ตำรวจน้ำภูเก็ตชูมาตรการเชิงรุก เร่งปราบการค้ามนุษย์-ยาเสพติด

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจน้ำภูเก็ต วางมาตรการเชิงรุกป้องปรามค้ามนุษย์-ยาเสพติด เผยจากการวางกำลังเจ้าหน้าที่หมุนเวียนสุ่มตรวจปัสสาวะลูกเรือตามท่าเรือต่างๆ เพื่อหาสารเสพติด ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มเรือเร็ว และเรือท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (8 ส.ค.) ที่ห้องประชุมกองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำภูเก็ต พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รองผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม เรื่อง การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และป้องกันการปราบปรามยาเสพติด มีผู้ประกอบกิจการประมง และผู้ประกอบกิจการเรือเดินทะเล ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรทำหน้าที่ปราบปรามทางน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำภูเก็ต กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจแก่ผู้ประกอบกิจการประมง และผู้ประกอบกิจการเรือเดินทะเลในเขตรับผิดชอบ และเพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายผู้บังคับบัญชาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสำเร็จตามเป้าหมาย ในเรื่องการป้องกันแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และป้องกันปราบปรามยาเสพติด สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำภูเก็ต จึงดำเนินการจัดประชุมผู้ประกอบกิจการประมง ผู้ประกอบการเรือเดินทะเลขึ้นในวันนี้

ด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รองผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุม ว่า สำหรับในส่วนของกองกำกับการ 8 จะไม่มีในเรื่องของการค้ามนุษย์ การค้ามนุษย์ส่วนใหญ่อยู่ในแถบโซนอ่าวไทย อย่างจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร หรือว่าจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นแรงงานที่ถูกส่งไปอินโดนีเซีย หรือว่าไกลสุดไปถึงประเทศออสเตรเลีย ระยะเวลาการทำงานนาน 7-8 เดือน ทำให้แรงงานอยากกลับบ้าน บางคนไม่อยากทำแล้ว แต่ไม่สามารถเดินทางกลับได้ ซึ่งลักษณะการค้ามนุษย์ในกลุ่มแรงงานเรือประมง เช่น จะมีการหลอกลวงแรงงานคนไทย หรือพม่า ว่า ได้เงินเดือนดี เป็นต้น แรงงานเหล่านี้ก็จะลงเรือประมงแล้วออกเดินทางไป แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็พบว่าไม่ได้เป็นตามที่ตกลงกันไว้ ไม่ให้เดินทางกลับเลย บางส่วนก็มีการทำร้ายบังคับขู่เข็ญให้อยู่บนเรือประมงไม่ให้กลับ ซึ่งจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นหลายครั้งหลายคราวทั่วโลกก็มองประเทศไทยว่าเกิดปัญหานี้ขึ้นเพราะอะไร

ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงก็คือ การทำประมงในทะเลลึกต้องไปอยู่เป็นระยะเวลานานแรมปีอยู่แล้ว ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไป-กลับ ก็ต้องสมดุลกันในการประกอบธุรกิจ เพราะฉะนั้น เราจึงต้องมีการชี้แจงให้แก่กลุ่มเรือประมงรับทราบ ว่า เราต้องมีการผ่อนปรน หรือว่าให้มีการหยุดพักบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับเรือประมงในภูเก็ต เพราะว่าเรือที่ออกไปทำประมงสูงสุดจะใช้เวลานานประมาณ 3-8 วัน หลังจากนั้นก็เข้าฝั่งแล้ว เพราะฉะนั้น การบังคับขู่เข็ญแรงงานเรือประมงก็จะไม่เกิดขึ้นในภูเก็ต

พ.ต.ท.ประเสริฐ กล่าวต่อไปอีกว่า มาตรการสำคัญอีกอย่างที่ดำเนินการอย่างเข้มข้นในกลุ่มของตำรวจน้ำ คือ ปัญหายาเสพติดในกลุ่มเรือประมง เรือเร็ว เรือท่องเที่ยว ซึ่งเรามีการหมุนเวียนไปสุ่มตรวจปัสสาวะลูกเรือตามท่าเรือต่างๆ ทุกสัปดาห์ และจากการสุ่มตรวจส่วนใหญ่จะเจอในกลุ่มของเรือเร็ว และเรือท่องเที่ยว ส่วนลูกเรือประมงซึ่งเป็นพม่า พบค่อนข้างน้อย เนื่องจากรายได้เขาน้อย ยาบ้ามีราคาแพง ทำให้การเสพยาเสพติดในกลุ่มเรือประมงจะไม่มี

“หากมีการเสพยาบ้า แล้วไปขับเรือก็จะเป็นปัญหาต่อการท่องเที่ยว ตรงนี้เราคุมเข้มมาก มีการสุ่มตรวจโดยไม่บอกล่วงหน้า ตรวจพบปัสสาวะเป็นสีม่วง ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีการละเว้น ตอนนี้ก็สุ่มตรวจตลอดเพื่อเป็นการป้องปราม ก็เน้นตรวจทั้งเรือเร็ว เรือท่องเที่ยว เรือประมง เราพบพวกกัญชาเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งราคาถูกเสพกันได้ แต่ยาบ้าจะพบเรือเร็ว เรือท่องเที่ยว ตรวจปัสสาวะลูกเรือมีปัสสาวะสีม่วงหลายครั้งแล้ว พอสุ่มตรวจเจอเป็นการป้องปรามได้ ตรวจทั้งก่อนออกเรือ กลับเข้าฝั่งด้วย พอเราป้องปรามมาก ทำให้เกิดการกลัวไม่กล้าแล้ว” พ.ต.ท.ประเสริฐ กล่าวและว่า

สำหรับกองกำกับการ 8 ซึ่งรับผิดชอบ ระนอง พังงา ภูเก็ต เรามีมาตรการเชิงรุกในมาตรการป้องกัน แต่อย่างไรก็ตาม ทางกองกับกับการ 8 ขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการเรือประมง และผู้ประกอบกิจการเรือเดินทะเล ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่เรื่องการค้ามนุษย์ และยาเสพติด ถ้ามีปัญหาติดต่อได้ที่กองบังคับการตำรวจน้ำ เราพร้อมเข้าไปดูแลควบคุมดำเนินการอย่างเฉียบขาด