤติกรรมผ่าฝืนกฎหมายดังกล่าว
นายปิยะ เทศแย้ม ประธานกลุ่มเรือประมงพื้นบ้านกุยบุรี แกนนำ กล่าวว่า จังหวัดได้ออกหนังสือห้ามทำการประมงคราดหอยลายในระยะ 5,400 เมตรห่างจากชายฝั่ง แต่เรือคราดหอยก็ยังคงลักลอบทำการประมงในระยะต่ำกว่า 3,000 เมตร บริเวณบ้านโพนเรียง บ้านทุ่งน้อย บ้านคั่นกระได ตั้งแต่อำเภอกุยบุรี ลงมาถึงอำเภอเมือง เนื่องจากบริเวณนี้เป็นแหล่งหอยลายชุกชุม และเจ้าของเรือคราดหอย คือ นายบัญชี มูลเขียน เจ้าของเรือโชคบุญฤทธิ์ ก็เคยถูกจับข้อหาทำการประมงต่ำกว่าระยะที่กฎหมายกำหนดที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
“โดยการจับกุมของเจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ของเรือโชคบุญฤทธิ์ แต่เรือคราดหอยก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดการทำการประมง และภาครัฐยังไม่มีมาตรการเด็ดขาดนำมาใช้ การคราดหอยสร้างความเสียหายต่อสัตว์ทะเลหลายชนิด เพราะทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย และสัตว์ทะเลตาย จนชาวประมงพื้นที่ไม่สามารถจับปลา และปูได้ จึงขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่จับกุมเรือผิดกฎหมายในครั้งนี้” นายปิยะกล่าว
วันนี้ (30 เม.ย.) ชาวประมงพื้นบ้านจากอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และอำเภอกุยบุรี กว่า 150 คน ได้รวมตัวชุมนุมกันที่บริเวณสะพานปลาประจวบคีรีขันธ์ เพื่อทวงถามกรณีเรือประมงลักลอบคราดหอยลายในเขตพื้นที่ห่วงห้าม หลังจากที่เรือคราดหอยลายโชคบุญฤทธิ์ ถูกเจ้าหน้าที่ประมงนำเรือตรวจการณ์ประมงจับกุมได้เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความผิดครั้งที่ 5 ของเรือโชคบุญฤทธิ์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เคยมีบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างจังหวัด สำนักงานประมง ประมงพื้นบ้าน กับเจ้าของเรือคราดหอยลายแล้ว โดยเจ้าของเรือโชคบุญฤทธิ์ ตกลงจะยอมเลิกทำอาชีพเรือประมงคราดหอยอย่างเด็ดขาด แต่ก็ไม่เป็นผล ดังนั้น ชาวประมงพื้นบ้านจึงมาติดตามทวงถามเจ้าหน้าที่รัฐให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับเรือคราดลายที่มีพฤติกรรมผ่าฝืนกฎหมายดังกล่าว
นายปิยะ เทศแย้ม ประธานกลุ่มเรือประมงพื้นบ้านกุยบุรี แกนนำ กล่าวว่า จังหวัดได้ออกหนังสือห้ามทำการประมงคราดหอยลายในระยะ 5,400 เมตรห่างจากชายฝั่ง แต่เรือคราดหอยก็ยังคงลักลอบทำการประมงในระยะต่ำกว่า 3,000 เมตร บริเวณบ้านโพนเรียง บ้านทุ่งน้อย บ้านคั่นกระได ตั้งแต่อำเภอกุยบุรี ลงมาถึงอำเภอเมือง เนื่องจากบริเวณนี้เป็นแหล่งหอยลายชุกชุม และเจ้าของเรือคราดหอย คือ นายบัญชี มูลเขียน เจ้าของเรือโชคบุญฤทธิ์ ก็เคยถูกจับข้อหาทำการประมงต่ำกว่าระยะที่กฎหมายกำหนดที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
“โดยการจับกุมของเจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ของเรือโชคบุญฤทธิ์ แต่เรือคราดหอยก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดการทำการประมง และภาครัฐยังไม่มีมาตรการเด็ดขาดนำมาใช้ การคราดหอยสร้างความเสียหายต่อสัตว์ทะเลหลายชนิด เพราะทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย และสัตว์ทะเลตาย จนชาวประมงพื้นที่ไม่สามารถจับปลา และปูได้ จึงขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่จับกุมเรือผิดกฎหมายในครั้งนี้” นายปิยะกล่าว