กระบี่ - เครือข่ายชาวสวนยางพาราจังหวัดกระบี่ เดือดร้อนราคายางฯ บุกศาลากลางยื่นหนังสือถึง ผวจ.กระบี่ ช่วยเหลือ หลังราคายางพารามีแนวโน้มตกต่ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้เวลา 15 วันดำเนินการ หากยังไม่ได้การแก้ไข เตรียมยกระดับการชุมนุม
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (24 ก.ค.) นายวิรัตน์ แก้วสร ประธานเครือข่ายชาวสวนยางพาราจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 200 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐบาลขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ผ่านนายประสิทธิ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ หลังราคายางพาราตกต่ำมานานโดยไม่ได้รับการช่วยเหลือแก้ไข โดยมี นายสมาน แสงสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ออกมารับหนังสือแทน พร้อมจะส่งหนังสือถึงรัฐบาลให้ช่วยแก้ไขปัญหาต่อไป
นายวิรัตน์ แก้วสร ประธานเครือข่ายชาวสวนยางพาราจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเรื่องราคายางพาราตกต่ำมาเป็นระยะเวลายาวนาน รัฐบาลไม่ยอมช่วยเหลือแก้ปัญหาให้แก่เกษตรกรแต่อย่างได และขณะนี้ทราบว่า ราคายางพาราก็มีแนวโน้มว่าจะลดราคาต่ำลงเรื่อยๆ ทางคณะกรรมการเครือข่ายจังหวัดกระบี่ และทางคณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยางพาราแห่งประเทศ ได้ดำเนินการประชุมร่วมกัน และในที่ประชุมได้มีมติออกมาว่า ให้รัฐบาลยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราทั่วประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่ในจำนวน 61 จังหวัด
ส่วนการยื่นหนังสือในวันนี้ ทุกจังหวัดได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลในมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ซึ่งกำหนดราคายางพารา 4 ข้อ คือ ราคายางแผ่นรมควัน ชั้น 3 ให้อยู่ในราคา กิโลกรัมละ 101 บาท ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 กิโลกรัมละ 92 บาท ราคาน้ำยางสด กิโลกรัมละ 81 บาท และราคายางก้อนถ้วย 100 เปอร์เซ็นต์ กิโลกรัมละ 83 บาท และทางเครือข่ายได้มีมติร่วมกันว่า ถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลในเรื่องนี้ภายใน 15 วัน ทางเครือข่ายเกษตรกรทุกจังหวัดจะร่วมชุมนุมพร้อมๆ กัน ซึ่งวันนี้เรามาเพียงที่จะยื่นหนังสือเท่านั้น แต่ต่อไปก็จะยกระดับการชุมนุมขึ้นเรื่อยๆ
ด้าน นายสมาน แสงสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากกรณีที่เกษตรกรชาวสวนยางพาราได้รับความเดือดร้อน และได้เดินทางมาที่จังหวัด ทางจังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เสนอเรื่องที่เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนไปยังรัฐบาลได้รับทราบทุกครั้ง และในวันนี้ก็เช่นกัน ซึ่งมีทั้งพาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด มาร่วมรับทราบปัญหา และจะเสนอเรื่องไปยังกระทรวงที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบได้รับทราบ