ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สมาคมประมงสงขลา ออกมาแถลงข่าวโต้นางปวีณา หงสกุล รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีนำกำลังสุ่มตรวจร้านคาราโอเกะ และกล่าวหาว่า ประมงในจังหวัดสงขลามีการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นการฟังความข้างเดียว
วันนี้ (30 ก.ค.) ที่สมาคมประมงจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายเฉลียว ทองมา นายกสมาคมประมงมิตรสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และรองนายกสมาคมประมงจังหวัดสงขลา พร้อมตัวแทนชาวประมงร่วมแถลงข่าวกรณีที่ นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงมนุษย์ นำกำลังเข้ามาตรวจค้นร้านคาราโอเกะในพื้นที่ จ.สงขลา และนำเสนอข่าวการค้ามนุษย์ในเรือประมงจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตามคำให้การของนายนเรศ เนียวกุล ว่า มีการกักขังหน่วงเหนี่ยว และบังคับใช้แรงงานกว่า 20 ปี โดยเป็นการรับฟังข้อมูลจากฝ่ายเดียว ไม่ได้มีการสอบถามผู้ประกอบการประมง
เพราะในจังหวัดสงขลา ไม่มีการค้ามนุษย์ นายนเรศ ก็ทำประมงมานานกว่า 18 ปี เปลี่ยนเรือประมงไปหลายลำ ล่าสุด ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากทำงานไม่ไหว เพราะเป็นโรคอ้วน โดยทางสมาคมประมงมีหลักฐานต่างๆ พร้อม แต่นายนเรศ กลับมาให้การเป็นเท็จต่อนางปวีณา จนสร้างความเสียหาย ทำให้ผู้ประกอบการประมง และประชาชนในพื้นที่ จ.สงขลา ได้รับความเสื่อมเสีย และสร้างความเสียหายให้แก่จังหวัดสงขลา
ซึ่งทางสมาคมประมงสงขลา และสมาคมประมงมิตรสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ได้ต่อต้านการค้ามนุษย์มาโดยตลอด พร้อมให้การช่วยเหลือลูกเรือหลายราย บางรายได้ส่งต่อเพื่อรักษาพยาบาล ส่งกลับภูมิลำเนาตามความประสงค์ของแรงงาน กรณีล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสกัดกั้นขบวนการค้ามนุษย์นอกพื้นที่ ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งนำแรงงานมาขายให้แก่กลุ่มเรือประมงในพื้นที่ จ.สงขลา แต่ก็ไม่ได้ติดต่อผู้สื่อข่าวเพื่อนำเสนอข่าวแต่อย่างใด เพราะเป็นการกระทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
รองนายกสมาคมประมงสงขลา กล่าวยืนยันว่า ในพื้นที่ จ.สงขลา ไม่มีการค้ามนุษย์อย่างแน่นอน พร้อมขอยืนหยัดที่จะร่วมต่อต้านการค้ามนุษย์ต่อไป เพราะหากปล่อยให้มีการค้ามนุษย์เกิดขึ้นในพื้นที่ ผู้ที่เดือดร้อนก็คือ ชาวประมงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในขณะนี้ที่สหรัฐอเมริกา ได้จัดระดับประเทศไทยให้อยู่ในระดับ 2 ที่เป็นประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) ตั้งแต่ปี 2553 และหากประเทศไทยถูกปรับให้อยู่ในระดับ 3 เมื่อใด นั่นก็หมายถึงจุดจบของผู้ประกอบการประมงสงขลาเช่นกัน
วันนี้ (30 ก.ค.) ที่สมาคมประมงจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายเฉลียว ทองมา นายกสมาคมประมงมิตรสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และรองนายกสมาคมประมงจังหวัดสงขลา พร้อมตัวแทนชาวประมงร่วมแถลงข่าวกรณีที่ นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงมนุษย์ นำกำลังเข้ามาตรวจค้นร้านคาราโอเกะในพื้นที่ จ.สงขลา และนำเสนอข่าวการค้ามนุษย์ในเรือประมงจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตามคำให้การของนายนเรศ เนียวกุล ว่า มีการกักขังหน่วงเหนี่ยว และบังคับใช้แรงงานกว่า 20 ปี โดยเป็นการรับฟังข้อมูลจากฝ่ายเดียว ไม่ได้มีการสอบถามผู้ประกอบการประมง
เพราะในจังหวัดสงขลา ไม่มีการค้ามนุษย์ นายนเรศ ก็ทำประมงมานานกว่า 18 ปี เปลี่ยนเรือประมงไปหลายลำ ล่าสุด ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากทำงานไม่ไหว เพราะเป็นโรคอ้วน โดยทางสมาคมประมงมีหลักฐานต่างๆ พร้อม แต่นายนเรศ กลับมาให้การเป็นเท็จต่อนางปวีณา จนสร้างความเสียหาย ทำให้ผู้ประกอบการประมง และประชาชนในพื้นที่ จ.สงขลา ได้รับความเสื่อมเสีย และสร้างความเสียหายให้แก่จังหวัดสงขลา
ซึ่งทางสมาคมประมงสงขลา และสมาคมประมงมิตรสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ได้ต่อต้านการค้ามนุษย์มาโดยตลอด พร้อมให้การช่วยเหลือลูกเรือหลายราย บางรายได้ส่งต่อเพื่อรักษาพยาบาล ส่งกลับภูมิลำเนาตามความประสงค์ของแรงงาน กรณีล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสกัดกั้นขบวนการค้ามนุษย์นอกพื้นที่ ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งนำแรงงานมาขายให้แก่กลุ่มเรือประมงในพื้นที่ จ.สงขลา แต่ก็ไม่ได้ติดต่อผู้สื่อข่าวเพื่อนำเสนอข่าวแต่อย่างใด เพราะเป็นการกระทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
รองนายกสมาคมประมงสงขลา กล่าวยืนยันว่า ในพื้นที่ จ.สงขลา ไม่มีการค้ามนุษย์อย่างแน่นอน พร้อมขอยืนหยัดที่จะร่วมต่อต้านการค้ามนุษย์ต่อไป เพราะหากปล่อยให้มีการค้ามนุษย์เกิดขึ้นในพื้นที่ ผู้ที่เดือดร้อนก็คือ ชาวประมงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในขณะนี้ที่สหรัฐอเมริกา ได้จัดระดับประเทศไทยให้อยู่ในระดับ 2 ที่เป็นประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) ตั้งแต่ปี 2553 และหากประเทศไทยถูกปรับให้อยู่ในระดับ 3 เมื่อใด นั่นก็หมายถึงจุดจบของผู้ประกอบการประมงสงขลาเช่นกัน
