ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตรวจความพร้อมการให้บริการนักท่องเที่ยวทางเรือที่ท่าเรือรัษฎา เพื่อดูทั้งเรื่องการให้บริการของเรือท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน และปลอดภัย แต่อยากให้ปรับปรุงบริเวณรอบๆ ท่าเรือให้ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น พร้อมหาข้อมูลเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดน้ำมันรั่วไหลในทะเลเหมือนระยอง
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (4 ส.ค.) ที่บริเวณท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางมาตรวจความพร้อมการให้บริการของท่าเทียบเรือ และเรือนำเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่า ภูมิภาค สาขาภูเก็ต นำตรวจความพร้อมของเรือท่องเที่ยว และเรือโดยสารที่จะออกเดินทางจากจังหวัดภูเก็ต ไปยังเกาะพีพี จ.กระบี่ และเกาะแก่งต่างๆ ในทะเลอันดามัน โดยบรรยากาศที่บริเวณท่าเรือดังกล่าวในช่วงเช้าๆ เป็นไปด้วยความคึกคัก มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาลงเรือไปท่องเที่ยวยังเกาะพีพีแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือเดินทางโดยสารไปพักผ่อนต่อยังเกาะพีพี และเกาะลันตา จ.กระบี่
นายไมตรี กล่าวภายหลังตรวจความพร้อมของท่าเรือ และเรือให้บริการนักท่องเที่ยว ว่า การมาตรวจการให้บริการนักท่องเที่ยวของเรือนำเที่ยว และเรือโดยสารที่จะนำนักท่องเที่ยวไปยังเกาะพีพี จ.กระบี่ ทำให้เห็นว่า ภูเก็ต มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับจังหวัดในกลุ่มอันดามันด้วยกัน ซึ่งที่มาในวันนี้อยากจะมาดูความพร้อมใน 3 เรื่องหลักของท่าเรือรัษฎา คือ
1.การให้บริการของเรือนำเที่ยว บริษัทเจ้าของเรือ จะเห็นว่าการให้บริการเป็นไปด้วยดี มีระบบการให้บริการที่ได้มาตรฐาน มีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมากจนต้องเพิ่มเรือให้บริการ วันละประมาณ 1,500 คน 2.ความสะอาดของบริเวณท่าเรือทั้งหมด ห้องน้ำ ที่นั่ง อาหาร เป็นต้น และ 3.ความปลอดภัยในการบริการทางเรือ
จากการลงไปสำรวจในเรือ ปรากฏว่า ทุกที่นั่งมีเรือชูชีพครบ และการที่เรือจะออกจากท่าได้ทางเจ้าท่าภูเก็ตได้เข้มงวดในเรื่องของความปลอดภัย จะต้องมีเสื้อชูชีพ น้ำนักจะต้องไม่เกิน และเรือจะต้องพร้อมในการช่วยเหลือหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น รวมทั้งจะต้องติดตามสถานการณ์พยากรณ์อากาศในช่วงที่มีมรสุมคลื่นลมแรงอีกด้วย
และในเรื่องความปลอดภัยนั้น ทางกลุ่มจังหวัดอันดามัน ได้ของบประมาณมาดำเนินการติดตั้งเรดาร์ติดตามเรือที่เข้ามาภูเก็ต จำนวน 45 ล้านบาท โดยจะมีศูนย์สั่งการอยู่ที่ท่าเรืออ่าวฉลอง และมีสถานที่เรดาร์กระจายอยู่ในพื้นที่ 5 จังหวัดอันดามัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากจะให้ปรับปรุงคือ ทางเข้าออกท่าเรือที่ยังไม่เป็นระเบียบ และยังไม่สวยงามเท่าที่ควรน่าที่จะปรับปรุงให้ได้มาตรฐานมากกว่านี้ รวมถึงบูทที่ให้บริการภายในท่าเรือด้วย
นายไมตรี ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของจังหวัดภูเก็ต หากเกิดน้ำมันรั่วไหลเหมือนจังหวัดระยอง ว่า ภายหลังจากที่เกิดน้ำมันรั่วไหลในทะเลที่จังหวัดระยอง ตนได้สั่งการให้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด และประมวลข่าวเกี่ยวกับการกำจัดคราบน้ำมัน เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลในการเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลในทะเลภูเก็ต หรือทะเลอันดามัน เพื่อให้การขจัดคราบน้ำมันเป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบให้น้อยที่สุด เพราะภูเก็ต และอันดามัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหากเกิดเหตุการณ์เหมือนที่ระยองขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล