xs
xsm
sm
md
lg

ตร.พังงารวบพ่อค้ายาเสพติดได้ 6 คน พร้อมของกลางมูลค่าร่วม 2 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พังงา - ตำรวจพังงาโชว์ผลงานรวบแก๊งค้ายาบ้า และยาไอซ์รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 6 คน พร้อมของกลางทั้งยาบ้า และยาไอซ์ มูลค่าร่วม 2 ล้านบาท

วันนี้ (14 ก.พ. ) พล.ต.ต.ชลิต แก้วยะรัตน์ ผบก.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.วรวิทย์ ปานปรุง รอง ผบก.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.เมืองพังงา พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองพังงา ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ของจังหวัดพังงา โดยได้นำตัว นายชัยยุทธ ประสานพันธ์ อายุ 35 ปี อาชีพทำการประมงพื้นบ้าน อยู่บ้านเลขที่ 9/8 ม.5 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา นายสมชาย ประสานพันธ์ อายุ 40 ปี พี่ชายของนายชัยยุทธ (อยู่บ้านเดียวกัน อาชีพเดียวกัน)

ในที่เกิดเหตุยังพบ น.ส.บุญยา วารีศรี อายุ 27 ปี อาชีพแม่บ้าน อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 5 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา นายธนวัฒน์ เพชรเกลี้ยง อายุ 27 ปี อาชีพทำการประมงพื้นบ้าน อยู่บ้านเลขที่ 10/2 หมู่ที่ 5 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา อยู่ภายในบ้านโดยยอมรับว่า ได้มาร่วมเสพยาเสพติดกับนายชัยยุทธ พร้อมด้วยของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 4,003 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 3 ถุง น้ำหนักรวม 488.90 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพอีกจำนวนมาก

จากนั้นจึงทำการขยายผลโดยทำการค้นบ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 5 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา พบนายบูหลาด บุญเต็ม อายุ 52 ปี อาชีพประมงพื้นบ้าน อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 5 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา นายนที บุญเต็ม อายุ 26 ปี อาชีพประมงพื้นบ้าน ลูกชายนายบูหลาด พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 600 เม็ด เงินสด จำนวน 146,480 บาท จากการสอบถามนายชัยยุทธ ยอมรับว่า ตนเองได้รับยาเสพติดทั้งหมดมาจากเอเยนต์คนหนึ่งที่นำมาส่งให้ปากทางเข้าหมู่บ้าน จากนั้นจึงแบ่งให้ทางนายบูหลาด ไปจำหน่าย

ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ยาบ้า ยาไอซ์ ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยนายชัยยุทธ นายบูหลาด และนายนที ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วน น.ส.บุญยา นายธนวัฒน์ ได้ให้การภาคเสธ พร้อมนำส่ง พ.ต.ท.อรุญ โสภาการ พงส. (สบ 3) สารวัตรเวร สภ.เมืองพังงา จ.พังงา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
พล.ต.ต.ชลิต แก้วยะรัตน์ ผบก.ภ.จว.พังงา กล่าวว่า แม้ว่าจังหวัดพังงาจะไม่ใช่จังหวัดที่มียาเสพติดมากแต่ก็ยังมีบุคคลบางรายที่ยังหันมายึดอาชีพจำหน่ายยาเสพติดอาจจะเป็นไปได้ว่าปัจจุบันพ่อค้าหลายรายเปลี่ยนวิธีการในการส่งสินค้า และตบตาเจ้าหน้าที่อย่างแนบเนียน นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทางเจ้าหน้าที่ยังสามารถสืบจนสามารถจับกุมได้ ส่วนที่หลุดรอดมาได้ในครั้งนี้อาจจะเป็นเพราะการติดต่อที่ทันสมัยขึ้น ซึ่งการจับกุมครั้งนี้หากหลุดรอดสู่ตลาดได้ คิดเป็นมูลค่าร่วม 2 ล้านบาท
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น