ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ เรียกส่วนราชการเกี่ยวข้องถกแก้ปัญหาเรือคราดหอยลายต่างถิ่นลักลอบคราดหอยลายในเขต 3,000 เมตร พร้อมสั่งให้เรือตรวจประมงทะเล เรือตำรวจน้ำนำเรือไปทอดสมออยู่ในจุดพิพาท และย้าย “สารวัตรตำรวจน้ำปากน้ำปราณ” เข้าช่วยราชการให้คนใหม่มาทำหน้าที่แทน ขณะที่ “อธิบดีกรมประมง” สั่งหาทางเยียวยาชาวประมงพื้นบ้านที่เครื่องมือหากินเสียหาย ด้านชาวประมงพื้นบ้านพอใจยอมยกเลิกปิดร่องน้ำ ลั่นจะติดตามการปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่อง
วันนี้ (14 ก.พ.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายจิตจรูญ ตันติวาลา ประมงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายลิขิต บุญสิทธิ์ หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการประมง นายอำเภอปราณบุรี นายอำเภอกุยบุรี ตำรวจน้ำปากน้ำปราณ ตำรวจภูธร เจ้าหน้าที่เรือตรวจประมงทะเล ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาเรือคราดหอยลายจากต่างถิ่นที่เข้ามาลักลอบทำการประมงในเขตพื้นที่ 3,000 เมตร ในพื้นที่ อ.ราณบุรี อ.หัวหิน อ.กุยบุรี อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
และที่เกิดปัญหาหนักสุดก็คือ ในพื้นที่ปากน้ำปราณ จนทำให้ชาวประมงพื้นบ้านปากน้ำปราณ นำเรือหางยาวมาปิดร่องน้ำปากน้ำปราณทำให้เรือไม่สามารถเข้าออกได้ และได้ยื่นข้อเสนอต่อทางจังหวัดให้มีการย้ายสารวัตรตำรวจน้ำปราณบุรีออกนอกพื้นที่ และให้สับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่เรือตรวจประมงทะเลชุดใหม่เข้ามาแทน รวมไปถึงการให้หน่วยงานภาครัฐดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายเกี่ยวกับเครื่องมือการทำประมงของชาวประมงพื้นบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเรือคราดหอยลายต่างถิ่น โดยเหตุการณ์ประท้วงครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยภายหลังการประชุม ซึ่งได้ข้อยุติร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ว่า ขณะนี้ได้สารวัตรงานตำรวจน้ำปากน้ำปราณ ได้มีการย้ายไปช่วยรายการในที่อื่นแล้ว และจะมีสารวัตรตำรวจน้ำคนใหม่เข้ามาดูแลแทน รวมทั้งจะมีการสับเปลี่ยนชุดเรือตรวจการณ์ ให้ฝ่ายปกครองจัดกำลังเจ้าหน้าที่ อส.เข้าไปร่วมสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ และชาวประมงพื้นบ้าน พร้อมให้ประมงจังหวัดทำหนังสือถึงอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้จัดส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมดำเนินการในเรื่องของการเฝ้าระวังป้องกันการเข้ามาลักลอบคราดหอยลายจากต่างถิ่น
“นับจากนี้เป็นต้นไปตำรวจน้ำ พร้อมเรือตรวจจะต้องไปทอดสมออยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มักเกิดปัญหาการลักลอบคราดหอยลาย และเรือตรวจประมงทะเลด้วยเช่นกัน เบื้องต้น หากการดำเนินการมีปัญหาเกิดขึ้นอีกก็จะทำเรื่องร้องขอไปยังกองทัพเรือ กองเรือภาคที่ 1 ให้เข้ามาช่วยเหลือ และให้มีการประชุมเจ้าหน้าที่ในส่วนต่างๆ กับการแก้ไขปัญหาเรือคราดหอยลายให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาแบบบูรณาการ” นายวีระกล่าว
ด้านนายวิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า เรื่องปัญหาเรือคราดหอยลายที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตนได้รับรายงานจากทางประมงจังหวัดแล้ว และมีการพูดคุยกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ทั้งการตรวจตราเฝ้าระวัง การจัดตั้งชุดเฉพาะกิจของจังหวัด และเจ้าหน้าที่เรือตรวจประมงทะเลให้เข้ามาสลับเปลี่ยนหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่ รวมไปถึงการให้ความสำคัญในการเข้าไปดูแลเฝ้าระวังตามแนวเขตพื้นที่ 3,000 เมตรแล้ว
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์ของชาวประมงพื้นบ้านนั้น ตนก็ได้มอบหมายให้ทางประมงจังหวัดเข้าไปดำเนินการดูแลให้การช่วยเหลือแก่ชาวประมงแล้วเช่นกัน
“สิ่งสำคัญปัญหาที่เกิดขึ้นเราต้องหาทางแก้ไขโดยเร็ว เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจนถึงมีการปิดร่องน้ำประท้วงของชาวประมง ทั้งหมดนี้เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันปราศจากความขัดแย้ง และทำการประมงโดยถูกกฎหมาย” นายวิมลกล่าว
ด้านนายเจือ แคใหญ่ ตัวแทนชาวประมงเรือเล็กปากน้ำปราณ ยอมยกเลิกปิดร่องน้ำแล้ว หลังผลที่ประชุมสรุปเป็นที่น่าพอใจ พร้อมกล่าวว่า หลังจากนี้จะคอยติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต่อไป และหวังว่าปัญหาการลักลอบทำการประมงหอยลายในพื้นที่ 3,000 เมตรจะหมดไป